สัมภาษณ์พิเศษ Oracle Thailand รู้จักกับ Oracle Enterprise Cloud ทางเลือกใหม่สำหรับองค์กรที่คุ้มค่ายิ่งขึ้น

พอดีทีมงาน TechTalkThai มีโอกาสได้คุยกับทางคุณคาลีม เชาว์ดรี (Kaleem Chaudhry) ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเทคโนโลยีเอ็นเตอร์ไพรส์ ประจำภูมิภาคอาเซียน ออราเคิล ณ ออฟฟิศของ Oracle Thailand เกี่ยวกับบริการ Oracle Enterprise Cloud ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งในระบบ Cloud ที่องค์กรควรให้ความสนใจเอาไว้เป็นทางเลือกในการลงทุน จึงได้ขอสรุปข้อมูลมาให้ผู้อ่านทุกท่านกันดังนี้นะครับ

ภาพรวมของระบบ Cloud ในมุมมองที่มีต่อองค์กร

เนื่องจากการดำเนินธุรกิจในทุกวันนี้เปลี่ยนไปมาก และเกิดต้องการในการเข้าถึงตลาดได้จากหลายๆ Channel และโซลูชั่นที่ใช้รองรับการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจนี้ก็ต้องเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย โดยเมื่อเราพูดถึง Cloud ใดๆ ก็ตาม Cloud นั้นก็มีประโยชน์ดังต่อไปนี้

• ช่วยลดค่าใช้จ่ายลง เพราะ Vendor จัดการเรื่อง Hardware ให้
• ทำงานได้เร็วขึ้น เพราะทำทุกอย่างได้ง่ายขึ้น ตอบโจทย์ของตลาดได้เร็วขึ้น
• ทำให้ธุรกิจปรับตัวได้เร็วขึ้น ด้วยความคล่องตัวและยืดหยุ่นของระบบ IT ที่มารองรับการทำงานขององค์ร

 

รู้จักกับ Oracle Enterprise Cloud

เมื่อนับจากทั่วโลกแล้ว Oracle Cloud นั้นมีอุปกรณ์รวมกันมากกว่า 54,000 ชิ้น มี Storage มากกว่า 700PB มี Tier 4 Data Center รวมกันกว่า 19 แห่ง และมี 33 Biilion Transaction ต่อวันบน Cloud ดังนั้นจึงไม่เรียกว่า Oracle เป็นผู้ผลิตรายใหม่ในตลาด Cloud แล้ว แต่เป็นผู้ผลิตที่มีฐานลูกค้าชัดเจน และให้บริการได้อย่างมั่นใจ และมีจุดเด่นที่น่าสนใจดังนี้

• มีบริการครบ 3 Tier ทั้ง SaaS, PaaS และ IaaS โดยรองรับ Certified และ Standard ต่างๆ ที่แต่ละประเทศรองรับ
• Private Cloud ในองค์กรสามารถทำงานร่วมกับ Oracle Cloud ได้ 100% และพร้อมจะทำ Hybrid Cloud ได้ทันที
• มี Cloud Security Service แยกต่างหาก และองค์กรก็ใช้ระบบรักษาความปลอดภัยรักษา Private Cloud เองได้
• มี Reliability สูง พร้อมทีมสนับสนุนที่พร้อมตอบสนองภายใน 15 นาที

สำหรับบริการทั้ง 3 Tier บน Oracle Enterprise Cloud จะมีดังต่อไปนี้

• Software-as-a-Service: มี Application สำเร็จรูปให้ใช้ได้เลย
• Platform-as-a-Service: เตรียม Infrastructure กลุ่ม Database, Middleware, Analytics และ Integration สำหรับการทำ Data Management, Document Management
• Infrastructure-as-a-Service: เตรียม Computing, Storage และ Network

 

Oracle SaaS

ประกอบไปด้วยบริการ ERP, Enterprise Performance Management, Manufacturing, Supply Chain Management, Marketing & Sales, E-Commerce, CPQ & Order Capture, Service & Support, Human Capital Management, Talent Management, Social Relationship Management ซึ่งสามารถตอบโจทย์ได้ในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ทำให้องค์กรต่างๆ สามารถทำงานต่างๆ ได้อย่างสะดวกและง่ายดายผ่าน Cloud

 

Oracle PaaS

ประกอบไปด้วยบริการ Integration, Content and Collaboration, Mobile, Business Analytics, Data Management, Application Development, Enterprise Management สำหรับใช้เตรียม Environment เพื่อรองรับ Application รูปแบบต่างๆ และการจัดเตรียมข้อมูลเพื่อสนับสนุนกับ Application เหล่านั้นได้

 

Oracle IaaS

ประกอบไปด้วยบริการ Storage, Compute และ Network มีให้ใช้เพื่อสร้าง PaaS หรือ SaaS ซึ่งตรงนี้จะเรียกว่า Public Cloud Appliance ที่รองรับทั้ง Oracle และ Non-Oracle Software

 

ซึ่งทั้ง 3 Tier นี้จะสามารถบริหารจัดการและใช้งานได้ผ่าน UI ที่ใช้งานได้ง่ายจาก Oracle รวมถึงเข้าใช้งานผ่าน Mobile Device ก็ได้ด้วยเช่นกัคน ทำให้เกิดความคล่องตัวในการใช้งานมากขึ้น

 

