หลังจากที่ IBM Domino และ Notes ได้เป็นผลิตภัณฑ์ชูโรงทางด้าน Enterprise Communication มาเป็นระยะเวลานาน ในตอนนี้ IBM ก็พร้อมที่จะก้าวสู่ขั้นใหม่ของการติดต่อสื่อสารระดับองค์กร โดยปรับรูปแบบการติดต่อสื่อสารให้เข้ากับเทคโนโลยีในยุคปัจจุบันที่มีทั้งการมาของ Social Network, Mobile Device และ Cloud ซึ่งทางทีมงาน TechTalkThai ก็มีโอกาสได้รับเชิญให้ไปชมการ Demo ของทาง IBM มา จึงขอมาสรุปเรียบเรียงให้ได้อ่านกันครับ แต่ต้องขอแจ้งก่อนเลยว่า Product ชุดนี้มันใหญ่มาก และ Feature ก็เยอะมากเช่นกัน จึงไม่สามารถเขียนให้ครบได้ในบทความเดียว ก็จะขอเขียนสรุปเฉพาะอะไรที่โดดเด่นนะครับ
IBM Connections Cloud รวมทุกเทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารระดับองค์กร ตอบโจทย์ที่เปลี่ยนไป
นับตั้งแต่วันที่โลกเราเริ่มสื่อสารกันด้วย Email มานั้น การสื่อสารในระดับธุรกิจก็ค่อยๆ มีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ จนถึงในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ ที่การมาของ Social Network และ Mobile Device ได้เข้ามาทำให้พฤติกรรมในการสื่อสารระดับองค์กรเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง โดย Social Network ได้เข้ามาเป็นหัวใจหลักอันหนึ่งในการสื่อสารระหว่างลูกค้ากับองค์กร และการสื่อสารก็เกิดขึ้นทุกที่ทุกเวลาผ่านระบบเครือข่ายที่เชื่อมต่อกับ Mobile Device อย่างรวดเร็ว
สิ่งที่ IBM ทำเพื่อตอบรับการมาของการสื่อสารรูปแบบใหม่ๆ นี้ ก็ไม่ได้เป็นการหักดิบโดยเลิกใช้งานเทคโนโลยีเก่าๆ อย่าง Email หรือ Calendar ทิ้งไป แต่มุ่งเน้นการ Integrate การสื่อสารในทุกรูปแบบให้สามารถทำงานร่วมกันได้ และใช้งานได้ดีจริงๆ เป็นหลักมากกว่า โดยนอกจาก IBM จะปรับปรุง Software เดิมๆ ที่มีอยู่อย่าง IBM Domino, IBM Notes, IBM Sametime หรืออื่นๆ ให้สามารถทำงานร่วมกันได้แล้ว IBM เองก็ยังได้มองรูปแบบการสื่อสารใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง Social Network สำหรับการสื่อสารในวงเล็กๆ หรือวงใหญ่ๆ, การปรับแต่งแก้ไขเอกสารร่วมกัน, รูปแบบใหม่ๆ ในการ Share File และอื่นๆ อีกมากมายเข้ามาไว้เป็นระบบเดียวกัน ให้ตอบได้ทุกโจทย์ความต้องการที่แต่ละองค์กรต้องการใช้ในการสื่อสาร
ในขณะเดียวกัน ในมุมของ IT Infrastructure สำหรับระบบ Collaboration นี้ IBM เองก็ได้ออกแบบให้มีความเป็น Enterprise Cloud ตั้งแต่แรก ด้วยการรองรับการสร้าง Cloud ทั้งในแบบ On-premises, Public และ Hybrid เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในมุมที่แตกต่างกันของแต่ละองค์กร อีกทั้งยังได้นำแนวคิดของ Big Data Analytics เข้ามาช่วยในการสรุปข้อมูลการติดต่อสื่อสารและการทำงาน รวมถึงการแนะนำงานที่พนักงานแต่ละคนควรจะทำ หรือพนักงานคนอื่นในองค์กรที่ควรจะทำความรู้จักกันไว้ด้วย IBM Watson อีกด้วย
