WinMagic ผู้ให้บริการด้านความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลได้จัดทำผลสำรวจพบว่าผลที่ตามมาจากการที่บริษัทนำธุรกิจไปไว้บน Cloud คือเรื่อง ความมั่นคงปลอดภัย การบริหารจัดการ และกฏหมายหรือกฏระเบียบข้อบังคับ โดยผลสำรวจผู้ใช้งาน Cloud พบว่า 39% ยอมรับว่า Cloud ทำให้โครงสร้างพื้นฐานมีความซับซ้อนมากขึ้น และ 53% หมดเวลาเพิ่มขึ้นไปกับการบริหารจัดการ Cloud
- 98% กำลังใช้โครงสร้างพื้นฐานกว่าครึ่งผ่าน Cloud
- มีเพียง 1 ใน 3 เท่านั้นที่กล่าวว่าข้อมูลบน Cloud บางส่วนได้รับการเข้ารหัส
- 39% ยอมรับว่าไม่เคยมีการตรวจสอบด้านความมั่นคงปลอดภัยเพื่อหาช่องโหว่ข้ามระหว่าง Virtual Machine ที่ใช้งาน
ถ้าเรียงลำดับความกังวลเกี่ยวกับการทำงานในอนาคตพบว่า คนส่วนใหญ่ (58%) กังวลเรื่องความมั่นคงปลอดภัยมากที่สุด รองลงมา (55%) กังวลเรื่องของการปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนจากการเข้าถึงที่ไม่ได้พิสูจน์ตัวตนและสุดท้าย (44%) กังวลในเรื่องของความซับซ้อนที่เพิ่มมากขึ้น
- 39% คิดว่าในท้ายที่สุดแล้วตนเป็นผู้รับผิดชอบต่อระเบียบบังคับของการเก็บข้อมูลบนบริการ Cloud
- 20% เชื่อว่าความรับผิดชอบนี้เป็นของผู้ให้บริการ Cloud
- 20% เชื่อว่าผู้ให้บริการ Cloud จัดการทุกอย่างให้แล้วตาม SLA
- มีเพียง 25% ที่ใช้เครื่องมือแบบอัตโนมัติเพื่อทำให้แน่ใจว่าตนจะไม่ละเมิดกฏระเบียบข้อบังคับต่างๆ โดยมีความเห็นจาก นาย Mark Hickman COO ของ WinMagic กล่าวว่า “กฏหมาย GDPR ในยุโรปจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งต่อการดูแลข้อมูล โดยภาคธุรกิจต้องควบคุมและบริหารจัดการข้อมูลให้เหมาะสมถูกต้อง เช่น ข้อมูลไหนไม่ต้องการเปิดเผยต่อสาธารณะก็เข้ารหัสไว้“
- 55% ต้องการเครื่องมือเพื่อช่วยบริหารจัดการขณะย้ายการทำงานขึ้น Cloud
- 53% ที่บอกว่าตนใช้เวลาในการบริหารเพิ่มขึ้นอยากประหยัดเวลาเพื่อไปช่วยด้านธุรกิจ หรือทำงานโปรเจ็คที่ค้างอยู่ และสุดท้ายพัฒนาเรื่องของความมั่นคงปลอดภัย
“การผสมผสานใช้บริการ Cloud ทำให้การบริการจัดการข้อมูลต่อกฏหมายหรือระเบียบข้อบังคับและความมั่นคงปลอดภัยทำได้ยากขั้น แทนที่เจ้าหน้าที่จะได้ใช้เวลาไปทำงานอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อบริษัท ดังนั้นบริษัทควรคิดให้รอบคอบในการเลือกเครื่องมือบริหารจัดการบน Cloud และต้องกำจัดความยุ่งยากออกไปให้ได้“–Hickman กล่าวปิดท้าย
ที่มา : https://www.securitymagazine.com/articles/88630-cloud-workloads-at-risk-from-security-failings