Bangkok Komatsu Sales วางรากฐานการบริหารธุรกิจด้วย SAP S/4HANA ผสานโครงการ Digital Transformation สู่การเติบโตในตลาด B2B โดย NTT DATA  Business Solutions (Thailand) Ltd.

การทำ Digital Transformation สำหรับธุรกิจแบบ B2B นั้น หัวใจสำคัญอยู่ที่การเชื่อมโยงและผสานข้อมูลระหว่างระบบต่างๆได้อย่างแม่นยำและเป็นอัตโนมัติ เป้าหมายหลักคือเพื่อให้ธุรกิจสามารถสร้างคุณค่าใหม่ๆ จากข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และนำคุณค่าเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้สูงกว่าคู่แข่ง เพื่อนำเสนอบริการที่เหนือกว่าให้กับลูกค้าของตนเองได้อย่างต่อเนื่อง

Bangkok Komatsu Sales ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของเครื่องจักร Komatsu ขับเคลื่อนวงการก่อสร้าง, เหมืองแร่ และการเกษตร

 

คุณณัฐกิตติ์ ศิริรัตนธัญญะกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกโคมัตสุเซลส์ จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของเครื่องจักร Komatsu เป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมรถก่อสร้าง เหมืองแร่ และการเกษตร ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการ Digital Transformation อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายในการยกระดับการบริการและการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญคือการนำระบบ SAP S/4HANA มาใช้เป็นระบบ ERP หลักของบริษัท ซึ่งช่วยในการบูรณาการข้อมูลจากบริการต่างๆ ทั้งหมดเข้าด้วยกัน ส่งผลให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

การผสมผสานระหว่างความเชี่ยวชาญในภาคอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลหนักกับวิสัยทัศน์ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ทำให้ บริษัท บางกอกโคมัตสุเซลส์ ภายใต้การบริหารของคุณณัฐกิตติ์ สามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดและพร้อมรับมือกับความท้าทายในยุคดิจิทัลได้อย่างมั่นคง

 

คุณณัฐกิตติ์ ได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับบริษัท บางกอกโคมัตสุเซลส์ จำกัด ว่าเป็นบริษัทที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของบริษัท Komatsu ประเทศญี่ปุ่น และ บริษัท สยามกลการ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินกิจการในประเทศไทย มานานกว่า 70 ปี (4 กันยายน 2495)  และ ในฐานะตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของเครื่องจักร Komatsu สำหรับใช้งานในภาคอุตสาหกรรมก่อสร้าง เหมืองแร่ และการเกษตร โดยมีสินค้าหลัก ได้แก่ รถขุดไฮดรอลิค (รถแม็คโคร), รถตักล้อยาง, รถดันดิน, รถบรรทุกเทท้าย และรถเกลี่ยดิน (รถเกรด) ที่มีขนาดให้เลือกตั้งแต่เล็กถึงใหญ่ เหมาะกับการใช้งานในแต่ละอุตสาหกรรมได้แตกต่างกัน

จุดเด่นของเครื่องจักร Komatsu จะขึ้นชื่อในเรื่องของความทนทานในการใช้งานและการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักรและเพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุนให้กับธุรกิจต่างๆที่จะนำเครื่องจักรเหล่านี้ไปใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยจะสะท้อนกลับไปยังผลประกอบการของบริษัทนั้นๆในระยะยาวที่จะสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

ด้วยวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน  Komatsu ได้จัดตั้งโรงงานในประเทศไทยเพื่อผลิตเครื่องจักรสำหรับตลาดภายในประเทศและส่งออกไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาและอีกหลายประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ บริษัทยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งเป็นรถขุดพลังงานไฮบริดรุ่นแรก สะท้อนให้เห็นถึงนวัตกรรมที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นการลดการปล่อยคาร์บอน เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสังคม

ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้มีจุดเด่นทั้งด้านการประหยัดพลังงานและความคล่องตัวในการใช้งาน ด้วยการผสมผสานระหว่างพลังงานไฟฟ้าและน้ำมัน ผลิตภัณฑ์นี้จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในสถานการณ์ที่หลากหลาย

 

