คุยกับหัวหน้าทีม Engineer และผู้อำนวยการหน่วย Incident Respond ของ Cisco ในงาน Cisco Live 2018

ทีมงาน TechTalkThai ได้รับเกียรติในการเข้าสัมภาษณ์บุคคลหลายท่านในการร่วมงานครั้งนี้ซึ่ง 2 ท่านคือ คุณ Michael Koons หัวหน้าทีมวิศวกรและ คุณ Sean Mason ผุู้อำนวยการธุรกิจฝั่ง Incident Respond ที่เป็นหัวข้อนี้มีลักษณะเป็นเชิงเทคนิคสาย Engineer จึงได้เลือกเข้ามาให้อ่านกัน

Michael Koons, SVP Engineer

คุณ Michel Koons ผู้อยู่หลังทีมวิศวกรของ Engineer หรือ SVP ในฝั่ง System Engineer เราได้เปิดคำถามมาในเรื่องของจุดยืนในผลิตภัณฑ์ Meraki ที่มีความซ้ำซ้อนกับผลิตภัณฑ์ Cisco โดยคุณ Koons เล่าว่า “Meraki เองดูแลในฝั่งลูกค้าระดับเล็กๆ จุดขายคือความง่ายในการติดตั้งและมีทางเลือกในการบริหารจัดการผ่าน Cloud ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามไม่ว่าลูกค้าจะมีการใช้งานทั้ง Cisco ปกติหรือ Meraki ก็สามารถบริการจัดการผ่าน DNA Center ได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตามสิ่งที่ Cisco พยายามลดความสับสนเมื่อเจอกับลูกค้าจะพิจารณาจากหลายอย่างโดยยึดที่ลูกค้าเป็นหลัก เช่น ทักษะของลูกค้า โครงสร้างพื้นฐานที่ลูกค้ามี หรือโมเดลวิธีการปฏิบัติงานที่ลูกค้าเป็น เพื่อความเหมาะสมในการเลือกโซลูชัน

อีกคำถามหนึ่งที่ Engineer หลายคนเจอแน่ๆ คือ เราได้ตั้งคำถามว่า บทบาทของ DevNet ที่จะเข้ามาส่งผลกระทบกับโปรแกรม Certification แค่ไหนเพราะการสอบแบบเดิมๆ ไม่ได้ว่าถึงเรื่องของการ Programming ที่ Cisco กำลังตื่นตัวอย่างมากตอนนี้ เขากล่าวว่า ” การสอบแบบเดิมนั้นเพื่อวัดความรู้พื้นฐานที่คนในสายไอทีสมควรจะมีนั่นก็ยังจำเป็น หากแต่ก็เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเขียนโปรแกรมดังนั้น Cisco ก็ได้เพิ่มในส่วนของการ Program เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของบทเรียนมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว” พร้อมกับยังได้ย้ำถึงอายุของใบ Certification ที่มีระยะเวลาน้อยแค่ 2 ปีเพราะอยากให้วิศวกรทุกคนต้องมีความรู้ที่ทันสมัยทันโลกปัจจุบัน

ประเด็นต่อมาเราได้ถามว่าจะเป็นไปได้ไหมที่เมื่อผ่านไปสักพักการเพิ่มขึ้นของ Api จะมีปัญหาความยุ่งยากแทนเหมือนกับปัญหาของผู้ให้บริการ Cloud แต่ละเจ้าที่ขยันออกฟีเจอร์ใหม่ๆ ทุกวัน เขาเล่าว่า “แน่นอนครับเรื่องนี้ก็สำคัญ นั่นคือที่มาของ DevNet ที่จะเข้ามาช่วยกำหนดกรอบของ Api และ บริหารจัดการด้วยผู้เชี่ยวชาญและนักพัฒนาเพื่อให้ตรงใจกับลูกค้า อีกทั้งจำกัดความซ้ำซ้อนของ Api ที่จะเกิดขึ้นใหม่ด้วย

สุดท้าย คุณ Koons ได้เล่าถึงสถานะในเรื่องของ IoT ให้ฟังว่า “ผมเองมีประสบการณ์กับ IoT มาหลายปีเช่นกันและอันดับหนึ่งคงหนีไม่พ้นในเรื่อง Security เพราะเป็นการเพิ่มเลเยอร์การใช้งานอีกชั้นหนึ่งเข้ามาผมจึงมีทีมงานที่คอยดูเรื่องนี้โดยเฉพาะเลย อีกเรื่องคือเรื่องของคุณภาพที่ต้องมีการเชื่อมต่อของสัญญานที่ดี และท้ายสุดคือการบริหารจัดหารซึ่ง Cisco ก็มีผลิตภัณฑ์ที่สามารถจัดการอุปกรณ์ IoT ทั้งแบบมีสายหรือไร้สาย พร้อมกันนี้ยังมีความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์สร้างแอปพลิชันเพื่อบริหารจัดการอุปกรณ์ต่างๆได้ง่ายขึ้น

