Visa ได้ประกาศเพิ่มความสามารถในด้านของการตรวจจับและป้องกันการปลอมแปลงต่างๆ โดยมุ่งเน้นการบูรณาการกับสถาบันทางการเงินและกลุ่มลูกค้าที่ประกอบธุรกิจค้าขาย
RL Prasad ผู้ดำรงตำแหน่ง SVP ของ Visa Patment System Risk กล่าวว่า “หัวขโมยมักพยายามที่จะหลบเลี่ยงการป้องกันเดิมๆ เช่น ขโมย Credentials, เก็บเกี่ยวข้อมูล, ได้สิทธิ์ระดับสูง หรือโจมตี Supply chain ระดับ 3rd-party” ทั้งนี้ความสามารถใหม่ 4 รายการที่ทาง Visa นำเสนอมีดังนี้
- Visa Vital Signs – ความสามารถในการติดตามทุก Transaction ในเครือข่ายและแจ้งเตือนอัตโนมัติไปยังสถาบันทางการเงินและผู้เกี่ยวข้องโดยทันที หากพบเหตุการณ์ที่บ่งชี้ว่าเป็น Fraud หรือ ATM cashout Attack ทั้งนี้จะสามารถช่วยยับยั้งความเสียหายได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
- Visa Account Intelligence – ใช้ Deep Learning เพื่อวิเคราะห์ Transaction จำนวนมากที่เกิดขึ้นกับการ์ดที่ไม่ได้มีอยู่ในฐานข้อมูลของ Visa เช่น การเดาเลขบัญชี เลขหมดอายุ หรือ Security Code ด้วยวิธีการอัตโนมัติ
- Visa Payment Threat Lab – ระบบจำลองที่จะทำให้บริษัทสามารถทดสอบภาพแวดล้อมของการประมวลผลของลูกค้า โลจิกทางธุรกิจ และการตั้งค่าต่างๆ เพื่อดูว่ามีช่องโหว่ที่อาจนำไปสู่การโจมตีได้หรือไม่ โดยระบบจำลองจะทำให้การทดสอบเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนั่นเอง
- Visa eCommerce Threat Disruption (eTD) – เป็นซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อคอยแสกนหน้าเว็บ eCommerce ในระดับเรียลไทม์เพื่อตรวจสอบการทำ Card Skimmer ให้หน้าร้านค้าออนไลน์ที่รองรับการใช้ Visa
โดยความสามารถทั้งหมดนี้จะเพิ่มเข้ามาให้แพลตฟอร์ม Visa Threat Intelligence (VTI) ซึ่งทางบริษัทคุยว่าไม่ได้มีการคิดค่าบริการเพิ่มกับลูกค้าแต่อย่างใด มาถึงตรงนี้ก็แค่อยากจะให้ทราบว่าผู้ให้บริการนั้นได้คอยสรรหาเครื่องมือใหม่มาช่วยผู้ใช้งานกันอยู่แล้ว ดังนั้นสิ่งที่เราทำได้คือการระมัดระวังตัวเองตั้งแต่พฤติกรรมการใช้งานครับ