แนวโน้มการเติบโตของ Oracle Enterprise Cloud ในตลาดองค์กร

การเติบโตของลูกค้าทั่วโลกของ Oracle SaaS ใน Q2 ของปี 2015 นี้ก็มีลูกค้าใหม่สำหรับกลุ่ม Customer Experience 657 ราย, ลูกค้าใหม่สำหรับกลุ่ม ERP 380 ราย และลูกค้าใหม่สำหรับกลุ่ม Human Capital Management 312 ราย โดยมี 113 รายในนี้ใช้มากกว่าบริการ Cloud มากกว่า 2 ระบบพร้อมๆ กัน ซึ่งจากจำนวนตรงนี้ ถือว่าเติบโตเร็วกว่า Salesforce และ Workday เสียอีก

สำหรับ Oracle PaaS ช่วง Q1 ปี 2015 ที่ผ่านมา มีลูกค้าใหม่ 400 ราย แต่ Q2 นั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีลูกค้าใหม่ถึง 1,419 ราย โดยนำไปใช้ Database, Document, Java และ Intelligent เป็นหลัก

ในช่วงที่ผ่านมา มีการเปิดตัว PaaS และ IaaS สำหรับองค์กรรวมกันเพิ่มกว่า 24 บริการ ครอบคลุมทั้ง Database, Java, Integration, Analytics, Compute, Storage และ Networking

ความน่าสนใจคือการที่ทั้งผลิตภัณฑ์ในองค์กรและบริการใน Cloud นั้นเป็น Software ที่ Compatible กันแบบ 100% ดังนั้นจึงสามารถใช้บริการเสริมบางอย่างบน Cloud และเชื่อมต่อกับระบบเดิมที่ใช้งานอยู่ในองค์กรต่อได้เลย รวมถึงการย้ายข้อมูลกลับไปกลับมาก็ยังสามารถทำงานได้ง่าย และผู้ดูแลระบบไม่ต้องเรียนรู้อะไรเพิ่มมากนัก

 

แนวโน้มของ Oracle Enterprise Cloud ในประเทศไทย

สำหรับตลาดในไทยซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ของ Oracle ที่มีโอกาสเติบโตได้สูง Oracle เองก็มองว่าธุรกิจต่างๆ ที่ใช้งาน Oracle มาเป็นระยะเวลานาน ก็จะมีทางเลือกใหม่ในการลงทุนระบบ IT ที่จะช่วยให้เกิดความคุ้มค่ามากขึ้น และลดความยุ่งยากในการดูแลรักษาไป ทำให้สามารถมุ่งไปที่การพัฒนา Software ให้ตอบโจทย์ธุรกิจมากขึ้นได้ ซึ่งลูกค้าในไทยก็เริ่มตอบรับแล้วด้วยการเริ่มใช้เป็นระบบสำหรับพัฒนาระบบก่อน และเริ่มใช้ความคล่องตัวของ Cloud ให้เป็นประโยชน์มากขึ้น และเชื่อว่าในที่สุด Cloud จะกลายเป็นอนาคตของ IT สำหรับองค์กร ดังนั้นจึงแนะนำว่าอย่างน้อยๆ องค์กรควรจะเริ่มลองใช้ Cloud กันให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้เป็นระบบเล็กๆ หรือลองใช้พัฒนา และลองใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มีใน Cloud เพื่อจะช่วยให้องค์กรสามารถลองใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้อง PoC ให้วุ่นวายเหมือนแต่ก่อน

สำหรับประเด็นกฎหมายในไทยที่หน่วยงานรัฐห้ามเก็บข้อมูลเอาไว้ภายนอก Oracle ได้ตอบว่าจริงๆ แล้วบริการ Cloud ของ Oracle นั้นมีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนายิ่งกว่าการรักษาความปลอดภัยในองค์กร เพราะถ้าหากเทียบกับข่าวที่ผ่านมา มีข่าวว่าองค์กรถูกโจมตีสำเร็จมากกว่า Cloud ถูกโจมตีสำเร็จ ดังนั้นแนวโน้มของหน่วยงานรัฐต่างๆ ทั่วโลกจึงเริ่มมองบริการ Cloud เป็นทางเลือกที่ดี และ Oracle เองก็ได้มีการเสริม Standard หรือการตอบรับต่อข้อกฎหมายต่างๆ ให้เหมาะสมกับแต่ละประเทศเข้าไปด้วย ทั้งนี้ Oracle เองก็มีทางเลือกหนึ่งโดยการให้องค์กรเก็บข้อมูลในองค์กร และเปิดให้ Application บน Cloud มาดึงข้อมูลไปประมวลผลแทนแบบ Hybrid Cloud รวมถึงมีเทคนิคการทำ Data Masking สำหรับข้อมูลเพื่อให้ข้อมูลเหล่านั้นไม่สามารถถูกดังฟังได้ ในขณะที่การแก้ไขกฎหมายนั้นก็เป็นสิ่งที่อยู่ในแนวโน้มของหน่วยงานรัฐทั่วโลกที่เริ่มขยับตัวกันแล้ว และไทยก็เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ตามประเทศอื่นๆ ให้ทัน

 

สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดเกี่ยวกับ Oracle Enterprise Cloud สามารถติดต่อ Oracle Thailand ได้ทันที หรือเข้าเยี่ยมชม Oracle Cloud Website และทดลองใช้บริการ Cloud ต่างๆ ได้ฟรีๆ ได้ทันทีที่ https://cloud.oracle.com/home