Raytheon|Websense เปลี่ยนชื่อเป็น Forcepoint นำเสนอผลิตภัณฑ์สาย Security ครบวงจร

forcepoint_banner

หลังจากที่ Raytheon ได้ร่วมทำ Joint Venture กับ Websense เกิดขึ้นมาเป็น Raytheon|Websense มาก่อนแล้ว วันนี้ทั้งคู่ได้เปลี่ยนชื่อรวมกันเป็น Forcepoint และเตรียมเข้าสู่ตลาด Enterprise IT ในฐานะผู้ผลิตระบบรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจรอีกรายหนึ่งที่น่าจับตามองไม่น้อยเลยทีเดียว และทำให้ทั้งคู่มีผลิตภัณฑ์ทางด้าน Cybersecurity ดังนี้

  • Next Generation Firewall จาก Stonesoft ซึ่งกำลังทำเรื่องเข้าซื้อกิจการต่อจาก Intel Security มา
  • Proxy Firewall จาก Sidewinder ซึ่งกำลังทำเรื่องเข้าซื้อกิจการต่อจาก Intel Security มา
  • Forcepoint SureView ระบบ Insider Threat Detection ทำนายความเสี่ยงของผู้ใช้งานแต่ละคนจากพฤติกรรมที่ตรวจจับมาได้จากระบบ Forcepoint TRITON AP-DATA ซึ่งเป็นระบบ Data Loss Prevention (DLP)
  • รักษาความปลอดภัยในการเข้าใช้งาน Microsoft Office 365 ด้วย Forcepoint TRITON ที่ทำ DLP ให้กับทั้งระบบ Cloud และ On-premises

สำหรับผลประกอบการของ Raytheon นั้น ในรายงานระบุว่าปี 2014 ทาง Raytheon มียอดขายมากถึง 23,000 ล้านเหรียญ และมีพนักงานกว่า 61,000 คนทั่วโลก พร้อมประสบการณ์การดำเนินมากว่า 93 ปี โดยหลังจากที่ผสานรวมกลายเป็น Forcepoint แล้ว ก็ทำให้มีลูกค้าทั่วโลกกว่า 20,000 องค์กรทันที

ที่มา: http://blogs.forcepoint.com/press-releases/raytheonwebsense-now-forcepoint

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

สิริซอฟต์ คว้ารางวัลระดับอาเซียน “Top Systems Integration Partner” ในงาน 2025 Elastic ASEAN Partner Awards [PR]

สิริซอฟต์ (Sirisoft) ผู้ให้คำปรึกษาและบริการโซลูชันเทคโนโลยีชั้นนำของประเทศไทยที่เชี่ยวชาญด้านการเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Optimization) ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) และการเปลี่ยนแปลงดิจิทัล (Digital Transformation) ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านที่ปรึกษาไอทีที่ครบวงจรของไทย คว้ารางวัลระดับอาเซียน “Top Systems Integration Partner” ในงาน 2025 Elastic ASEAN Partner Awards

Wikipedia บอกผู้พัฒนา AI หยุด Scrape ได้แล้ว เอาข้อมูลบทความไปเลย

มูลนิธิ Wikimedia ซึ่งเป็นองค์กรที่อยู่เบื้องหลังสารานุกรมเสรีที่ใหญ่ที่สุดบนอินเทอร์เน็ตอย่าง Wikipedia ได้เสนอชุดข้อมูลที่พร้อมสำหรับปัญญาประดิษฐ์บน Kaggle โดยมีเป้าหมายเพื่อยับยั้งบริษัท AI และผู้ฝึกโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) จากการดึงข้อมูลจากเว็บไซต์โดยอัตโนมัติ (web scraping)