คุณ Sean Mason ผุู้อำนวยการธุรกิจฝั่ง Incident Respond

คุณ Sean Mason ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางด้าน Theat Management และ Incident Respond ให้กับลูกค้าต่างๆ โดยเขาเล่าให้ฟังว่าตนเองนั้นมีประสบการณ์ที่เกี่ยวผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Cisco Umbrella หรือ ในส่วนของ Talos เอง

ในส่วนของคำถามนั้นเราได้ถามว่า Threat ไหนที่ทาง Cisco คิดว่าส่งผลกระทบกับภาพรวมในระดับสากลในปัจจุบัน คำตอบที่ได้รับกลับมาคือ ” ถ้าพูดถึงในช่วงปีหลังๆ โลกพบกับ Ransomware จำนวนมากและ Cisco ได้เข้าไปแก้ปัญหาให้กับลูกค้ามามากมาย ผมไม่คิดว่า Ransomware จะหายไปทันทีหรอกนะ แต่ก็ต้องมาดูกันว่าภัยนี้จะอยู่ไปนานแค่ไหน ยังไงก็ตามผมก็เห็นความเปลี่ยนแปลงจาก Ransomware ไปยัง Cryptojacking หรือ Cryptomining แทนเนื่องจากความคุ้มทุนในการโจมตีด้วย Ransomware เหยื่อยังได้เลือกว่าจะจ่ายหรือไม่ ถ้าไม่จ่ายคนร้ายก็ไม่ได้อะไรเลย เทียบกับ Cryptomining ที่ยังไงก็ได้แน่ๆ แต่ก็ต้องเพิ่มจำนวนเหยืื่อเพื่อทรัพยากรจำนวนมากจนกระทั่งสร้างรายได้ที่คุ้มค่ามากพอ อย่างไรก็ตามแฮ็กเกอร์ข้ามชาติก็เป็นภัยไม่น้อยเหมือนกัน Cisco ก็เข้าไปช่วยลูกค้าในส่วนนั้นด้วยทีมงานและผลิตภัณฑ์ที่มี

สุดท้ายเราถามว่า Cisco เองช่วยลูกค้าดูแลเรืื่องความมั่นคงปลอดภัยอย่างไรในยุคที่มีเทคโนโลยีจำนวนมากอย่าง Cloud หรือ แม้แต่ Api ของ Cisco เองที่เพิ่มเลเยอร์การทำงานให้องค์กรต่างๆ คำตอบคือ ” จากประสบการณ์ 11 ปีของผมในด้านความมั่งคงปลอดภัยนะ ผมเห็นลูกค้าหลายคนอยากได้หลายอย่างที่ไม่จำเป็นเพราะพวกเขาไม่ได้คุยกันและมันไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ แม้ว่าแต่ละอุปกรณ์จะทำงานได้ดีก็ตามเมื่อแยกกัน เราเองจึงเข้าไปพูดคุยกับลูกค้าถึงปัญหาตรงนั้น แต่เราก็ไม่ได้ไปโทษ Vendor เจ้าอื่นนะ สุดท้ายแล้วเราก็พยายามที่จะเปิดให้เครื่องมือของเราสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์จากเจ้าอื่นได้ นอกจากนี้เรายังใช้ทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์และสามารถบอกกับลูกค้าได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ควรปฏิบัติอย่างไรด้วยทีม Incident Responds จาก Talos

About nattakon

จบการศึกษา ปริญญาตรีและโท สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ KMITL เคยทำงานด้าน Engineer/Presale ดูแลผลิตภัณฑ์ด้าน Network Security และ Public Cloud ในประเทศ ปัจจุบันเป็นนักเขียน Full-time ที่ TechTalkThai

Check Also

Meta เผยแผนเล็งใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพสำหรับดาต้าเซนเตอร์

เป็นที่รู้กันว่าการประมวลผลด้าน AI ต้องการพลังงานสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์อย่างมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่ง Meta เองเป็นหนึ่งในผู้เล่นด้าน AI ยักษ์ใหญ่ที่ประสบปัญหาเหล่านี้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้จึงต้องมองหาพลังงานทางเลือกที่ยังต้องสอดคล้องต่อเรื่องอัตราการปลดปล่อยคาร์บอน โดยล่าสุดแนวทางการใช้ความร้อนใต้พิภพเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจและใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้ว

เริ่มนับถอยหลัง เตรียมพบกับ SISTAM 2024 งานประชุมและงานแสดงเทคโนโลยีเพื่อภาคธุรกิจชั้นนำ ที่จะช่วยกำหนดทิศทางอนาคตด้านความปลอดภัยและเทคโนโลยีในภาคอุตสาหกรรม

SISTAM 2024 งานประชุมและงานแสดงเทคโนโลยีเพื่อภาคธุรกิจชั้นนำที่ภาคอุตสาหกรรมให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 26 และ 27 กันยายน 2567 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค งาน SISTAM (Smart Industrial …