
ในยุค Digital Economy นี้ ธุรกิจ SMB หลายแห่งเริ่มนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของตน ส่งผลให้บริษัทเหล่านั้นเริ่มตกเป็นเป้าหมายของอาชญากรไซเบอร์มากขึ้น จากการสำรวจธุรกิจ SMB ชั้นนำกว่า 1,000 รายโดย Ponemon Institute พบว่าในช่วงปี 2018 ที่ผ่านมีบริษัทตกเป็นเหยื่อของการโจมตีไซเบอร์สูงถึง 67% และ 58% ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ Data Breach ในขณะที่ 47% ยอมรับว่า ไม่ทราบว่าจะปกป้องบริษัทจากภัยคุกคามไซเบอร์ได้อย่างไร
ปัญหาสำคัญของธุรกิจ SMB คือ การขาดแคลนบุคลากรและมีงบประมาณในการจัดการความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์จำกัด ด้วยเหตุนี้ WatchGuard ผู้นำด้านความมั่นคงปลอดภัยสำหรับธุรกิจ SMB จึงเปิดให้บริการเช่าใช้อุปกรณ์ Network Security, Secure Wi-Fi และ Multi-factor Authentication ที่มีคุณสมบัติเทียบเท่ากับอุปกรณ์ที่ใช้ในองค์กรขนาดใหญ่ พร้อมจัดสรรผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยให้ตลอด 24 ชั่วโมง ภายใต้โครงการ “WatchGuardONE” ในราคาเริ่มต้นเพียง 350 บาทต่อเดือนเท่านั้น

และนี่คือ 5 เหตุผลทำไมธุรกิจ SMB และสถานศึกษาจึงควรเช่าใช้อุปกรณ์ผ่านโครงการ WatchGuardONE แทนที่จะซื้ออุปกรณ์รักษาความมั่นคงปลอดภัยมาติดตั้งและบริหารจัดการด้วยตนเอง
1. ลดค่าใช้จ่ายทั้งการลงทุนและดูแลอุปกรณ์ลงได้สูงสุดถึง 80%
หลายคนอาจคิดว่า ในระยะยาว การลงทุนซื้ออุปกรณ์มาใช้งานจะมีค่าใช้จ่ายโดยรวมถูกกว่าการเช่าใช้อุปกรณ์ แต่อาจลืมพิจารณาถึงค่าใช้จ่ายซ่อนเร้นที่จะตามมา ไม่ว่าจะเป็นค่า MA และค่า Support ที่ต้องจ่ายให้กับเจ้าของผลิตภัณฑ์และตัวแทนจำหน่ายในแต่ละปี รวมไปถึงการว่าจ้างบุคลากรเพิ่มเพื่อให้มาดูแลอุปกรณ์ดังกล่าว ซึ่งต่างจากการเช่าซื้ออุปกรณ์ของ WatchGuard ที่รวมค่าใช้จ่ายทุกอย่างที่กล่าวไปไว้ในค่าบริการรายเดือนเรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้การเช่าซื้ออุปกรณ์สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายทั้งในส่วนของฮาร์ดแวร์และการดูแลอุปกรณ์โดยผู้เชี่ยวชาญลงได้สูงสุดถึง 80%
ตารางเปรียบเทียบการซื้ออุปกรณ์มาดูแลเองและการเช่าซื้ออุปกรณ์ของ WatchGuard