นอกเหนือจากการจัดจำหน่ายเครื่องจักรของ Komatsu แล้ว อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของบางกอกโคมัตสุเซลส์นั้นก็คือการบริการดูแลรักษาเครื่องจักรหลังการขาย เพราะบางกอกโคมัตสุเซลส์เชื่อว่าการที่ลูกค้าจะสามารถใช้งานเครื่องจักรที่ลงทุนได้อย่างคุ้มค่านั้น Machine Availability คือตัวชี้วัดหลักที่จะตอบโจทย์นี้ได้ ทำให้ทางบริษัทได้ทำการลงทุนสร้างศูนย์บริการหลังการขายมากถึง 23 แห่งทั่วประเทศ พร้อมทีมงานวิศวกรและช่างผู้เชี่ยวชาญอีกกว่า 300 คน ที่พร้อมให้บริการทั้งในส่วนของการดูแลหลังการขายโดยเฉพาะ อีกทั้งยังมีคลังอะไหล่รองรับบริการหลังการขายที่ดูแลได้ครอบคลุมทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทั่วทั้งในประเทศไทยอีกด้วย

การให้ความสำคัญต่อการดูแลหลังการขายของบางกอกโคมัตสุเซลส์ยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะหนึ่งในบริการที่ทางบริษัทมีเป็นรายเดียวในประเทศไทย ก็คือการมีทีมช่างสำหรับให้บริการ Preventive Maintenance สำหรับเครื่องจักรที่จัดจำหน่ายออกไปโดยเฉพาะ โดยสำหรับทุกระยะเวลาการใช้งาน 500 ชั่วโมง ทางบริษัทจะมีบริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมัน และการดูแลสภาพรถอย่างตรงเวลา เพื่อให้เครื่องจักรนั้นสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ลดโอกาสที่จะเกิดความเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงและระยะเวลาในการซ่อมบำรุงที่นาน ส่งผลกระทบต่อ Machine Availability และความคุ้มค่าของลูกค้าโดยตรง

แน่นอนว่าการที่เครื่องจักรจะถูกใช้งานได้อย่างคุ้มค่านั้น ผู้ใช้เครื่องจักรเองก็ต้องมีความรู้ความเข้าใจในการใช้งานอย่างเหมาะสมด้วย นำมาสู่อีกหนึ่งบริการล่าสุดจากทางบางกอกโคมัตสุเซลส์ที่มอบให้กับลูกค้า คือการเปิดศูนย์ฝึกอบรมสาธิตเครื่องจักร เพื่ออบรมทีมงานวิศวกรของโคมัตสุเซลส์เองให้มีความรู้ความชำนาญในการให้บริการลูกค้า และอบรมให้คนขับรถ Komatsu ของลูกค้าได้เข้ามาเรียนรู้วิธีการใช้งานเครื่องจักรได้อย่างประหยัดและคุ้มค่าที่สุด ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี และช่วยให้ธุรกิจซึ่งเป็นลูกค้าของบริษัทสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้อย่างชัดเจน

สุดท้าย เพื่อช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถเริ่มต้นลงทุนในเครื่องจักรของ Komatsu และดำเนินธุรกิจได้โดยง่าย ทางบางกอกโคมัตสุเซลส์ก็มีบริการ Leasing เพื่อช่วยบริหารจัดการด้านการเงินให้กับลูกค้าแต่ละราย เรียกได้ว่าเป็นการดำเนินธุรกิจอย่างครบวงจรอย่างแท้จริง

ผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบางกอกโคมัตสุเซลส์และเครื่องจักรของ Komatsu ที่มีจำหน่ายในไทย สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.komatsuthailand.com/

มุ่งเน้นตอบโจทย์ความคุ้มค่าการใช้งานเครื่องจักร ช่วยลูกค้าทำโครงการ Digital Transformation ด้วยข้อมูลจากเครื่องจักรของ Komatsu

คุณณัฐกิตติ์ ได้เผยถึงหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้บางกอกโคมัตสุเซลส์มีความแข็งแกร่งในวงการ ซึ่งก็คือวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนด้านการทำ Digital Transformation ร่วมกับทาง Komatsu และนำเทคโนโลยีใหม่ๆ จากญี่ปุ่นเข้ามาช่วย Transform ให้กับอุตสาหกรรมก่อสร้าง, เหมืองแร่ และการเกษตรของไทยร่วมกับลูกค้าของตนเองไปพร้อมๆกัน

