เมื่อ Hybrid Cloud กำลังจะกลายเป็นสถาปัตยกรรมหลักของระบบไอทีในเกือบทุกองค์กรทั่วโลก ระบบไอทีหลักหรือระบบฐานข้อมูลที่เป็นหัวใจของธุรกิจอย่าง SAP HANA เองนั้นก็ย่อมต้องถูกปรับให้รองรับการทำงานในสภาพแวดล้อมแบบ Hybrid Cloud ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้เพื่อให้ระบบ ERP หลักขององค์กรมีความสามารถในการให้บริการที่สูงขึ้น มีความคล่องตัวมากขึ้น พร้อมทั้งยังปรับเปลี่ยนประสิทธิภาพการทำงานให้สอดคล้องกับความต้องการของธุรกิจในแต่ละช่วงได้อย่างทันท่วงที และเปิดโอกาสให้ธุรกิจสามารถนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาเชื่อมต่อกับระบบ SAP ได้สะดวกง่ายดายยิ่งขึ้นนั่นเอง
IBM POWER9 Server และ IBM FlashSystem Storage หรือเรียกรวมๆ ว่า IBM Systems Solutions for SAP HANA คือโซลูชันองค์รวมในรูปแบบ Tailored Datacenter Integration หรือ TDI ที่ทาง SAP ให้การรับรองว่าเป็น Platform อันดับหนึ่งที่ถูกออกแบบมาให้มีเสถียรภาพสูงที่สุดสำหรับการรันระบบ SAP HANA หรือ S/4 HANA ในปัจจุบัน เพื่อให้ธุรกิจองค์กรสามารถใช้งานระบบ SAP HANA ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว มีเสถียรภาพ และคุ้มค่าในระยะยาว ด้วยเทคโนโลยีเบื้องหลังที่ผสานการทำงานร่วมกันทั้งในระดับของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่จำเป็นสำหรับ SAP HANA ได้อย่างลงตัว ช่วยทำให้ระบบโดยรวมมีความทนทานจนเป็นที่ไว้วางใจของลูกค้าต่างๆ ทั่วโลก ช่วยให้ลูกค้าสามารถเพิ่มขยายโครงสร้างพื้นฐานของระบบได้ง่ายรองรับการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างมั่นใจทั้งแบบที่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้และไม่ได้ และสามารถบริหารจัดการระบบให้ทำงานต่อเนื่องได้อย่างยาวนาน จนได้รับการยอมรับว่าเป็นแพลตฟอร์มที่เสถียรที่สุดสำหรับ SAP HANA นอกจากนี้แพลตฟอร์มของไอบีเอ็มทั้ง POWER9 Server และ FlashSystem Storage ยังอัดแน่นไปด้วยความสามาถอันชาญฉลาดในการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และปรับเปลี่ยนการใช้งานทรัพยากรของระบบเพียงพริบตาเพื่อให้ยังคงรองรับประสิทธิภาพการทำงานให้เป็นไปได้อย่างสูงสุด
วันนี้ทางบริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด และบริษัท เมโทร คอนเนค จำกัด ยังมาพร้อมกับทางเลือกในการลงทุนทางด้านโครงสร้างพื้นฐานทั้งในส่วนของ IBM Systems Solutions for SAP HANA ที่ยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับความต้องการที่แตกต่างกันของแต่ละธุรกิจได้เป็นอย่างดี ช่วยให้คุณสามารถเลือกแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับระบบ SAP HANA แบบที่ ‘ได้ครบจบในที่เดียว’ จากไอบีเอ็มเท่านั้น

เพื่อให้ทุกท่านเห็นภาพมากขึ้น เราจะขอสรุป 5 เหตุผลที่ทำให้การใช้งาน SAP HANA และ S/4 HANA บน IBM Systems Solutions for SAP HANA นี้มีความคุ้มค่าเหนือกว่าการลงทุนแพลตฟอร์มอื่น ๆ อย่างไรบ้าง
1. New Cloud Capabilities on Power Systems and Utilty Model on FlashSystem
