Black Hat Asia 2023

True IDC เปิดตัว Data Center แห่งใหม่ “True IDC – East Bangna” ล้ำหน้าด้วยมาตรฐานระดับโลก

True IDC ผู้นำธุรกิจ Data Center และ Cloud Computing แบบครบวงจรในประเทศไทย ทุ่มงบกว่า 1,000 ล้านบาท เปิดตัว Data Center แห่งใหม่ “True IDC – East Bangna” บนถนนบางนา-ตราด ชูจุดเด่นด้วยมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยสูง ล้ำหน้าด้วยนวัตกรรมและการออกแบบโครงสร้างเชิงวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมล่าสุด ได้รับการรับรองมาตรฐานจากสถาบัน Uptime ถึง 2 ด้านและมาตรฐาน ISO อีก 5 รายการ พร้อมเปิดให้บริการแล้ววันนี้

“True IDC ครองความเป็นผู้นำตลาด Data Center และผู้ให้บริการ Cloud อย่างต่อเนื่อง โดยมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ซึ่งในปี 2017 มีรายได้เติบโต 30% จากจุดแข็งที่เหนือกว่าผู้ให้บริการรายอื่นๆ ทั้งบริการที่ได้มาตรฐานระดับสากล การเชื่อมต่อกับโครงข่ายอินเทอร์เน็ตที่ใหญ่ที่สุดในไทยและเปิดกว้างการเชื่อมต่ออย่างเสรี บริการเสริม Value Added Services (VAS) ที่หลากหลาย และการให้บริการจากทีมงานมืออาชีพ รวมถึงความสำเร็จก้าวสำคัญในการออกแบบและก่อสร้างศูนย์ Data Center แห่งใหม่ ‘True IDC – East Bangna’ ได้มาตรฐานขั้นสูงจากสถาบัน Uptime เพื่อรองรับ
ความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น และจากการเปิดตัว Data Center แห่งใหม่นี้ ส่งผลให้เราสามารถให้บริการได้ครอบคลุมทุกพื้นที่” — คุณศุภรัฒศ์ ศิวะเพ็ชรานาถ สิงหรา ณ อยุธยา ผู้จัดการทั่วไปของ True IDC กล่าว

Data Center แห่งที่ 4 บนพื้นที่ที่เหมาะสมที่สุด

True IDC – East Bangna เป็น Data Center แห่งที่ 4 ในเครือ True IDC ต่อจาก True IDC – North Muang Thong, True IDC – Midtown Ratchada และ True IDC – Midtown Pattanakarn โดยตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด ระยะทาง 15 นาทีจากสนามบินสุวรรณภูมิ รองรับความจุ 500 ตู้แร็กสำหรับเฟสแรก และการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบใยแก้วนำแสง 2 ชุด พร้อมเทคโนโลยีอันทันสมัยและความมั่นคงปลอดภัยระดับสูงตามมาตรฐานสากล ที่สำคัญคืออยู่เหนือระดับน้ำทะเล 7 เมตร ปราศจากความเสี่ยงด้านอุทกภัย

จากการเปิดตัว True IDC – East Bangna แห่งใหม่นี้ ทำให้ True IDC สามารถให้บริการ Data Center ครอบคลุมจุดยุทธศาสตร์หลักในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่กรุงเทพฯ ตอนเหนือ ย่านใจกลางเมือง และพื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก นอกจากนี้ True IDC ยังร่วมหุ้นกับ Supernap Thailand เพื่อให้บริการ Data Center ในพื้นที่ภาคตะวันออกของไทยอีกด้วย รวมทั้งสิ้น 5 แห่ง

โดดเด่นด้วยนวัตกรรมและการออกแบบโครงสร้างเชิงวิศวกรรมล่าสุด

True IDC – East Bangna ถูกออกแบบภายใต้แนวคิดที่เน้นการให้บริการที่สะดวกรวดเร็ว มีความทันสมัย ทั้งการออกแบบโครงสร้างเชิงวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมล่าสุด ที่สำคัญคือเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นระบบบริหารจัดการความร้อนแบบ Hot Aisle Containment พื้นที่ซ่อมบำรุงแยกส่วน (Maintenance Corridor) รวมไปถึงระบบดับเพลิงที่ไม่ทิ้งสารตกค้าง ไม่เป็นอันตรายต่อคน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