และระบบนี้ก็ไม่ได้ถูกวางมาให้ทดแทนการสื่อสารด้วย Email แต่อย่างใด แต่ในมุมมองของ IBM มันคือการออกแบบการสื่อสารใหม่ที่ต่อยอดขึ้นมาจาก Email ให้การติดต่อสื่อสารมีประสิทธิภาพดีขึ้น ท่ามกลางโลกที่มีข้อมูลล้นทะลักนั่นเอง IBM Connections Cloud จึงเป็นระบบติดต่อสื่อสารที่ได้รวม Service การติดต่อรูปแบบต่างๆ เอาไว้อย่างครบถ้วน ให้องค์กรเลือกใช้แยกแต่ละบริการ หรือใช้ทุกบริการร่วมกันหมดเลยก็ได้ตามความต้องการ
บริการต่างๆ ภายใน IBM Connections Cloud
1. Mail
เป็นที่รู้จักกันในชื่อของ IBM Verse ซึ่งรวมเอาทั้ง Mail, Calendar และ Contact เอาไว้ด้วยกัน โดยมีความสามารถในการ Follow งานต่างๆ ที่สื่อสารกันผ่านระบบ Email ได้, มีระบบแนะนำ Email ที่ควรเปิดอ่านก่อน และสามารถ Integrate เข้ากับระบบ Files ที่มีการทำ Version Control ได้ ทำให้การส่งเมลล์หากันและอัพเดตไฟล์มีความซับซ้อนน้อยลง รวมถึงยังมีระบบตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างคนที่ส่งเมลล์และได้รับเมลล์ในแต่ละฉบับ ทำให้เข้าใจความสัมพันธ์ของแต่ละคนในการทำงานได้เป็นอย่างดี
พูดง่ายๆ คือมีการเพิ่มความสามารถในการทำ Analytics รูปแบบต่างๆ สำหรับ Email, Calendar และ Contact มาให้ และพร้อมจะ Integrate กับ Service อื่นๆ ใน IBM Connections Cloud ได้ทันทีนันเอง
2. Meetings
ระบบ Online Meeting ที่รองรับทั้ง Video Conference, Voice Conference, Chat, Online Seminar, Polling & Questions, Screen Sharing, Document Sharing และ Meeting Recording ทำให้องค์กรสามารถจัดการประชุมภายใน, ประชุมกับลูกค้าภายนอกองค์กร หรือแม้แต่จัด Online Webinar ได้อย่างครบวงจร รองรับการ Invite ผู้เข้าร่วมประชุมผ่านทาง Email และ Calendar และมี UI ครอบคลุมทั้ง Web และ Mobile Application
3.Chat
ระบบ Instant Messaging และ Presence ที่รองรับทั้ง Video Call และ Voice Call ด้วยในตัว สำหรับการติดต่อสื่อสารแบบ Real-time เป็นหลัก
4. Social
อีกหนึ่งระบบที่โดดเด่นมากๆ ของ IBM Connections Cloud ซึ่งได้รวบรวมการติดต่อสื่อสารหลักๆ อย่าง Social Network, Wikipedia หรือ Community ที่ทำให้องค์กรสามารถสร้าง Community สำหรับแลกเปลี่ยนความรู้และเกิด Engagement ระหว่างองค์กรกับลูกค้าได้อย่างง่ายดาย
5. Files
ระบบจัดเก็บ File สำหรับให้ผู้ใช้งานเรียกใช้ File ต่างๆ ได้จากทั้งบน Desktop และ Mobile ซึ่งผู้ใช้งานสามารถทำการแชร์ไฟล์ให้กับผู้ร่วมงานคนอื่นๆ ตามระดับสิทธิ์ที่กำหนด และอ้างอิง File เหล่านี้ไปใช้งานใน Application อื่นๆ ได้ รวมถึงยังมีระบบ Version Control ให้สามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงของไฟล์ย้อนหลังได้อีกด้วย
6. Docs
ระบบแก้ไขเอกสารแบบ Real-time Online ทำให้ผู้ร่วมงานสามารถแก้ไขเอกสารงานต่างๆ ร่วมกันได้ทันที โดยสามารถเปิดไฟล์เอกสารมาตรฐานได้หลากหลาย ทั้ง Document, Spreadsheet และ Presentation
7. Mobile