คุณณัฐกิตติ์ เล่าว่า ลูกค้าของ Komatsu นั้นมักจะเป็นธุรกิจที่มีความเข้มแข็งและมีเป้าหมายในการเติบโตที่ชัดเจน ดังนั้นลูกค้าของ Komatsu จึงให้ความสนใจเป็นอย่างมากในการทำ Digital Transformation ภายในองค์กรของตนเอง และมีโจทย์ในการขอข้อมูลต่างๆ จากเครื่องจักรของ Komatsu มาโดยตลอด ทำให้ทาง Komatsu นั้นก็เร่งเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์ของตนเองเพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการเหล่านี้มาอย่างต่อเนื่อง

หนึ่งในเทคโนโลยีที่ Komatsu พัฒนาขึ้นมา เพื่อตอบโจทย์ดังกล่าวนี้และใช้ได้ผลเป็นอย่างมาก ก็คือ Komatsu Machine Tracking System หรือ KOMTRAX ซึ่งประยุกต์นำเทคโนโลยี Industrial Internet of Things (IIoT) ผสานเข้ากับไปกับเครื่องจักรของ Komatsu เพื่อรวบรวมข้อมูลการทำงาน ระยะเวลาการใช้งาน อัตราการใช้พลังงาน และความผิดปกติของเครื่องจักร รวมถึงยังมีการติดตั้ง GPS เพื่อบันทึกตำแหน่งของเครื่องจักรอยู่ตลอด และส่งข้อมูลเหล่านี้ขึ้นมาจัดเก็บบนระบบ Cloud เพื่อประมวลวิเคราะห์ผลการใช้งาน โดยมีการแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุการณ์ผิดปกติขึ้นกับลูกค้า

คุณณัฐกิตติ์ ระบุว่าที่ผ่านมาก็มีลูกค้าในไทยที่ได้รับประโยชน์จากการใช้งาน KOMTRAX ในแง่มุมที่น่าสนใจไม่น้อย ตัวอย่างเช่น

ลูกค้ารายหนึ่งแจ้งว่าเครื่องจักรมีการใช้น้ำมันมากผิดปกติ แต่พอตรวจสอบข้อมูลจาก KOMTRAX แล้ว ก็พบว่าการเดินเครื่องและการใช้งานปกติทั้งหมด จนทำการสืบสวนเพิ่มเติมและพบว่ามีการขโมยน้ำมันเกิดขึ้นในบริษัทของลูกค้า ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด

ประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในการใช้งานเครื่องจักรแต่ละเครื่องของ Komatsu นั้นขึ้นอยู่กับพฤติกรรมและวิธีการใช้งานของผู้ขับเป็นหลัก ดังนั้นบางองค์กรจึงมีการตรวจสอบพฤติกรรมการใช้เครื่องจักรและวัดประสิทธิภาพการทำงานผ่าน KOMTRAX ทำให้เป็นอีกหนึ่ง KPI ในการเพิ่มเงินเดือนให้กับคนขับ และสร้างแรงจูงใจให้คนขับแต่ละคนพยายามเรียนรู้วิธีการในการช่วยธุรกิจให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุนในเครื่องจักรเหล่านี้มากขึ้น

นอกจากนี้ ทางบางกอกโคมัตสุเซลส์เองก็ยังมีการนำระบบที่ชื่อว่า CARTE ซึ่งเป็นศูนย์กลางการสื่อสาร เพื่อประสานงานด้านข้อมูลและการให้บริการระหว่างทางบริษัทกับลูกค้ามาใช้งาน เป็นช่องทางกลางที่จะช่วยให้การทำธุรกิจร่วมกันเป็นไปได้อย่างราบรื่นไม่สับสน รวมถึงยังมีการลองนำโซลูชันที่น่าสนใจอย่าง Smart Construction เข้ามาทดลองใช้งานแล้วที่จังหวัดน่าน