สำหรับระบบที่มีขนาดใหญ่อย่าง SAP HANA นั้นก็อาจต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายในการลงทุนจัดซื้อ Hardware ที่มีราคาค่อนข้างสูง ถึงแม้จะแลกมาด้วยเสถียรภาพของระบบ ลดโอกาสในการเกิด Downtime ให้น้อยลง รวมไปถึงความยืดหยุ่นในการเพิ่มขยายโดยไม่ต้องปิดระบบบ่อยๆ แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยตัวเลขการลงทุนแรกเริ่มที่สูงในสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวเช่นนี้ ก็ทำให้หลายธุรกิจไม่สามารถเลือกลงทุนในรูปแบบนี้ได้ ทางไอบีเอ็มตระหนักและเข้าใจถึงปัญหานี้เป็นอย่างดี จึงได้เปิดทางเลือกใหม่ของลูกค้าองค์กรเช่นคุณ โดยทั้ง IBM POWER9 Server และ IBM FlashSystem Storage ต่างก็มีการนำเสนอทางเลือกในการบริหารจัดการ Cash Flow ในลักษณะของ Cloud-like Comsuption Pricing หรือ Utlity Model Pricing มาให้กับลูกค้าของไอบีเอ็มโดยเฉพาะ โดยลูกค้ายังสามารถบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานทางด้านไอทีทั้งเซิร์ฟเวอร์และสตอเรจในดาต้าเซ็นเตอร์แบบ On-premise หรือ Private Cloud ได้เช่นเดิม โดยไม่จำเป็นต้องย้ายระบบ SAP HANA ไปอยู่บน Public Cloud ที่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนของลิงก์เชื่อมต่อหรือการ Upload/Download รวมไปถึงค่าความหน่วงเวลาหรือ Latency ของระบบ ERP อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ด้วย IBM Power Systems Private Cloud with Dynamic Capacity ที่ธุรกิจองค์กรสามารถเลือกซื้อแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์บนสถาปัตยกรรม POWER9 รุ่นใหม่ล่าสุดยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยการลงทุนครั้งแรกลูกค้าสามารถกำหนดทรัพยากรขั้นต่ำที่จะใช้งานได้ พร้อมๆ กับการเลือกกำหนดจ่ายค่าใช้จ่ายรายเดือนล่วงหน้าตามทรัพยากรที่มีการคาดการณ์เอาไว้แล้ว หลังจากนั้น เมื่อถึงเวลาส่งมอบและติดตั้งเครื่องเซิร์ฟเวอร์ในดาต้าเซ็นเตอร์ ลูกต้าจะได้เครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่มีทรัพยากรของระบบทั้งหมดมากกว่าทรัพยากรขั้นต่ำและทรัพยากรที่มีการคาดการณ์เอาไว้แล้วล่วงหน้า นั่นหมายความว่า จริงๆ แล้วลูกค้าได้เครื่องที่มีทรัพยากรฮาร์ดแวร์ที่พร้อมใช้งานอยู่กับตัวแล้ว เพียงแค่ยังไม่ได้เปิดใช้งานเนื่องจากยังไม่ถึงเวลาที่ต้องการใช้ เมื่อเปิดระบบลูกค้าสามารถเริ่มต้นใช้งานตามทรัพยากรขั้นต่ำที่ได้กำหนดไว้ได้ทันที แต่เมื่อใดก็ตามถ้าหากถึงเวลาที่คุณต้องการใช้ทรัพยากรที่เกินกว่าขั้นต่ำเนื่องจากการเติบโดของธุรกิจ หรือมีการเพิ่มขยายความสามารถของระบบ ลูกค้าก็สามารถเปิดใช้งานทรัพยากรส่วนเพิ่มจากทรัพยากรที่มีการคาดการณ์เอาไว้ได้ทันทีเช่นกัน