นอกจากนี้ True IDC ยังเป็นผู้ให้บริการ Data Center รายแรกที่นำระบบหุ่นยนต์ขนส่งอุปกรณ์อัตโนมัติ (Automated Robot Transporter) มาใช้ในการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ IT ของลูกค้าไปยังตู้แร็กของตนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยอีกด้วย

ความมั่นคงปลอดภัยคือหัวใจสำคัญ

True IDC – East Bangna สร้างบนพื้นที่ 20 ไร่ ในทำเลที่ปลอดภัยจากภัยพิบัติทางธรรมชาติมานานกว่า 100 ปี มีพื้นที่จอดรถแยกออกจาก Data Center อย่างชัดเจน และมีกล้องวงจรปิด CCTV ความละเอียดสูงกว่า 100 จุดให้บริการครอบคลุมทั่วบริเวณ พร้อมด้วยระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยหนาแน่นถึง 10 ชั้น

ผ่านการรับรองโดยสถาบัน Uptime แห่งแรกในไทย และมาตรฐาน ISO อีก 5 รายการ

ด้วยแนวคิดในการออกแบบและก่อสร้าง Data Center โดยคำนึงถึงองค์ประกอบ 3 ประการ ได้แก่ ความทันสมัย ความมั่นคงปลอดภัย และความน่าเชื่อถือ ส่งผลให้ True IDC – East Bangna ได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากลจากสถาบัน Uptime ถึง 2 ด้าน ดังนี้

  • Tier Certification of Design Documents (TCDD): รับรองการออกแบบด้านโครงสร้างวิศวกรรม และสถาปัตยกรรมของ Data Center
  • Tier Certification of Constructed Facility (TCCF): รับรองการก่อสร้าง Data Center ถูกต้องตามโครงสร้างวิศวกรรม และสถาปัตยกรรมที่ออกแบบไว้

True IDC – East Bangna ยังได้รับการรับประกันคุณภาพและความมั่นคงปลอดภัยตามมาตรฐาน ISO อีกถึง 5 รายการ ได้แก่

  • ISO/IEC 20000-1:2011: มาตรฐานระบบบริหารจัดการการให้บริการทางด้าน IT
  • ISO/IEC 27001:2013: มาตรฐานระบบบริหารจัดการด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ
  • ISO 22301:2012: มาตรฐานการบริหารจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจ
  • ISO 50001: มาตรฐานการบริหารจัดการพลังงาน
  • CSA-STAR: มาตรฐานการรับประกันด้านความมั่นคงปลอดภัยของผู้ให้บริการระบบ Cloud

นอกจากนี้ Frost & Sullivan ประกาศให้ True IDC เป็น “ผู้ให้บริการระบบ Data Center ยอดเยี่ยมแห่งปีสำหรับประเทศไทย” หรือ Thailand Data Center Service Provider of the Year ประจำปี 2017 เนื่องจากมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีที่ผ่านมา มีความเป็นเลิศในการดำเนินธุรกิจ Data Center พร้อมศักยภาพด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม การบริการลูกค้า และมีการพัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้บริการในยุคดิจิทัล

พร้อมให้บริการ Data Center และระบบ Cloud แบบครบวงจร

จุดเด่นสำคัญของบริการจาก True IDC คือ การให้บริการโซลูชันแบบ One Stop Shop กล่าวคือ ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการได้ตั้งแต่ บริการ Data Center ไม่ว่าจะเป็น Co-location, Professional Services หรือ Managed Services ไปจนถึงบริการ Private Cloud และ Public Cloud ทั้งแบบ IaaS, PaaS และ SaaS ได้แบบครบวงจรภายในเจ้าเดียว โดย True IDC มีทีมวิศวกรมากประสบการณ์ที่ช่วยให้คำปรึกษาตั้งแต่การออกแบบ ติดตั้ง เฝ้าระวัง และดูแลรักษาตลอดเวลาแบบ 7/24 ในทุกโซลูชันที่ลูกค้าต้องการ