แนวคิดของระบบ Smart Construction ของ Komatsu นี้ ก็คือระบบสำหรับการวางแผนใช้งานเครื่องจักรในไซต์ก่อสร้างอย่างชาญฉลาด ตั้งแต่การนำข้อมูล Requirement ต่างๆ ของโครงการป้อนเข้าไปในระบบ และมีการนำ Drone มาบินสำรวจสถานที่ที่ไซต์งาน แล้วนำข้อมูลทั้งหมดนี้ไปประมวลผลว่าโครงการดังกล่าวควรต้องใช้เครื่องจักรกี่เครื่อง แต่ละเครื่องต้องทำงานเป็นระยะเวลาเท่าไหร่ โดยมีกำหนดการใช้งานเครื่องจักรแต่ละเครื่องอย่างไรบ้าง พร้อมติดตามความคืบหน้าของโครงการได้ เป็นต้น

แนวคิดที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งในการทำ Smart Construction คือการพัฒนาเครื่องจักรให้มีความฉลาดมากขึ้น คุณณัฐกิตติ์ได้ยกตัวอย่างโครงการในอดีตที่ต้องตักดินในปริมาณมากๆ จะมีการตักดินและวัดปริมาตรหรือน้ำหนักไปพร้อมๆกัน จึงทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนสูง แต่โซลูชันของ Komatsu ได้นำเสนอวิธีการใหม่ โดยการติดตั้งเซนเซอร์เพื่อวัดระดับความสูงบนเครื่องตักดิน ร่วมกับการใช้โดรนเพื่อจำลองขนาดกองดิน ระบบนี้สามารถคำนวณจำนวนครั้งในการตักและความสูงที่เหมาะสมสำหรับแต่ละครั้งได้ ส่งผลให้เกิดความผิดพลาดน้อยลง ซึ่งในประเทศไทยก็มีการทดลองใช้เทคโนโลยีนี้ในการเจาะถนนบนภูเขา ซึ่งการวัดเหล่านี้สามารถทำได้ยากมาก แต่เทคโนโลยีดังกล่าวช่วยให้การทำงานง่ายขึ้นและมีความแม่นยำสูงขึ้น ทำให้ลดต้นทุนของผู้ประกอบการได้อย่างมาก

เร่งเครื่องธุรกิจ เปลี่ยนจากระบบ ERP เดิมที่อายุมากกว่า 20 ปี สู่ SAP S/4HANA เชื่อมผสานข้อมูลระหว่างไทยกับญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว

คุณณัฐกิตติ์ เผยว่า ในบางกอกโคมัตสุเซลส์เองมีแผนการทำ Digital Transformation ภายในที่หลากหลายไม่น้อยเช่นกัน และเพื่อให้วิสัยทัศน์เหล่านั้นเดินหน้าไปได้อย่างมั่นคง สิ่งที่บริษัทต้องเร่งปรับก่อนเลยคือระบบ ERP จากเดิมที่เป็นระบบเก่าและใช้งานมาเป็นเวลานานเกินกว่า 20 ปีแล้ว

ปัญหาของระบบ ERP เดิมนั้นก็คือไม่มีการเชื่อมผสานข้อมูลร่วมกับระบบอื่นมากเท่าที่ควร ทำให้การนำเข้าข้อมูลนั้นยังต้องอาศัยทีมงานช่วยดำเนินการให้ และเกิดความผิดพลาดค่อนข้างมาก ทำให้ข้อมูลขาดความแม่นยำ และไม่มีข้อมูลภาพรวมของธุรกิจในการทำงาน นำไปสู่การวางแผนที่ยาก การตรวจสอบปัญหาที่ซับซ้อน และข้อมูลขาดความน่าเชื่อถือ รวมถึงยังไม่สามารถทำ Data Visualization เพื่อใช้งานได้

ด้วยโจทย์ดังกล่าว ทางบางกอกโคมัตสุเซลส์จึงมองหาระบบ ERP ในแบบ Single Platform ที่ให้ผู้บริหารและพนักงานทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้งานข้อมูลได้อย่างมั่นใจ สามารถทำ Data Visualization ได้ง่าย และตอบสนองลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว โดยต้องมีระบบ Workflow สำหรับติดตามการทำงานร่วมกับลูกค้าแต่ละรายได้อย่างเป็นระบบ เพื่อให้การนำเสนอโซลูชันต่างๆ ต่อลูกค้าเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

