Microsoft Azure by Ingram Micro (Thailand)

สรุป Webinar “อัปเกรด SAP ให้ล้ำยิ่งกว่าเดิมบน Microsoft Azure”

เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมาทาง Microsoft และ ISS Consulting ได้ผนึกกำลังจัดสัมมนาออนไลน์ขึ้นในหัวข้อ “อัปเกรด SAP ให้ล้ำยิ่งกว่าเดิมบน Microsoft Azure” เพื่อตอบโจทย์การทำงานขององค์กรในยุค New Normal ที่พนักงานสามารถทำงานได้จากทุกที่ ทุกเวลา ทางทีมงาน TechTalkThai จึงขอสรุปข้อมูลมาให้ผู้ติดตามได้อ่านกันครับ

SAP เข้ามาช่วยองค์กรได้อย่างไร

SAP เป็นซอฟต์แวร์ระบบบริหารจัดการทรัพยากรระดับองค์กร โดยทำให้ทุกแผนกขององค์กรองค์กรสามารถจัดเก็บและใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้ร่วมกันอย่างเป็นระบบ จึงสามารถนำข้อมูลไปต่อยอดในการวางแผนและการบริหารทรัพยากรต่างๆได้เป็นอย่างดี โดย SAP ได้ถือกำเนิดมามากกว่า 50 ปีแล้ว ซึ่งตลอดเวลา SAP ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีโมดูลหรือฟังก์ชันที่ตอบสนองต่อการทำงานขององค์กรได้อย่างครอบคลุม

SAP version ปัจจุบัน ชื่อว่า SAP S/4HAHA ซึ่งได้เปลี่ยนรูปโฉมของการทำงานแบบเดิมๆออกไปอย่างสิ้นเชิง โดยเปลี่ยนแปลง User Interface ให้สามารถใช้งานบน Web ภายใต้คอนเซปต์ที่ชื่อว่า Fiori ซึ่งจะทำให้ User Experience เปลี่ยนไป เช่น รองรับการทำงานรูปแบบกราฟฟิค, กราฟ, Dashboard มากยิ่งขึ้น จึงช่วยตอบสนองการทำงานของผู้ใช้ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นแล้วยังรองรับการทำงานกับทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น Notebook, Tablet, Mobile เป็นต้น ทำให้สามารถใช้งานระบบ SAP จากที่ใดก็ได้ ตามที่ต้องการ

เพิ่มประสิทธิภาพทวีคูณด้วย SAP S/4 HANA บน Microsoft Azure

รูปแบบการทำงานใน New Normal นั้น ทุกองค์กรจะต้องเอื้ออำนวยให้ทำงานได้อย่างยืดหยุ่น ทั้งในเรื่องของการเข้าถึง อุปกรณ์ที่รองรับ และรองรับแผนการระยะสั้นได้ ด้วยเหตุนี้เองคลาวด์จึงสามารถเติมเต็มความต้องการเหล่านั้นได้ ซึ่งผู้ใช้งาน Azure จะได้รับประโยชน์ดังนี้

