ทีมงาน TechTalkThai มีโอกาสได้สัมภาษณ์คุณ Mark Carroll ผู้ดำรงตำแหน่ง Vice President, General Manager ด้าน R&D ของแผนก WLAN แห่ง HPE Aruba ถึงแนวโน้มที่น่าสนใจเกี่ยวกับตลาด Enterprise Wireless LAN และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ของ HPE Aruba ในงาน APAC Atmosphere 2017 จึงขอสรุปให้ทุกท่านได้อ่านกันดังนี้ครับ #ATM17APAC
เติมเต็มช่องว่างของตลาด SD-WAN มุ่งมั่นพัฒนาสู่การเป็น SD-Branches
จากการที่ HPE Aruba ได้เคยประกาศเปิดตัว Aruba SD-WAN ซึ่งเป็นก้าวถัดไปของ VPN มาแล้ว ทาง HPE Aruba ก็ได้เผยถึงก้าวถัดไปอย่าง SD-Branches ที่ไม่เพียงแต่จะทำการบริหารจัดการเรื่องการเชื่อมต่อ Internet และการเชื่อมต่อ VPN Tunnel เชื่อมสาขาต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างมั่นคงปลอดภัย, ทนทาน และมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ HPE Aruba ยังได้เสริมเรื่องของการบริหารจัดการเครือข่ายที่สาขาขององค์กรอย่างครบวงจร ครอบคลุมทั้ง WAN, LAN, WLAN, User และ Device ทั้งหมดเข้าด้วยกัน พร้อมใช้ Machine Learning และ AI มาช่วยตรวจสอบปัญหาและให้คำแนะนำ ส่งผลให้ผู้ดูแลระบบในสาขานั้นๆ สามารถทำงานได้ง่ายดายและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นไปด้วยในตัว
3 การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ใน ArubaOS 8 เพื่อรองรับอนาคตของระบบเครือข่ายองค์กรที่จะใหญ่และซับซ้อนยิ่งขึ้น
ก่อนหน้านี้ HPE Aruba ได้ออกมาประกาศเปิดตัว ArubaOS 8 หรือ AOS 8 กันไปแล้ว ซึ่งทางคุณ Mark Carroll ก็ได้สรุปจุดเด่นหลักๆ 3 ประการของ AOS 8 เอาไว้ดังนี้
- ทำให้ AOS รองรับการทำ Virtualization ได้อย่างสมบูรณ์ องค์กรสามารถติดตั้ง AOS บน Virtualization Infrastructure หรือ Cloud ได้ตามต้องการ
- ปรับ UX/UI ให้รองรับการวิเคราะห์ข้อมูล, การรองรับระบบเครือข่ายขนาดใหญ่ และการติดตั้งระบบให้ง่ายขึ้น
- สามารถทำ High Availability (HA) และ Upgrade ได้แบบ Hitless โดยผู้ใช้งานไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เพื่อให้รองรับการเป็นระบบเครือข่ายสำหรับ Mission Critical Application ได้ดีขึ้น
การออก AOS 8 มานี้ทำให้ลูกค้าของ HPE Aruba นั้นสามารถใช้งานระบบเครือข่ายที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพและความคุ้มค่าเพิ่มขึ้นได้ถึง 30% เลยทีเดียว
HPE Aruba กับอนาคตของการนำมาตรฐาน 802.11ad, 802.11ax และ 802.11ah มาใช้
ถัดจากมาตรฐานอย่าง 802.11ac Wave 2 แล้ว ทาง HPE Aruba ก็ได้เริ่มพัฒนา 802.11ad เพื่อเตรียมเปิดตัวในไตรมาสแรกของปี 2018, พัฒนา 802.11ax ถัดมา ส่วน 802.11ah นั้นยังคงอยู่ในระหว่างวิจัยและมองหาตลาดอยู่ เพราะ 802.11ax นั้นได้ถูกออกแบบมาให้มีฟีเจอร์ทัดเทียมกับ 5G เลยทีเดียว จึงสามารถรองรับ Workload ได้หลากหลายรูปแบบ รวมถึง IoT ที่ต้องมีการปรับแต่งให้ประหยัดพลังงานและมีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้นหากมี 802.11ax แล้ว บทบาทของ 802.11ah ก็อาจถูกลดทอนลงไปเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ดี คุณ Mark Carrol ได้เสริมด้วยว่า 802.11ax เป็นมาตรฐานที่น่าจับตามองมาก และอนาคต 802.11ax นั้นก็คงจะเติบโตในฐานะของเทคโนโลยี Wi-Fi ที่เข้ามาเติมเต็มระบบ 5G ได้ทั้งในเชิงของประสิทธิภาพและความสามารถ กลายเป็นเทคโนโลยีคู่กันไปในอนาคต