สุดท้าย หลังจากที่พิจารณาเลือกระบบ ERP จากผู้พัฒนาหลายรายที่มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป บางกอกโคมัตสุเซลส์ก็ได้ตัดสินใจเลือกใช้ SAP S/4HANA ด้วยปัจจัยดังนี้

 

โอกาสที่โครงการจะประสบความสำเร็จมีสูง เพราะ SAP มี Best Practice ที่ดีซึ่งจะช่วยปรับกระบวนการทำงานของบริษัทให้เป็นระบบตามมาตรฐานสากลระดับโลก ด้าน Komatsu ที่ญี่ปุ่นได้เริ่มใช้ SAP เช่นกัน  ดังนั้นการที่บางกอกโคมัตสุเซลส์จะใช้ SAP ด้วยเพื่อให้ระบบสามารถเชื่อมผสานข้อมูลระหว่างกันได้จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

เลือกใช้บริการจาก NTT DATA  Business Solutions (Thailand) ให้ผู้มีประสบการณ์ด้าน ERP เชิงลึกระดับมืออาชีพช่วยดำเนินโครงการจนประสบความสำเร็จ

 

เมื่อบางกอกโคมัตสุเซลส์เลือกได้แล้วว่าจะใช้ระบบ ERP จาก SAP ขั้นตอนถัดมาคือการมองหา SAP Implementer ที่จะมาช่วยดำเนินการให้โครงการประสบความสำเร็จได้ โดยทางบริษัทได้เชิญ SAP Implementer 3 รายเข้ามานำเสนอ และวางโจทย์ให้ SAP Implementer แต่ละเจ้า มานำเสนอแข่งขันกัน โดยผู้ที่จะต้องใช้งานระบบ SAP ภายในอนาคตจะต้องเป็นผู้กำหนดโจทย์หรือระบุปัญหาเหล่านี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทได้เห็นถึงความใส่ใจและความเข้าใจของ SAP Implementer แต่ละรายได้เป็นอย่างดี  ในที่สุดได้ตัดสินใจร่วมงานกับ NTT DATA Business Solutions Thailand (NDBS) เพราะทีมงานเข้าใจโจทย์ของธุรกิจและสามารถแก้ไข Pinpoint ได้อย่างตรงจุดที่สุด

โครงการนี้ใช้เวลาประมาณ 10 เดือนจึงสามารถ Go Live ได้จนสำเร็จ และเข้าสู่ช่วงเวลาของการเก็บตกปัญหาของระบบ และการอบรมผู้ใช้งาน ซึ่ง NDBS สามารถสนับสนุนในส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการส่งทีมงานเข้ามาช่วยเหลือด้านการใช้งาน, การรับฟังเสียงจากผู้ใช้งานเพื่อนำข้อคิดเห็นไปปรับปรุง และการจัดอบรมผู้ใช้งานสำหรับแต่ละฝ่ายอย่างเป็นระบบ โดยมีแผนการต่อยอดระบบในอนาคตอย่างเช่นการทำ Automation กระบวนการต่างๆ เพิ่มเติม, การวางแผนทำ Project Management Planning หรือต่อยอดในลักษณะอื่นๆ ในอนาคตอย่างเช่นการผสานระบบเข้ากับระบบอื่นๆ หรือการเสริมความสามารถใหม่ๆ ให้กับระบบ

 

บทเรียนหนึ่งที่คุณณัฐกิตติ์ได้แบ่งปันคือในช่วง 3 เดือนแรกหลังจากการ Go Live นั้น ธุรกิจจะต้องเผชิญกับปัญหาในการใช้งานระบบ SAP อย่างแน่นอน เพราะการทำงานของระบบ SAP นั้นมีขั้นตอนการทำงานที่ชัดเจนและมีรายละเอียดค่อนข้างมาก ไม่ค่อยมีทางลัดให้ผู้ใช้งานมากนัก ทำให้ผู้ใช้งานต้องใช้เวลาในการปรับตัวค่อนข้างมาก หรือผู้ใช้งานบางกลุ่มก็อาจต่อต้านเลยด้วยซ้ำ ซึ่งบริษัทต้องให้การสนับสนุนเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถปรับตัวได้ ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจถึงความจำเป็นในกระบวนการใหม่ๆ ที่ถูกเพิ่มเข้ามา และต้องปรับระบบให้ง่ายลงให้สอดคล้องกับการใช้งานจริง

