หากเรื่องความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (Cybersecurity) คือสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ในโลกดิจิทัลฉันใด เรื่องของระบบรักษาความปลอดภัย (Security System) ในโลกความเป็นจริงก็สำคัญมาก ๆ ฉันนั้น ซึ่งแน่นอนว่าปัจจุบันอุตสาหกรรมนี้ได้มีวิวัฒนาการก้าวหน้าไปอย่างมากแล้ว
ล่าสุด บริษัท คอมม์เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (CommExpress) ได้จัดงาน “CE Day 2022” งานสัมมนาใหญ่ประจำปี ซึ่งปี 2 นี้มาในธีม “Security Transformation Challenge” ความท้าทายในการปฏิรูปเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัย ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ต.ค.2565 ณ โรงแรมเดอะ แกรนด์ โฟร์วิงส์ คอนเวนชัน โฮเทล ตั้งแต่ 8:30 – 17:00 น. ที่ผ่านมา ภายในงานมีประเด็นที่น่าสนใจไม่น้อยและไม่ควรมองข้าม ติดตามได้ในบทความนี้
รู้จัก CommExpress บริษัทสัญชาติไทยแท้
CommExpress ก่อตั้งขึ้นมาในปี 2010 นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยขั้นสูงมากมาย อาทิ ระบบเฝ้าระวังอัจฉริยะ (Intelligent Surveillance Solution) ระบบเครือข่ายสื่อสาร (Networking System) ระบบบันทึกข้อมูล (Video Storage) เครือข่ายไร้สายอัจฉริยะ (Wireless Mesh Network) ระบบสารสนเทศ (ICT) ไอโอที (IoT) ระบบจราจรและขนส่งอัจฉริยะ (Intelligent Transportation System) เป็นต้น
ความท้าทายในระบบรักษาความปลอดภัยที่ต้องทรานส์ฟอร์ม
ภายในงานสัมมนา CE Day 2022 นั้น ได้มีการบรรยายให้เห็นชัดเจนถึงความสำคัญที่ปัจจุบันองค์กรจำต้องตระหนักถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยในรูปแบบใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการประยุกต์ใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรือไอโอที (IoT) มาผสมผสานเพื่อเร่งปรับตัวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นมากมายในโลกปัจจุบันนี้
“เป็นครั้งแรกในเทคโนโลยีของกล้องวงจรปิดที่สามารถทำงานได้ด้วยตัวเองโดยปราศจากมนุษย์ได้แล้ว” คุณปัญจะ คล้ายโพธิ์ทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท คอมม์เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
นอกจากนี้ ในงานยังมีเซสชันบรรยายให้ความรู้ต่อเนื่องทั้งวันโดยวิทยากรจากแบรนด์ผู้ผลิตชั้นนำระดับโลก เช่น Avigilon, HID Global, Quantum, Anywhere Network, Wisenet เป็นต้น ที่ได้มาแสดงนวัตกรรมเทคโนโลยีล่าสุดพร้อม Live Demonstration ตามบูธอยู่ตลอดงาน
Smart City เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ไม่ว่าจะอยู่ในกลุ่มไหนหรือว่าภาคส่วนไหนก็ต้องคิดถึงเรื่องของ Digital Transformation” คุณนิติ เมฆหมอก นายกสมาคมไทย ไอโอที กล่าว
ในเซสชันของคุณนิตินั้น ได้ชี้ให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นว่าประเทศไทยกำลังมีวิวัฒนาการในการเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) มาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2022 นี้คาดว่าจะสามารถขยายไปถึง 100 เมืองได้ใน 60 จังหวัด และหลังจากนี้จะเริ่มได้เห็นเมืองหรือ “ย่าน” ในประเทศไทยที่กลายเป็น Smart City มากขึ้นเรื่อย ๆ และเร็วขึ้นกว่าเดิม โดยคุณนิติได้ชี้ให้เห็นการสร้าง Smart City ให้สำเร็จนั้นต้องมี 4 ประการ ได้แก่
- Smart Infrastructure โครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ต้องฉลาด และไม่ควรไปติดยึดกับเจ้าใดเจ้าหนึ่ง
- Open Data & Security ข้อมูลต้องโปร่งใส ชัดเจน มั่นคงปลอดภัย
- Urban Governance การบริหารรูปแบบเมืองสมัยใหม่ ต้องปรับเปลี่ยนจากรูปดั้งเดิมอย่างเช่นการจัดการเป็นไซโลให้หมดไป
- Smart Citizens ประชาชนต้องสมาร์ทด้วย และเมื่อประชาชนสมาร์ท ความต้องการก็จะไม่เคยสิ้นสุด ซึ่งจะทำให้เกิดเป็นโอกาสให้กับภาคเอกชนในการพัฒนาโซลูชันใหม่ ๆ ขึ้นมาได้