  • Partnership – Microsoft มีความสัมพันธ์กับทีมงานของ SAP อย่างเป็นรูปธรรมซึ่งผู้บริหารได้เซ็นสัญญาร่วมกัน จึงนำไปสู่ในภาคปฏิบัติที่มีการส่งทีม Engineer มาทำงานร่วมกันเพื่อ Certified บริการต่างๆ โดยเราจะเห็นได้ว่า Azure นั้นรองรับผลิตภัณฑ์ของ SAP มากมายทั้ง S/4 HANA, ERP, Business One, ASE, BW และอื่นๆ รวมถึงในระดับของข้อมูลทาง Azure ก็มี Cloud Connector ที่ผู้ใช้งานจะสามารถเชื่อมต่อข้อมูลจาก SAP กับ Azure มาทำงานร่วมกันได้อย่างไม่มีสะดุด ซึ่งข้อดีอีกอย่างหนึ่งคือเซิร์ฟเวอร์ของ SAP และข้อมูลข้อผู้ใช้อยู่ในดาต้าเซ็นเตอร์ใน Azure Regions เดียวกัน ทำให้แทบจะไม่มีดีเลย์ของการเคลื่อนย้ายข้อมูล
  • Security & Compliance – ในแง่ของ Compliance นั้น Microsoft ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานทางอุตสาหกรรมมากมาย ในขณะที่เรื่อง Security Intelligent เราทราบกันดีว่า Microsoft ยังเป็นผู้ที่มีข้อมูลภัยคุกคามมากที่สุดของโลกก็ว่าได้จากการเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์เช่น Windows, o365 และอื่นๆ นอกจากนี้ Microsoft Azure เองยังให้บริการอื่นด้าน Security เช่น SIEM, Networking, Application, Data Protection, Azure AD และอีกมากมายตามรูปด้านล่าง
  • Availability – การันตีการทำงานแบบ 24×7 โดยมี SLA ถึง 99.95% และในบางรูปแบบสูงถึง 99.99% นอกจากนี้ยังมีบริการเฉพาะสำหรับ SAP เช่น Azure Backup for SAP HANA (preview) ซึ่งผู้ใช้มั่นใจได้เลยว่ามีการ Certified จากทีมงานของทั้งสองฝ่ายมาแล้ว
  • Performance & Scalability – ผู้ใช้งานสามารถติดตามการใช้งาน SAP ได้ด้วย Azure Monitoring for SAP HANA (preview) ทำให้สามารถติดตามและตอบสนองปัญหาได้แบบเรียลไทม์ รวมถึงยังต่อยอดทำ Infrastructure as Code ได้ด้วย Terraform หรือ Ansible เพื่อจัดการปัญหาได้อย่างอัตโนมัติ
  • Cost Management – การวางแผนค่าใช้จ่ายได้ตามจริงเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดในยุคของ New Normal ซึ่ง Azure สามารถช่วยผู้ใช้งานคำนวณบริการของ SAP ได้ผ่านทาง  https://azure.microsoft.com/en-us/solutions/sap/azure-solutions/
  • Integration – การที่ผู้ใช้งานสามารถบริหารจัดการทรัพยากร Infrastructure หรือ Service ได้จากหน้า Azure Portal เพียง Console เดียว ทำให้สามารถกำจัดค่าดำเนินการแฝงที่ทำให้ปฏิบัติการล่าช้าทั้งเวลาของการเรียนรู้เครื่องมือ รวมถึงลดความผิดพลาดของเครื่องมือได้อย่างมีนัยสำคัญ
  • Operational – นอกจากองค์กรจะตัดการดูแลเรื่องการอัปเกรดฮาร์แวร์และซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องแล้ว ทาง Azure ยังมีความเชี่ยวชาญและเป็นพันธมิตรกับ Red Hat และ SUSE ซึ่งเป็นฐานของการปฏิบัติงานของ SAP HANA ด้วยเหตุนี้จึงมั่นใจได้ว่าทีมงานของ Azure จะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างครอบคลุมนั่นเอง
  • Innovation – Azure ยังมีบริการอื่นๆ ที่องค์กรจะสามารถต่อยอดในการทำ Digital Transformation ได้อีก เช่น บริการด้าน Analytics, Machine Learning/ AI, IoT, Media Processing และอื่นๆ

ปฏิบัติการย้าย On-premise SAP สู่ S/4 HANA บน Microsoft Azure

อันที่จริงแล้วก่อนที่จะเริ่มปฏิบัติการย้ายระบบ ทางองค์กรต้องมีการประเมินระบบเดิมและตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้เสียก่อน

  • ระบบ ERP ที่ใช้อยู่เดิมเป็นอย่างไร มีระบบอะไรบ้าง
  • ระบบเดิมที่ใช้งานอยู่มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับระบบอะไรบ้างอย่างไร
  • หากต้องมีการย้ายระบบไปสู่คลาวด์จะต้องมีการอัปเกรดหรือเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง
  • ค่าใช้จ่ายหลังย้ายระบบสู่คลาวด์ตอบโจทย์ขององค์กรหรือไม่แค่ไหน

หลังจากผ่านขั้นตอนการประเมินเบื้องต้นแล้ว ในเชิงเทคนิคจะสามารถย้าย On-premise SAP สู่คลาวด์ของ Microsoft Azure ได้ตามภาพด้านบน

1.) ย้ายระบบเดิมขึ้นมาพักบนคลาวด์ก่อน โดยไม่ต้องแก้ไข Database หรือระบบปฏิบัติการเดิม จนวันหนึ่งเมื่อพร้อมค่อยย้ายเป็น S/4 HANA ซึ่งวิธีการนี้เหมาะสมกรณีฮาร์ดแวร์หมดอายุและต้องการมาใช้คลาวด์ก่อน

