KBTG เลือกใช้โซลูชันจาก Red Hat เพิ่มความเร็วในการพัฒนา Application ออกสู่ตลาด

Kasikorn Business-Technology Group หรือ KBTG บริษัทลูกทางด้าน FinTech ของธนาคารกสิกรไทย ได้เลือกใช้งานโซลูชันจาก Red Hat ในระบบ IT Infrastructure เพื่อตอบรับต่อแนวทางการพัฒนาระบบ Application สำหรับธุรกิจองค์กรสมัยใหม่ ที่ต้องมีทั้งความรวดเร็วในการพัฒนา และยังคงมีความมั่นคงปลอดภัยในการใช้งาน

บริการของธนาคารต้องผสานเป็นหนึ่งเดียวกับเทคโนโลยี

เพื่อตอบสนองต่อพฤติกรรมของลูกค้าทั่วไทยที่เปลี่ยนไปจากการมาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีที่หลากหลาย ธนาคารกสิกรไทยก็จำเป็นต้องทำการปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อรับมือต่อความเปลี่ยนแปลงนี้ และได้เริ่มปรับนำเทคโนโลยีจำนวนมากเข้ามาใช้เพื่อให้บริการลูกค้าทั่วไป รวมถึงปรับนำบริการของธนาคารที่แต่เดิมเคยต้องทำในสาขาหรือตู้ ATM มาสู่ระบบออนไลน์และ Application มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบ Mobile Application อย่าง K PLUS หรือระบบ AI อย่าง KADE และบริการอื่นๆ ที่เปิดตัวมาอย่างต่อเนื่องก็ตาม

แนวทางดังกล่าวนี้ได้ทำให้เทคโนโลยีกลายเป็นหัวใจสำคัญของบริการทางการเงินของธนาคารกสิกรไทย ตรงนี้เองที่ทำให้ KBTG ต้องเร่งปรับปรุง IT Infrastructure ครั้งใหญ่เพื่อให้ตอบรับต่อกลยุทธ์ในระยะยาวของธนาคารให้ได้ และการพัฒนาระบบ Application ใดๆ นั้นก็จะใช้สถาปัตยกรรมแบบเดิมอย่างในอดีตที่เชื่องช้าไม่ได้อีกต่อไป และต้องปรับมาสู่การพัฒนา Cloud-Native Application เพื่อให้ตอบโจทย์ต่อความเร็วและความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันนี้

ก้าวสู่โลกของการพัฒนา Cloud-Native Application อย่างเต็มตัว สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมคือสิ่งที่จำเป็น

โจทย์ที่ KBTG ต้องตอบให้ได้นั้นก็คือการวางระบบอย่างไรเพื่อให้การพัฒนา Cloud-Native Application นั้นเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว มีการพัฒนา Software และ Release ได้อย่างต่อเนื่องภายในเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น และระบบยังต้องสามารถเพิ่มขยายเพื่อรองรับการใช้งานของผู้ใช้งานจากช่องทางต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่องอยู่ตลอด ในขณะที่ประเด็นด้านความมั่นคงปลอดภัยก็ยังคงมีความสำคัญสูงอยู่

เพื่อตอบโจทย์นี้ เทคโนโลยีหลักที่ KBTG เลือกใช้งานนั้นก็คือ Container ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ทั่วโลกในฐานะของเทคโนโลยีที่ช่วยให้การพัฒนา Software ขนาดใหญ่บนสถาปัตยกรรมแบบ Microservices เป็นไปได้อย่างคล่องตัวมากยิ่งขึ้น พร้อมกับนำหลัก Agile และ DevSecOps มาปรับใช้ เรียกได้ว่าเป็นการรื้อกระบวนการพัฒนา Software ครั้งใหญ่ภายใน KBTG เองให้ปรับมาสู่เทคโนโลยีของโลกยุคใหม่ทั้งหมดเลยก็ว่าได้

KBTG เลือกใช้โซลูชันหลากหลายจาก Red Hat ตอบโจทย์การปรับตัวครั้งใหญ่

หลังจากที่ KBTG ได้ทำการศึกษาและทดสอบโซลูชันจากผู้ผลิตด้วยกัน 3 ราย ในที่สุดก็ตัดสินใจเลือกใช้ Red Hat จากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ รวมถึงความพร้อมของเทคโนโลยี Open Source สำหรับธุรกิจองค์กรที่สามารถนำมาใช้งานได้ทันที โดยมีการปรับนำเทคโนโลยีดังต่อไปนี้มาใช้งาน