** ค่าใช้จ่ายโดยประมาณสำหรับบริษัทที่มีพนักงานประมาณ 100 คน
2. เปลี่ยน CapEx ไปเป็น OpEx เพื่อ Cash Flow ที่ดียิ่งขึ้น
จุดเด่นสำคัญของการเช่าใช้อุปกรณ์ คือ การเปลี่ยนค่าใช้จ่ายในการลงทุนด้านอุปกรณ์ (CapEx) ให้กลายเป็นค่าในจ่ายในการปฏิบัติงาน (OpEx) แทน ซึ่งช่วยให้บริษัทไม่ต้องรับภาระหนักในการจัดซื้ออุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่มีราคาสูงรวดเดียว แต่ใช้การชำระทีละน้อย เป็นงวดๆ แบบรายเดือนแทน ทำให้สามารถคำนวณค่าใช้จ่ายได้ง่ายและช่วยให้เงินหมุนเวียนภายในบริษัทดียิ่งขึ้น บริษัทสามารถนำเงินก้อนที่ต้องเตรียมไปซื้ออุปกรณ์ไปลงทุนอย่างอื่นเพื่อเพิ่มผลกำไรให้แก่บริษัทได้
3. ไม่คิดค่าบริการเมื่อหยุดใช้งานชั่วคราว
การเช่าใช้อุปกรณ์ของ WatchGuard จะคิดค่าบริการเป็นแบบรายเดือนโดยไม่มีกำหนดขั้นต่ำและไม่จำกัดปริมาณ สามารถเลือกใช้งานได้ตั้งแต่อุปกรณ์รุ่นเล็กที่สุดไปจนถึงรุ่นเรือธง ที่สำคัญคือ เดือนไหนที่ไม่ได้ใช้งานก็ไม่จำเป็นต้องชำระค่าเช่าอุปกรณ์ในเดือนนั้นๆ เช่น สถานศึกษาหยุดการใช้งานอุปกรณ์บางส่วนในช่วงที่นักศึกษาปิดเทอม หรือสำนักงานสาขาปิดปรับปรุงเป็นระยะเวลา 1 เดือน เป็นต้น โดยที่อุปกรณ์ทั้งหมดยังคงวางไว้ที่ไซต์ของลูกค้า ไม่ได้เรียกคืนกลับมาแต่อย่างใด
4. อัปเกรดเฟิร์มแวร์และฮาร์ดแวร์ได้ทันทีเมื่อต้องการขยายระบบ
ข้อดีของการเช่าใช้อุปกรณ์ คือ สามารถแจ้งให้ผู้ดูแลซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยอัปเกรดเฟิร์มแวร์เพื่อใช้งานฟีเจอร์ใหม่ได้ฟรี รวมไปถึงเพิ่ม/ลด Subscription และเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ใหม่เมื่อต้องการขยายระบบเพิ่มได้ทันทีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมและไม่จำเป็นต้องรอสั่งซื้อฮาร์ดแวร์ นอกจากนี้ ทีมผู้ดูแลจะคอยให้คำปรึกษาและช่วยเหลือในการโยกย้ายการตั้งค่าและนโยบายรักษาความมั่นคงปลอดภัยต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าหลังจากการอัปเกรดเฟิร์มแวร์และ/หรือฮาร์ดแวร์ อุปกรณ์ทั้งหมดจะสามารถทำได้อย่างถูกต้อง ทั้งนี้ ลูกค้าอาจจำเป็นต้องชำระค่าบริการรายเดือนเพิ่มเติมตามขนาดของฮาร์ดแวร์และ Subscription ที่เลือกใช้
5. มีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลและเฝ้าระวังภัยคุกคามตลอด 24 ชั่วโมง
การเช่าใช้อุปกรณ์ของ WatchGuard ควบรวมบริการ Managed Security Services กล่าวคือ WatchGuard จะจัดสรรบุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยมาคอยให้ปรึกษาและบริหารจัดการอุปกรณ์ที่ใช้งานแบบครบวงจร ตั้งแต่การวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า การออกแบบ ติดตั้ง และดูแลรักษาตลอดเวลาแบบ 7/24 รวมไปถึงคอยเฝ้าระวังและแจ้งเตือนลูกค้าเมื่อมีเหตุไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีการจัดทำรายงานสรุปสำหรับผู้บริหารในแต่ละเดือนอีกด้วย ช่วยให้การปฏิบัติงานด้านความมั่นคงปลอดภัยของบริษัทกลายเป็นเรื่องง่าย ลดภาระของฝ่าย IT และทำให้บริษัทสามารถโฟกัสกับการดำเนินธุรกิจได้อย่างไร้กังวล

WatchGuardONE บริการเช่าใช้อุปกรณ์พร้อมผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลสำหรับธุรกิจ SMB
WatchGuard จับมือกันพันธมิตรหลายรายในประเทศไทยเพื่อให้บริการ WatchGuardONE ซึ่งเป็น Managed Security Services แบบครบวงจร ลูกค้าสามารถเช่าอุปกรณ์มาใช้งานได้แบบรายเดือน (ไม่มีกำหนดขั้นต่ำ) กรณีที่ไม่ได้ใช้งานก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าเช่าสำหรับอุปกรณ์ในเดือนนั้นๆ นอกจากนี้ พันธมิตรที่ให้บริการ WatchGuardONE ยังถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถให้คำปรึกษาตั้งแต่การออกแบบ ติดตั้ง ปรับจูน และดูแลระบบเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการเชิงธุรกิจขององค์กรได้
WatchGuardONE พร้อมให้บริการอุปกรณ์ Network Security และ Multi-factor Authentication แล้ว ในขณะที่ Secure Wi-Fi จะเริ่มให้บริการภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2019 นี้ เรียกว่าได้เป็นสุดยอดบริการที่เหมาะสำหรับธุรกิจ SMB ที่มีทรัพยากรบุคคลและงบประมาณจำกัดอย่างแท้จริง ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.watchguard.com/wgrd-sales/emailus หรืออีเมล uthaipat.r@watchguard.com หรือค้นหาตัวแทนจำหน่ายได้ที่ https://watchguardsupport.secure.force.com/PartnerFinder/ (ค้นหาคำว่า “Thailand”)