“ปัจจุบันมีลูกค้าให้ความมั่นใจใช้บริการที่ True IDC – East Bangna แล้ว โดยใช้บริการฝากเซิร์ฟเวอร์, บริการ Enterprise Private Cloud, บริการ Managed Services และบริการที่ปรึกษามืออาชีพ เราได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีศักยภาพเกินพอ ที่จะรองรับความต้องการของธุรกิจขนาดใหญ่และขนาดกลางและหน่วยงานภาครัฐ เพื่อผลักดันเศรษฐกิจยุคดิจิทัลของประเทศไทย” — คุณศุภรัฒศ์ กล่าวปิดท้าย

ผู้ที่สนใจใช้บริการ Data Center และระบบ Cloud ของ True IDC หรือต้องการเยี่ยมชมศูนย์ True IDC – East Bangna แห่งใหม่นี้ สามารถติดต่อเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ sales@trueidc.co.th หรือ โทร 02-494-8300


About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

พลิกมุมคิดการจัดการคลาวด์ไอทีอย่างสมาร์ตฉบับวีเอ็มแวร์ [Guest Post]

แม้คลาวด์จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการพาองค์กรก้าวข้ามวิกฤตไปสู่การสร้างสรรค์โมเดลธุรกิจหรือกลยุทธ์การแข่งขันใหม่ ด้วยคุณลักษณะที่คล่องตัว (Agility) ในการปรับความต้องการใช้งานโดยอัตโนมัติ (Auto-Scaling) ได้ด้วยตัวเอง (Self-Services) ทว่าหลายองค์กรซึ่งเลือกปฏิวัติระบบธุรกิจขึ้นสู่คลาวด์กลับประสบปัญหาการจัดการทรัพยากรที่ยิบย่อยบนคลาวด์ไม่ไหว แถมหัวจะปวดกับภัยคุกคามที่ยุ่งยากในการป้องกัน ด้วยเหตุนี้ ความคาดหวังต่อไอทีคลาวด์ยุคถัดไป คือ การปรับแต่งแอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มคลาวด์ไอทีให้ทันสมัยตรงต่อความต้องการทางธุรกิจ ภายใต้ระบบการรักษาความปลอดภัยแบบองค์รวมที่แข็งแกร่ง ทั่วถึง และเป็นอัตโนมัติกว่าเดิม

เสริมแกร่งความมั่นคงปลอดภัยในที่ทำงานด้วยบริการไอทีฉลาดล้ำกว่าเคย

บทความโดย คุณธเนศ อังคศิริสรรพ ผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคอินโดจีน เลอโนโว ด้วยรูปแบบการทำงานแบบไฮบริดและยืดหยุ่นในองค์กรหลายแห่ง บริษัทหลายแห่งต่างกำลังพยายามตอบสนองต่อความคาดหวังและลำดับความสำคัญของพนักงาน ฝั่งทีมไอทีเองก็ต้องรักษามาตรฐานการให้บริการจากทางไกลในระดับสูงเพื่อสนับสนุนให้พนักงานยังคงสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง การทำให้พนักงานมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลนั้น บริษัทจะต้องสร้างระบบไอทีที่แข็งแกร่งทนทานยิ่งขึ้นพร้อมกับคงไว้ซึ่งแนวทางใหม่ในการทำงาน  อย่างไรก็ตาม ความท้าทายคือ สภาพแวดล้อมการทำงานแบบไฮบริดในทุกวันนี้ทำให้การจัดการจากระยะไกลนั้นซับซ้อนยุ่งยาก ระบบการจัดการทรัพยากรรุ่นเก่ายิ่งทำให้ผู้ดูแลระบบไอทีจัดการงานและภัยคุกคามเชิงรุกได้ยากกว่าเดิม …