โดยไอบีเอ็มจะมีระบบ Monitoring ผ่านคลาวด์ที่เรียกว่า Cloud Management Console (CMC) เพื่อดู Utilization การใช้งานของ CPU, Memory และ OS ว่ามีการเปิดใช้งานส่วนเพิ่มไปแล้วกี่นาที ระบบก็จะตัดเครดิตเงินที่ลูกค้าได้จ่ายไว้ล่วงหน้าแล้วเป็นรายเดือน โดยตัดเครดิตเงินตามการใช้งานจริงเป็นรายนาที และที่สำคัญเครดิตเงินดังกล่าวเป็นในรูปแบบ ‘Resource Pool Sharing’ นั่นคือ ค่าใช้จ่ายรายเดือนล่วงหน้าที่คุณได้ซื้อไว้แล้วนั้น สามารถใช้งานได้กับทุกเครื่องเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดในดาต้าเซ็นเตอร์ขององค์กรที่เข้าเงื่อนไข เช่น หากมีเครื่องเซิร์ฟเวอร์รุ่น S924 จำนวน 2 เครื่อง ที่ DC และมีเครื่องเซิร์ฟเวอร์รุ่น S922 อีก 1 เครื่อง ที่ DR หากมีการใช้งานทรัพยากรของเครื่องใดเครื่องหนึ่งที่เกินกว่าขั้นต่ำ ก็สามารถตัดเครดิตเงินที่ซื้อไว้ได้ทันที ดังนั้นธุรกิจที่มีการแข่งขันกันอยู่ทุกนาทีก็สามารถมั่นใจได้ว่าค่าใช้จ่ายทุกบาททุกสตางค์ที่ลงทุนกับ IBM Power Systems ไม่ได้สูญหายหรือถูกใช้ไปโดยเปล่าประโยชน์อีกต่อไป

ในขณะที่ IBM Storage Utility ก็เป็นโซลูชันที่ออกแบบมาสำหรับลูกค้าองค์กรให้บรรลุเป้าหมายในการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในรูปแบบที่สามารถคาดการณ์ปริมาณข้อมูลล่วงหน้า และเช่นเดียวกัน เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงเนื้อที่ทั้งหมดที่ต้องใช้งานจริงๆ ตลอดเวลาระยะขั้นต่ำ 1 ปีหรือ 12 เดือน ทางไอบีเอ็มก็จะส่งมอบและติดตั้งสตอเรจที่ความจุสูงสุดที่ลูกค้าต้องการใช้งานจริงตามช่วงเวลาทั้งหมดที่กำหนดหรือคาดการณ์ไว้นั่นเอง แต่จะยืดหยุ่นให้ลูกค้าสามารถทยอยจ่ายค่าใช้จ่ายส่วนต่างเป็นรายไตรมาส ตามการใช้เนื้อที่ในสตอเรจส่วนที่เกินกว่าทรัพยากรขั้นต่ำที่มีการกำหนดไว้ก่อนหน้า แต่ถ้าไม่ได้ใช้งานเกินกว่าทรัพยากรขั้นต่ำลูกค้าก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเพิ่มแต่อย่างใด การที่ทางไอบีเอ็มส่งมอบสตอเรจที่ความจุสูงสุดตั้งแต่วันแรกที่ติดตั้ง ก็เพื่อการเพิ่มขยายเนื้อที่ของสตอเรจที่อยู่ในดาต้าเซ็นเตอร์ของลูกค้าสามารถคิดค่าใช้จ่ายในลักษณะ Cloud Utility หรือ Pay-as-you-grow ได้เพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจที่มีการปรับตัวให้ทันกับคู่แข่งอยู่ตลอดเวลาได้อย่างทันท่วงทีที่ต้องการ และไม่มี Downtime เกิดขึ้นในการเพิ่มเนื้อที่ใช้งานแต่อย่างใด นอกจากนี้ IBM FlashSystem ยังมีฟีเจอร์ Data Reduction Pools (DRP) ที่ช่วยลูกค้าลดเนื้อที่จริงในระดับกายภาพเพื่อจัดเก็บข้อมูลที่มีการบีบอัดหรือลดความซ้ำซ้อนแล้วได้มากถึง 5 เท่า โดยที่ทางไอบีเอ็มไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายตรงนี้ ทำให้ลูกค้าได้ประโยชน์จากการใช้งานในรูปแบบ Storage Utility Offering และ DRP ไปเต็มๆ และแน่นอนเพื่อคาดการณ์และควบคุมความต้องการในอนาคตของคุณอย่างแม่นยำ โปรแกรม IBM Storage Insights ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ฟรีบน IBM Cloud ที่หลายลูกค้าหลายรายมีประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานโปรแกรม Storage Insights เพื่อช่วยให้คุณสามารถมองเห็นถึงเนื้อที่ในสตอเรจที่ถูกใช้งานไปในแต่ละวันได้แบบเรียลไทม์

2. Rapid adaptability with built-in virtualization