2.) ย้ายระบบเดิมมายังคลาวด์ ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลง Database และระบบปฏิบัติการ โดยอาจก้าวสู่ HANA ก่อนหรือข้ามเป็น S/4 HANA ก็ได้ 

3.) ย้ายระบบเดิมเป็น HANA ก่อน

4.) ขึ้นระบบใหม่บน S/4 HANA บน Azure โดยไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับของเก่าบน On-premise

ทั้งนี้ผู้ใช้งานจะสามารถย้ายระบบด้วย 3 วิธีการคือ

1.) ใช้วิธีการ Backup จากเครื่องมือปกติและนำข้อมูลไป Restore บนคลาวด์

2.) ใช้ฟีเจอร์ Replicate จาก Database ที่ใช้อยู่ ซึ่งหลังจากซิงค์โครไนซ์ข้อมูลแล้ว ก็สามารถย้ายไปสู่คลาวด์ได้ทันที โดยวีธีการนี้จะมีผลกระทบเรื่อง Downtime น้อยกว่า Backup & Restore

3.) ใช้เครื่องมือของ SAP เองที่ชื่อ Software Provisioning Manager และ Software Update Manager ซึ่งเลือกใช้ได้ตามบริบทเช่น ต้นทางและปลายทางมีฐานข้อมูลคนละยี่ห้อกันหรือต่างกัน หรือการย้ายฐานข้อมูลเดิมไปเป็น SAP HANA และการ Upgrade SAP Version เดิมไปเป็น SAP S/4 HANA

จากหลายมุมมองที่กล่าวมาแล้วในข้างต้นสรุปได้ว่า SAP บน Microsoft Azure นั้นมีข้อดีเหนือกว่าและตอบโจทย์ยุค New Normal ได้อย่างแท้จริง อย่างไรก็ตามในเชิงปฏิบัติของการย้ายระบบแบบ On-premise สู่คลาวด์หรือการขึ้นระบบใหม่บนคลาวด์ก็ตามที ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากซึ่งจำเป็นต้องมีการประเมินและเรียนรู้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อกระทบกับการดำเนินงานให้น้อยที่สุด

ด้วยเหตุนี้เองจะดีกว่าไหมถ้าเราเลือกใช้บริการจากบริษัทที่มีประสบการณ์ในด้าน SAP มาอย่างยาวนานและสามารถให้บริการได้อย่างมืออาชีพ ซึ่งพิสูจน์แล้วด้วยรางวัลการันตีจาก SAP เองอย่าง ISS Consulting พร้อมทั้งมีบริการอย่างครอบคลุมในทุกด้านที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของ SAP ตามภาพด้านล่าง

ติดต่อทีมงานมืออาชีพจาก ISS Consulting ได้ที่

ผู้ที่ต้องการปรึกษาเกี่ยวกับเรื่อง SAP เพื่อพัฒนาระบบบริหารการจัดการในองค์กรให้ดีขึ้น ISS Consulting พร้อมให้คำปรึกษาในทุกกลุ่มประเภทธุรกิจเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ ISS Consulting (Thailand) ได้ที่ http://www.issconsulting.co.th/ หรือโทร 02 237 0553

About nattakon

จบการศึกษา ปริญญาตรีและโท สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ KMITL เคยทำงานด้าน Engineer/Presale ดูแลผลิตภัณฑ์ด้าน Network Security และ Public Cloud ในประเทศ ปัจจุบันเป็นนักเขียน Full-time ที่ TechTalkThai

Check Also

เอชพี เปิดตัวพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ AI PCs [PR]

เอชพี เปิดตัวพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ AI PCs ขับเคลื่อน ด้วยขุมพลัง AI ยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน การสร้างสรรค์ และประสบการณ์ของผู้ใช้ในสภาพแวดล้อม การทำงานแบบไฮบริด

Microsoft ยกเลิกการใช้ 1024-bit RSA Key บน Windows แล้ว

Microsoft ประกาศยกเลิกการใช้กุญแจเข้ารหัส 1024-bit RSA Key บน Windows แล้ว เปลี่ยนไปใช้กุญแจเข้ารหัสความยาว 2048-bit เป็นอย่างน้อย