การมาของ IoT กับ Network Security ที่เปลี่ยนไป
การมาของ IoT ในตลาดองค์กรนั้นถือว่าส่งผลกระทบต่อเทคโนโลยีฝั่ง Network และ Security เป็นอย่างมาก สถาปัตยกรรมของการแยกสองสิ่งนี้ออกจากกันอย่างแต่ก่อน เช่น การมี Switch และ Firewall แยกกันนั้นอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีอีกต่อไป ในขณะที่การยืนยันตัวตนเองก็เริ่มไม่เพียงพอต่อการรักษาความมั่นคงอีกต่อไปแล้ว เพราะเดิมที่การที่แต่ละอุปกรณ์จะเชื่อมต่อเครือข่ายได้นั้นต้องมีมนุษย์คอยยืนยันตัวตนให้ แต่ในยุคของ IoT ที่อุปกรณ์ต่างๆ นั้นมีช่องโหว่มากมายให้ผู้โจมตีเจาะเข้ามาได้นี้ การใช้เพียงระบบยืนยันตัวตนของอุปกรณ์นั้นก็ไม่อาจตอบโจทย์ด้านการรักษาความมั่นคงได้อีกต่อไป
นอกเหนือไปจากแง่มุมด้าน Security แล้ว การมาของ IoT ที่มีอุปกรณ์จำนวนมหาศาลภายในองค์กรนั้น ก็จะทำให้ทั้งจำนวนอุปกรณ์, ความหลากหลายของอุปกรณ์, IP Address และปริมาณ Traffic รวมถึง Application ที่ใช้งานเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก การดูแลรักษาและแก้ไขปัญหาด้านระบบเครือข่ายในอนาคตนั้นจะไม่เป็นเรื่องง่ายอีกต่อไป ลองจินตนาการถึงการที่ต้องตรวจสอบปัญหากรณีผู้ใช้งานพบว่าระบบ Application ที่ตนเองใช้งานนั้นช้า ท่ามกลางเครือข่ายที่ซับซ้อนเหล่านี้ดูได้
ด้วยเหตุนี้ สิ่งที่เราจะเห็นได้ในทิศทางของ HPE Aruba ที่ถึงแม้จะไม่มี Firewall Appliance แยกออกไปเป็นระบบต่างหาก แต่ทาง HPE Aruba ก็ได้นำเทคโนโลยีรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่มีในระบบ WLAN ของตนมาเสริมใน LAN ด้วย แล้วจึงมี Security Analytics มาคอยรับข้อมูลจากอุปกรณ์เครือข่ายเหล่านี้ไปทำการวิเคราะห์ด้วย Machine Learning อย่าง Aruba IntroSpect อีกที ในขณะที่ Network Analytics ด้วย Machine Learning อย่าง Aruba NetInsight ก็จะมาช่วยตอบปัญหาเรื่องความช้าของเครือข่ายนี้ให้
Aruba 360 Secure Fabric ไม่ต้องการแข่งขันกับใคร แต่ต้องการเป็นอีกหนึ่งช่องทางเติมเต็มด้าน Security ให้กับองค์กร
หากดูเผินๆ การเปิดตัว Aruba 360 Secure Fabric นี้อาจทำให้ HPE Aruba นั้นต้องการจะแย่งส่วนแบ่งตลาดของผู้พัฒนาระบบ Security รายอื่นๆ แต่ HPE Aruba กลับมองว่าตนเองเพียงต้องการจะเติมเต็มความต้องการที่มีอยู่ในตลาด ด้วยการทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการผสานข้อมูลระหว่างระบบ Network และ Security ด้วยการนำข้อมูลจากอุปกรณ์ที่มีอยู่ในระบบเครือข่ายทั้งหมดมาใช้วิเคราะห์ แล้วให้ Aruba ClearPass ช่วยควบคุมให้อุปกรณ์เครือข่ายทำการตอบสนองต่อภัยคุกคามต่างๆ โดยอัตโนมัติเท่านั้น ดังนั้นด้วยบริบทนี้ HPE Aruba เองนั้นต้องการกลายเป็นส่วนหนึ่งของ Ecosystem มากกว่า เพราะยิ่งมีอุปกรณ์จากผู้ผลิตอยู่ในเครือข่ายหลากหลาย ก็จะยิ่งหมายความว่า Aruba 360 Secure Fabric จะยิ่งมีข้อมูลสำหรับวิเคราะห์ภัยคุกคามมากขึ้นนั่นเอง