ง่ายเพียงแค่กดปุ่ม คุณก็สามารถเปลี่ยนเป็นการจัดสรรทรัพยากรฮาร์ดแวร์หรือโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อการจัดเตรียม SAP HANA Instance ใหม่อย่างรวดเร็ว ด้วย IBM Power Systems และ PowerVM virtualization เราสามารถจัดเตรียมทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้กระบวนการจัดเตรียมหรือ Deploy ระบบ SAP HANA ใหม่เร็วขึ้นถึง 20 เท่า ธุรกิจองค์กรก็สามารถสร้างหรือ Deploy โมดูลต่างๆ ของ SAP HANA เพื่อใช้งานเป็นระบบ Production ได้มากถึง 16 Instances ภายในเครื่องแม่ข่ายเพียงระบบเดียว และยังสามารถทำงานไปพร้อมๆ กันโดยไม่ก่อกวนหรือฉุดดึงประสิทธิภาพการทำงานของแต่ละโมดูลลงแต่อย่างใด ซึ่งทาง SAP เองก็ได้ให้การรับรองว่า IBM เป็นแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์เพียงรายเดียวที่มีความสามารถนี้ จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจองค์กรที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีการขยายระบบ ERP ในระยะยาวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ทรัพยากรทางด้านฮาร์ดแวร์ที่เหลือก็ยังสามารถถูกนำไปใช้เพื่อรองรับระบบ Non-prodcution หรือระบบงานอื่นๆ ทั้งที่เกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวกับระบบ SAP ก็ยังได้ ทำให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุนเป็นอย่างมากช่วยป้องกันค่าใช้จ่ายในลักษณะเบี้ยหัวแตก

3. Scale on-demand
ในสถานการณ์และวิกฤตที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน การปรับเปลี่ยนดาต้าเซ็นเตอร์จากสภาพแวดล้อมแบบ On-premise ให้เป็นสภาพแวดล้อมแบบคลาวด์ทั้งในลักษณะ Private และ Public หรือแม้แต่ Hybrid ก็สามารถทำให้ธุรกิจองค์กรมีความคล่องตัวในการบริหารค่าใช้จ่ายเพื่อระบบไอทีและ SAP อย่างถูกต้องเหมาะสม แต่ทั้งนี้แพลตฟอร์มที่เลือกใช้ต้องสามารถตอบสนองคุณลักษณะของคลาวด์ที่มีความยืดหยุ่นแบบนี้ได้ ซึ่ง IBM POWER9 Server เป็นแพลตฟอร์มเดียวที่ช่วยให้คุณจัดสรรทรัพยากรของเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างแม่นยำตามที่คุณต้องการด้วยการจัดสรรแบบละเอียดได้ถึงระดับ 0.01 คอร์ ของหน่วยประมวลผลกลาง และหน่วยความจำหลักขั้นต่ำที่ 1 กิกะไบต์ ทั้งยังปรับใช้ในสภาพแวดล้อมคลาวด์แบบ Hybrid เพื่อใช้งานระบบ SAP HANA บน IBM Cloud หรือ SAP HEC รวมไปถึงผู้ให้บริการ Public Cloud ที่เป็นคู่ค้าของ IBM ทั้งในและนอกประเทศ ควบคู่กับระบบ SAP HANA ในดาต้าเซ็นเตอร์ ได้อีกด้วย

ในส่วนของการติดตั้งระบบ SAP HANA แบบ Hybrid Cloud นั้น ลูกค้ายังสามารถเลือกติดตั้งและใช้งานระบบ SAP HANA แบบ Off-premise ให้มีสิทธิภาพสูงสุดที่รับรอง (Certified) โดย SAP เอง ลูกค้าสามารถเลือกเช่าใช้แคตตาล็อกบน IBM Cloud ที่มีชื่อว่า IBM Power Systems Virtual Server หรือ PowerVS และเลือกแพ็กเกจของ SAP HANA on Power ตามทรัพยากรที่ต้องการของระบบ โดยลูกค้าสามารถสัมผัสกับประสบการณ์ความเร็วในการทำงานและความปลอดภัยของระบบ SAP HANA ในระดับไฮเอ็นด์ ในขณะที่จ่ายค่าเช่าใช้งานเป็นรายเดือนตามการใช้งานจริง