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือการเลือกใช้งาน SAP บน Cloud ที่ช่วยให้ระบบ ERP มีความเสถียรมากขึ้นจากการรับประกัน Uptime ที่สูงถึง 99.99% ได้ ซึ่งสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาระบบ Data Center ขององค์กรลงได้เป็นอย่างดี อีกทั้งภายในองค์กรยังไม่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในการดูแลระบบส่วนนี้อีกด้วย

คุณณัฐกิตติ์ ระบุว่าการใช้งาน SAP จะทำให้ธุรกิจมีโอกาสในการเติบโตขยายไปสู่ช่องทางการทำธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ ในอนาคตได้จากความสามารถที่หลากหลายของระบบ แต่หัวใจสำคัญคือต้องวางระบบหลังบ้างให้เรียบร้อยก่อนตั้งแต่เนิ่นๆ

ปัจจุบัน บางกอกโคมัตสุเซลส์มีผู้ใช้งาน SAP มากถึง 400 ราย โดยถึงแม้งานด้านการจัดการข้อมูลจำนวนมากจะหายไปเพราะระบบสามารถทดแทนในส่วนนี้ได้ทั้งหมด แต่ทางบริษัทก็ไม่ได้มีการปลดพนักงานแต่อย่างใด และเปลี่ยนให้พนักงานที่เคยต้องทำงานเหล่านี้ไปช่วยทำงานอื่นที่มีคุณค่ามากขึ้นแทน ซึ่งส่งผลดีกับองค์กรมากเพราะทำให้เกิดผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เพิ่มขึ้นมากโดยไม่ต้องจ้างพนักงานใหม่

คุณณัฐกิตติ์ ได้เผยถึงแนวทางการเลือก SAP Implementer ที่เหมาะสมต่อการทำงานร่วมกันเอาไว้ดังนี้

ทีมงาน SAP Implementer ที่เป็นมืออาชีพจะช่วยขับเคลื่อนโครงการได้อย่างรวดเร็ว เพราะภายในโครงการลักษณะนี้จะมีงานใหม่ๆ ที่ต้องทำอยู่มากมาย และทีมงานที่มีความเป็นมืออาชีพมากพอก็จะช่วยวางแผนดำเนินการได้อย่างชัดเจน พร้อมดำเนินการและติดตามผลการทำงานให้อยู่ตลอด

ภายในบริษัทเองจะต้องมีทุกภาคส่วนที่เข้าไปมีส่วนร่วมกับโครงการและทำงานร่วมกับ SAP Implementer ได้ เพื่อให้โครงการประสบความสำเร็จ อย่าทิ้งให้เป็นงานของฝ่าย IT เท่านั้น เพราะผู้ใช้งานจะเป็นผู้ที่รู้ถึงความต้องการมากที่สุด ในขณะที่บทบาทที่ดีของผู้บริหารคือการสนับสนุนอยู่เบื้องหลังเพื่อขับเคลื่อนโครงการต่อไป

 

ทีมงาน SAP Implementer ที่ดีจะไม่ตามใจธุรกิจมากนัก เพราะ Requirement ที่เกิดจากความไม่เข้าใจ Software ของธุรกิจจะทำให้การทำงานของ Software ผิดไปจาก Best Practice ดังนั้น SAP Implementer ที่พยายามหาพื้นที่ตรงกลางเพื่อให้บริษัทยังเดินตาม Best Practice ของ Software ได้ จะช่วยให้การใช้งาน SAP ในระยะยาวประสบความสำเร็จและต่อยอดได้ง่ายกว่ามาก

ซึ่งทั้งหมดนี้ ทีมงาน NTT Data Business Solutions ก็สามารถตอบโจทย์ให้กับทางบางกอกโคมัตสุเซลส์ได้อย่างครบถ้วน ทั้งในแง่ของการวางแผนและขับเคลื่อนโครงการ, การประสานงานทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัทอย่างใกล้ชิด ไปจนถึงการให้คำแนะนำและหาทางออกให้กับทุกความต้องการของบริษัท โดยไม่ทำให้โครงสร้างด้าน Software และ Data ของ SAP เปลี่ยนแปลงเกินไปมากนัก