โซลูชันกล้องวงจรปิด ทรานส์ฟอร์มอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน ผู้ผลิตกล้องวงจรปิดนั้นเรียกว่าได้ทรานส์ฟอร์มไปอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด โดยปัจจุบันผู้ผลิตและจัดจำหน่ายมักจะมาพร้อมกับโซลูชันระบบหลังบ้านที่ครบวงจรแล้ว ทั้งจัดเก็บภาพและวีดีโอบนเครื่องบันทึก DVR หรือว่า NVR พร้อมพื้นที่จัดเก็บ (Storage) และระบบ AI ที่สามารถรู้จำวัตถุ (Object Recognition) ทั้งวัตถุ คนหรือว่าใบหน้าได้อย่างรวดเร็ว พร้อมมีระบบสืบค้นในภายหลังได้ทันที
ไม่ว่าจะเป็น “Avigilon” หนึ่งในบริษัทในเครือ Motorola หรือ “Wisenet” แบรนด์กล้อง CCTV ภายใต้ Hanwha Group ยักษ์จากเกาหลีใต้ หรือแบรนด์อื่น ๆ อีกมากมาย จะเห็นได้ชัดเจนว่าโซลูชันกล้องวงจรปิดทั้งตัวอุปกรณ์กล้องหรือว่าระบบสนับสนุนต่าง ๆ นั้นมีความฉลาดมากขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงขึ้นเรื่อย ๆ ที่รองรับการใช้งานได้หลายหลายยิ่งขึ้น
Wisenet โซลูชันกล้องที่มีระบบ AI อยู่ตรงหัวกล้องที่สามารถเบลอส่วนใบหน้าตอนแสดงผลหน้าจอได้ทันที
Mobile Access คืออนาคต
หนึ่งในส่วนที่จะทำให้ Smart City เกิดขึ้นจริง นั่นคือการบริหารจัดการสิทธิในการเข้าถึงสถานที่ต่าง ๆ ได้ตามสิทธิที่แต่ละคนมี ดังที่จะเห็นได้ตามองค์กรต่าง ๆ ที่มีการใช้บัตร Proximity ในการอนุญาตเข้าอาคารหรือห้องประชุม ห้องปฏิบัติการ ซึ่งปัจจุบันได้มีวิวัฒนาการไปจนสามารถใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนผ่าน Mobile ID ในการยืนยันตัวตนและสิทธิได้แทนบัตร Proximity แบบดั้งเดิมแล้ว
เพราะปัจจุบัน โทรศัพท์มือถือคืออุปกรณ์ที่เรียกว่าแทบทุกคนจะต้องพกพาไปทุกแห่งอยู่แทบตลอดเวลา ดังนั้น การปรับใช้แนวคิด Mobile Access ในการเข้าพื้นที่ เข้าออกลานจอดรถ หรือว่าใช้งานอุปกรณ์อย่างเช่น เครื่องพิมพ์เอกสาร หรือใช้ซื้อของ และอื่น ๆ ได้อีกมากมายนั้น จึงมีความเป็นไปได้สูงมากในโลกแห่งอนาคตหรือ Smart City และการสแกนบัตรแบบ Proximity นั้นก็อาจเลือนหายไปตามกาลเวลา ด้วยความสะดวกของ Mobile Access ที่ผู้ใช้ไม่ต้องพกบัตรเพิ่มอีกใบ และการควบคุมสิทธิสามารถทำได้จากระบบส่วนกลาง ซึ่งวิธีการนี้จะทำให้การบริหารจัดการและรักษาความปลอดภัยได้ดีขึ้นกว่าอดีตที่ผ่านมา
HID Global มี SDK ให้สามารถต่อกับกล้องวงจรปิดของ Avigilon หรือ Wisenet ได้ทันที ซึ่งอาจต่อยอดไปสู่การสแกนใบหน้าที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
Unstructured Data คือสิ่งที่ต้องประมวลผลให้ได้อย่างรวดเร็ว
ข้อมูลที่เป็นลักษณะไร้โครงสร้าง (Unstructured Data) อย่างเช่น ภาพ วีดีโอ ที่เกิดขึ้นตามกล้องวงจรปิดหรือว่ากล้องมือถือนั้นได้เกิดขึ้นมามากมายมหาศาล ซึ่งปัจจุบัน 90% ของข้อมูลนั้นได้กลายเป็น Unstructured Data เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น การประมวลผลวิเคราะห์ข้อมูล Unstructured Data ให้ได้อย่างรวดเร็วนั้นคือสิ่งถัดไปที่ทุกคนจะต้องการ
หากข้อมูลต่าง ๆ ในปี 2025 จะกลายเป็นแบบ Unstructured Data ทั้งหมดจริงตามที่ Quantum Corporation ได้นำเสนอภายในงาน เทคโนโลยีที่สามารถรวมศูนย์ข้อมูล Unstructured Data เหล่านั้นไว้ในที่เดียวให้ได้ไม่ว่าข้อมูลจะอยู่บนแพลตฟอร์มแบรนด์ใดหรือว่าอุปกรณ์ค่ายอะไรเพื่อนำไปวิเคราะห์ประมวลผลข้อมูลร่วมกันได้นั้นจะเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อไปอย่างแน่นอน
Quantum Unified Surveillance Platform (USP) แพลตฟอร์มรวมศูนย์ข้อมูล Unstructured Data
บทส่งท้าย
จะเห็นได้ว่า เทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยนั้นยังคงมีวิวัฒนาการมาอย่างต่อเนื่องท่ามกลางความท้าทายที่มีมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน ซึ่งชัดเจนว่าไม่ควรมองข้ามและควรติดตามพัฒนาการที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะพัฒนาการของเทคโนโลยีนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และไม่แน่ว่าสิ่งเหล่านี้อาจช่วยทำให้คุณภาพชีวิตและความปลอดภัยในการใช้ชีวิตของหลาย ๆ ท่านนั้นดีขึ้นได้อย่างที่คาดไม่ถึงเลยทีเดียว
หากใครสนใจผลิตภัณฑ์หรือเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยชั้นสูงใด ๆ สอบถามติดต่อสอบถามข้อมูลกับทางบริษัท คอมม์เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมนัดสาธิตผลิตภัณฑ์ได้ทันที โทร. 0-2187-2229 หรือเข้าชมเว็บไซต์ www.commexpress.co.th เพื่อดูรายละเอียดเบื้องต้น