การจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศอันมีค่าควรจะต้องถูกจัดเก็บใน Storage ที่มีความเชื่อถือได้ สมรรถนะสูงเพียงพอต่อการขับเคลื่อนระบบสารสนเทศให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว มีความทันสมัยโดยต้องรองรับ Technology NVMe มีสามารถในการปกป้องข้อมูลในกรณีที่ Hard disk เสีย รวมถึงต้องสามารถใช้งานกับระบบงานหลักได้ เช่นงาน ERP หรืองาน AI รวมถึงต้องรองรับการทำงานรวมกับ Container ได้ด้วย
แม้ในปัจจุบัน Storage หลายยี่ห้อจะปรับตัวเป็น Flash Storage อยู่แล้วแต่ก็ใช่ว่าจะตอบโจทย์ด้านความต้องการของธุรกิจได้ทุกด้าน IBM Storage เป็น Storage ที่ช่วยทำให้การจัดเก็บข้อมูลบน Storage ในองค์กรง่ายขึ้นและมีความยืดยุ่นเหมาะสมกับทุกระบบงาน
1.) Migrate data from existing storage to IBM FlashSystem
ในกรณีลูกค้าประสบปัญหา Performance, Latency ผลิตภัณฑ์ IBM FlashSystem จะมีส่วนของ New Feature “DRAID & Multisite replication” รวมถึง support new Hard disk technology” เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึง data ได้เร็วยิ่งขึ้นและลด downtime ลง
2.) IBM FlashSystem with AI & Analytics
ปัจจุบันเทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทในภาครัฐและเอกชนหรือหน่วยงานต่างๆ และหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมมากขึ้น โดยรูปแบบของ DATA จะต้องจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลให้รวดเร็วและตอบสนองความต้องการของลูกค้า IBM FlashSystem มีเทคโนโลยีช่วยในการ optimize data flow ของการประมวลผล โดยใช้ NVMe Flash storage เข้ามามีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนของการจัดเก็บข้อมูล
3.) IBM FlashSystem with SAP HANA
ทุกคนก็ต่างรู้ว่า SAP HANA เป็นระบบฐานข้อมูลที่มีพื้นที่ในการจัดเก็บและรันข้อมูลอยู่ใน Memory ดังนั้น IBM FlashSystem Storage จะมาพร้อมกับ Storage Class Memory (SCM) เพื่อให้มีการเข้าถึงข้อมูลได้เร็วมากขึ้น และลด performance impact ของระบบ SAP HANA โดยเทคโนโลยี NVMe ช่วยในการปิดช่องโหว่นี้ด้วย
4.) IBM FlashSystem with Red Hat OpenShift
ในปัจจุบันรูปแบบการใช้งาน container เข้ามามีบทบาทเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากไม่จำเป็นต้องติดตั้ง OS และติดตั้งได้รวดเร็ว โดยมีความต้องการใช้ CPU, RAM และพื้นที่น้อยกว่า Virtual machine ดังนั้น IBM Storage สามารถทำงานร่วมกับ Private cloud and Red Hat OpenShift container storage ได้อย่างดี