Red Hat เปิดตัว Red Hat Enterprise Linux for Workstations บน AWS

Red Hat เปิดตัว Red Hat Enterprise Linux for Workstations บน AWS รองรับการใช้งาน GPU-accelerated สำหรับงาน Animation Rendering และ Data Visualization

Credit: Red Hat

Red Hat Enterprise Linux for Workstations เป็นบริการ Linux Workstation ทำงานอยู่บน Amazon Web Services (AWS) ผู้ใช้งานสามารถเข้าใช้งานผ่านทาง NICE DCV โปรโตคอล Remote Desktop ประสิทธิภาพสูงของ Amazon หรือผ่านทาง Web Browser ได้ทันที ช่วยตอบโจทย์องค์กรที่ต้องการใช้งาน Workstation ประสิทธิภาพสูงบน Cloud โดยโซลูชันมีจุดเด่นดังนี้

  • มีการปรับแต่ง Red Hat Enterprise Linux ให้รองรับ High-performance Workload รวมถึงการรองรับแอพพลิเคชันที่ใช้งาน Graphic มาตั้งแต่เริ่มต้น
  • รองรับซอฟต์แวร์ใน Ecosystems ของ Red Hat Enterprise Linux ทั้งหมด สามารถนำซอฟต์แวร์จาก Independent Software Vendor (ISV) มาใช้งานได้ทันที
  • รองรับ Amazon EC2 instance หลากหลาย เช่น G-family ที่มีการติดตั้ง GPU อยู่ภายใน ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในเลือกใช้งาน
  • รองรับการเข้าใช้งานได้จากทาง Web Browser, Windows, Mac และ Linux Thin Client
  • มี Software Development Stack เวอร์ชันล่าสุดแบบ Stable รวมถึงระบบฐานข้อมูลและเครื่องมือต่างๆ

ผู้ที่สนใจสามารถเริ่มต้นใช้งานผ่านทาง AWS Marketplace ได้ทันที โดยมี Amazon Machine Image (AMI) ให้เลือกทั้งแบบ GRID driver และ Tesla driver

ที่มา: https://www.redhat.com/en/about/press-releases/red-hat-launches-red-hat-enterprise-linux-workstations-aws

About เด็กฝึกงาน TechTalkThai หมายเลข 1

นักเขียนผู้มีความสนใจใน Enterprise IT ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปีในไทย ปัจจุบันใช้ชีวิตอยู่ที่ Cupertino, CA แต่ยังคงมุ่งมั่นในการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีให้กับทุกคน

Check Also

UiPath เข้าซื้อกิจการ Peak.ai หวังเร่งขยายตัวสู่โซลูชัน Agentic AI

UiPath ได้เปิดเผยกิจกรรมการเข้าซื้อบริษัทสตาร์ทอัปที่ชื่อว่า Peak.ai ในรายงานบริษัทประจำไตรมาส ซึ่งนำเสนอเรื่องของ AI ที่ตัดสินใจได้

Microsoft เปิดตัวความสามารถ Responses API และ Computer-Using Agent ใน Azure AI Foundry

Azure AI Foundry ได้เพิ่มความสามารถใหม่ที่หวังช่วยธุรกิจต้อนรับยุค Agentic AI ได้ในระดับความต้องการระดับองค์กรที่ต้องมีความปลอดภัยและกำกับดูแลได้ ไอเดียก็คือ Azure ได้เพิ่ม API ที่ทำอะไรได้หลายอย่างมากขึ้น จากเดิมที่กว่าเราจะพัฒนาระบบอัตโนมัติให้ทำงานได้ภายใต้ก็อาจมีการใช้ API หรือกลไกมากมาย …