4. Shared Processor Pools and Data Reduction Pools minimize physical resources for SAP HANA
เมื่อลูกค้าปรับใช้ระบบ SAP HANA บน IBM POWER9 Server และ IBM FlashSystem Storage พวกเขาสามารถแชร์ทรัพยากรฮาร์ดแวร์ของระบบ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยประมวลผลกลางระหว่าง HANA VM ในเซิร์ฟเวอร์ที่มีคุณสมบัติ “Shared Processor Pools” รวมไปถึงการจัดสรรพื้นที่สตอเรจได้อย่างเหมาะสมและยืดหยุ่นด้วยคุณสมบัติ Data Reduction Pools ด้วยความสามารถนี้ทำให้ลูกค้าสามารถลดจำนวนคอร์และจำนวนดิสก์สตอเรจทั้งหมดที่ต้องการสำหรับระบบ SAP HANA ได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้ TCO หรือค่าใช้จ่ายโดยรวมและค่าใช้จ่ายในระยะยาวลดลงอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ปีแรกๆ ที่เริ่มต้นใช้งาน เนื่องจากคุณสมบัติดังที่กล่าวมาเป็นไปโดยอัตโนมัติตามความต้องการในแต่ละ Instance จึงช่วยลดความพยายามในการจัดการและลดความยุ่งยากในการปรับใช้งาน

5. Maximum SAP HANA uptime with high resilience
การดูแลรักษาระบบ SAP HANA และระบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องให้ทำงานได้ต่อเนื่องมากที่สุด หรืออีกทางหนึ่งก็คือเกิด Downtime น้อยที่สุด ถือเป็นโจทย์ที่ท้าทายสำหรับโครงสร้างพื้นฐานของระบบ SAPHANA ที่ทุกธุรกิจองค์กรกำลังมองหา ซึ่งคุณสามารถพบได้จาก IBM Systems Solutions for SAP HANA เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็น ‘อันดับที่หนึ่ง’ จาก ITIC ว่าเป็นเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่มีความมั่นคงทนทานที่สุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว ทั้งยังสามารถรองรับ SLA ได้สูงถึงระดับ 99.999% ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานของแพลตฟอร์มอื่นในตลาด
นอกจากนี้ IBM Systems Solutions for SAP HANA ยังสามารถช่วยลูกค้าลดเวลาการบำรุงรักษาระบบตามที่ได้วางแผนล่วงหน้า เช่น ลดเวลาปิดระบบได้ 30 เปอร์เซ็นต์ และช่วยให้เริ่มต้นใช้งาน SAP HANA ได้เร็วขึ้นถึง 17 เท่า หลังเปิดระบบแล้ว ทั้งนี้ก็เพราะคุณสมบัติ Virtual Persistent Memory ของ IBM POWER9 Server และการใช้ All Flash Drives ของ IBM FlashSystem Storage ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานระบบ SAP HANA หรือ S/4 HANA โดยเฉพาะ

ผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ IBM POWER9 Server และ IBM FlashSystem Storage หรือเรียกรวมๆ ว่า IBM Systems Solutions for SAP HANA สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ibm.com/it-infrastructure/power/sap-hana
สนใจโซลูชันของ IBM ติดต่อทีมงาน Metro Connect ได้ทันที

สำหรับผู้ที่สนใจโซลูชันของ IBM สามารถติดต่อทีมงาน Metro Connect ได้ทันทีโดยสามารถขอใบเสนอราคาได้ทันทีที่แผนกการตลาด อีเมล์ anutrwan@metroconnect.co.th หรือโทร 02-089-4508