• ย้ายระบบมาสู่ Red Hat Enterprise Linux และ Red Hat JBoss Enterprise Application Platform (EAP)
• ใช้ระบบ Container ทั้งหมดบน Red Hat OpenShift ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Kubernetes และรวมเครื่องมือสำหรับการพัฒนา Cloud-Native Application เอาไว้อย่างครบถ้วน
• จัดการกับการสื่อสารรับส่งข้อมูลระหว่างแต่ละระบบด้วย Red Hat AMQ ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Apache ActiveMQ และ Apache Kafka
• ใช้บริการ Red Hat Consulting สำหรับการให้คำปรึกษาและการจัดการประเด็นด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง
• ใช้บริการ Red Hat Training เพื่อฝึกอบรมพนักงานให้มีทักษะในการใช้งานเทคโนโลยีและเครื่องมือใหม่ๆ รวมถึงการวาง CI/CD Pipelines ให้เหมาะสมกับการทำงาน

โครงการหนึ่งที่ถูกนำมาพัฒนาบน Platform ใหม่จาก Red Hat นี้คือโครงการพัฒนาระบบแจ้งเตือนแบบรวมศูนย์ที่มีชือว่า UCenter ซึ่งจะทำหน้าที่ในการส่งข้อความแจ้งเตือนบริการและข้อเสนอต่างๆ ไปยังผู้ใช้งานแต่ละคนที่แตกต่างกันไป ซึ่งจะต้องมีการพัฒนาเพิ่มเติมและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด รวมถึงต้องมีการผสานระบบเข้ากับ Application ของธนาคารอย่าเงช่น K PLUS และอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี

ลดเวลาที่ใช้ในการเสริมฟีเจอร์ใหม่ พร้อมเพิ่มขยายรองรับธุรกรรมปริมาณที่เพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง

ผลลัพธ์ของการปรับนำโซลูชันจาก Red Hat มาใช้ในครั้งนี้ ทำให้ KBTG สามารถเพิ่มความสามารถใหม่ๆ ไปยังระบบ Software ที่พัฒนาบนระบบใหม่นี้ได้ในเวลาเพียงแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้น จากเดิมที่เคยต้องต้องใช้เวลานานเกินกว่า 1 เดือน ในขณะที่สถาปัตยกรรมระบบแบบ Microservices และเทคโนโลยี Middleware ก็ช่วยให้ KBTG สามารถเพิ่มขยายระบบเพื่อรองรับผู้ใช้งานหรือปริมาณธุรกรรมที่เกิดขึ้นได้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในแง่ของการดูแลรักษาระบบนั้นก็เป็นไปได้อย่างง่ายดายยิ่งกว่าเดิม ด้วยการใช้ Red Hat OpenShift Management Console ในการบริหารจัดการภาพรวมของระบบและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เปลี่ยนภาพจากระบบ Enterprise Container ที่เคยมีความซับซ้อนสูงให้กลายเป็นระบบที่ง่ายดายยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ดูแลระบบสามารถทำงานได้อย่างสะดวก

ศึกษาข้อมูลฉบับเต็มจากเอกสาร Case Study กรณีของ KBTG จาก Red Hat

ทางทีมงาน Red Hat ได้มีการแปลข้อมูล Case Study นี้เป็นภาษาไทยเพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลได้อย่างสะดวก โดยสามารถโหลดเอกสารดังกล่าวได้ที่

• ฉบับภาษาอังกฤษ  https://dl.techtalkthai.com/rh-kbtg-case-study-f18667-202001-en.pdf
• ฉบับภาษาไทย https://dl.techtalkthai.com/rh-kbtg-case-study-f18667-202001-a4-th[4].pdf 

ติดต่อทีมงาน Red Hat ได้ทันที

สำหรับผู้ที่สนใจโซลูชันของ Red Hat สามารถติดต่อทีมงานของ Red Hat ประจำประเทศไทยได้ทันทีที่เบอร์โทรศัพท์ 02-697-9035