การเร่งเสริมความคุ้มค่าในการใช้งานเครื่องจักร คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจในหลากอุตสาหกรรมปรับตัวได้สำเร็จ

คุณณัฐกิตติ์ ได้ทิ้งท้ายถึงประเด็นที่อยากฝากต่อผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง, เหมืองแร่ และการเกษตร ถึงความสำคัญในการบริหารจัดการควบคุมค่าใช้จ่ายหรือ Cost Control ที่มีความจำเป็นอย่างมากต่อสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่มีแรงกดดันจากรอบด้าน และจะเป็นสิ่งที่จำเป็นทั้งในการวางแผนระยะสั้นและระยะยาว โดยทุกการลงทุนควรพิจารณาถึง Total Cost of Ownership หรือ TCO ด้วย ไม่ใช่พิจารณาเพียงแค่ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นในการจัดซื้อเท่านั้น

อีกแนวโน้มหนึ่งที่จะมาเสริมให้ประเด็นของการทำ Cost Control ให้มีความเข้มข้นมากขึ้นนั้นก็คือแนวโน้มของค่าแรงที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการทำงานโดยมุ่งเน้นในเรื่องของความคุ้มค่าในการดำเนินการนั้นจะเป็นหัวใจสำคัญ และเครื่องจักรที่ดี ทนทาน ใช้งานได้อยู่เสมอ ก็จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้อย่างมั่นคง

สิ่งที่ผู้คนในอุตสาหกรรมควรเร่งปรับตัวนั้น ก็คือเรื่องของการตอบสนองต่อลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและการวางแผนดำเนินการได้อย่างชัดเจน ทำงานได้อย่างคุ้มค่าโดยไม่มีช่วงเวลาที่สูญเปล่า ก็จะช่วยลดความเสียหายให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดี

สุดท้าย คุณณัฐกิตติ์ ก็ได้สรุปถึงการมีระบบหลังบ้านอย่าง ERP ของ SAP ที่จะช่วยบริหารการทำงานของธุรกิจได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่การขาย, การดำเนินงาน และการให้บริการหลังการขาย ซึ่งก็จะช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการ TCO ในทุกการลงทุน และความคุ้มค่าของทุกการดำเนินงานได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้นไปด้วย

 

เกี่ยวกับ NTT DATA Business Solutions (Thailand) Ltd.

บริษัท NTT DATA Business Solutions  (Thailand) Ltd. ภายใต้กลุ่ม บริษัท NTT DATA ผู้ให้บริการระบบ SAP และ Data Center ระดับโลก และเป็นผู้นำทางด้าน Digital Transformation และเป็นสมาชิก SAP Global Partner ที่พร้อมคำปรึกษาและบริการด้านการออกแบบ พัฒนา ติดตั้งโซลูชัน SAP Solution และ IT Solution อื่น ๆ ให้กับลูกค้าในประเทศไทย เพื่อพัฒนาระบบบริหารการจัดการในองค์กรในทุกกลุ่มประเภทธุรกิจ

สำหรับธุรกิจที่ต้องการปรึกษาด้านโซลูชั่น SAP เพื่อพัฒนาระบบบริหารการจัดการในองค์กรให้ดีขึ้น NTT DATA Business Solutions Thailand พร้อมให้คำปรึกษาในทุกกลุ่มประเภทธุรกิจ ติดต่อได้ที่ โทร 02 237 05553 หรือติดตาม ได้ที่ email: marketing-solutions-th@nttdata.com หรือ www.nttdata-solutions.com

About Maylada

Check Also

Microsoft เปิดตัว Drasi ระบบ Data Processing ที่จัดการ Big Data ได้ง่ายขึ้น

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทาง Microsoft ได้เปิดตัว Drasi ระบบประมวลผลข้อมูล (Data Processing) ใหม่ให้เป็น Open Source ที่จะช่วยทำให้การตรวจจับและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงข้อมูลในฐานข้อมูลได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

Microsoft เปิดตัว Office 2024 สำหรับ Consumer รองรับทั้ง PC และ Mac

Microsoft ประกาศเปิดตัว Office 2024 สำหรับ Consumer และธุรกิจขนาดเล็ก พร้อมฟีเจอร์ใหม่และการปรับปรุงประสิทธิภาพ รองรับการทำงานทั้งบน Windows และ macOS