ฟีเจอร์ทั้งหมดนี้สามารถเรียกใช้งานได้ผ่าน Mobile ทั้งหมด ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบ Email, Calendar, Contact, Files หรือการจัด Meeting ก็สามารถทำผ่าน Mobile ได้ทันทีอย่างสมบูรณ์
8. Archive
เพื่อตอบรับข้อกฏหมายในการ Archive เอกสาร IBM Connections Cloud จึงมาพร้อมกับความสามารถในการ Archive ให้แต่ละองค์กรเลือกใช้ตามกฎข้อบังคับและการทำ Compliance ต่างๆ ได้ตามต้องการ
9. Customization
เพื่อให้แต่ละองค์กรสามารถปรับแต่ง IBM Connections Cloud ให้ทำงานร่วมกับระบบงานต่างๆ ที่ใช้งานอยู่เดิมได้ ทาง IBM จึงมีโครงการ IBM Connections Developers http://www.ibm.com/cloud-computing/social/us/en/toolkit/ เพื่อให้นักพัฒนาทำการพัฒนา IBM Connections Cloud ต่อยอดขึ้นมาได้อีกระดับ
จุดเด่นที่น่าสนใจของ IBM Connections Cloud
1. การเชื่อมประสานกันระหว่างทุก Collaboration Application อย่างแท้จริง
ด้วยการที่ IBM ออกแบบระบบ Cloud ให้เป็นภาพรวมผืนเดียวกันมาแต่แรกอยู่แล้ว ทำให้แต่ละ Service ภายในระบบ Cloud นั้นทำงานร่วมกันได้หมด และกลายเป็น Social Network สำหรับการทำงานของแต่ละองค์กรที่สามารถทำงานร่วมกับลูกค้าหรือพาร์ทเนอร์ได้อย่างสมบูรณ์ในทุกๆ ความสามารถ ถือเป็นทางเลือกใหม่ในการติดต่อสื่อสารสำหรับการทำงานเลยทีเดียว
2. ไม่จำกัดจำนวนผู้ใช้งานภายนอกองค์กร
จากความเข้าใจในการดำเนินธุรกิจร่วมกับองค์กรชั้นนำทั่วโลกมาหลายปี ทำให้ IBM เลือกที่จะไม่เก็บค่าลิขสิทธิ์สำหรับผู้ใช้งานภายนอกองค์กรที่เข้ามาร่วมใช้งาน IBM Connections Cloud กับแต่ละองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการแชร์ไฟล์หากัน, การจัดการ Project ร่วมกัน หรือการเข้าร่วม Community ภายใน IBM Connections Cloud ทำให้องค์การต่างๆ สามารถสร้าง Community ของลูกค้าเพื่อขยายฐานของธุรกิจได้อย่างไม่จำกัด และไม่ต้องกังวลกับค่าลิขสิทธิ์ที่อาจประมาณการได้ยากอีกต่อไป
3. ระบบ Analytics จาก IBM Watson
ความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลของ IBM Watson นั้นถือว่าก้าวหน้าไปไกลกว่าคู่แข่งอื่นๆ ทั่วโลกเป็นอย่างมาก และการ Integrate ให้ Watson สามารถช่วยวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ในการทำงานได้ ก็จะทำให้ Watson สามารถแนะนำคนที่เราควรรู้จักเพิ่มในองค์กร, แนะนำงานที่ควรจะทำในแต่ละวัน หรือแม้กระทั่งต่อยอดเป็นระบบ Contact Center เพื่อช่วยตอบปัญหาเบื้องต้นต่างๆ ให้กับลูกค้าผ่านหน้าเว็บได้ทันที
4. รองรับ On-premises, Public Cloud และ Hybrid Cloud
เพราะกลุ่มลูกค้าองค์กรของ IBM นั้นมีหลากหลายขนาดและความต้องการ IBM จึงออกแบบ Connections Cloud มาให้ตอบโจทย์ได้สำหรับองค์กรทุกขนาดและทุกสถาปัตยกรรมการติดตั้งที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น On-premise สำหรับองค์กรที่เป็นห่วงทางด้าน Confidentiality ของข้อมูล, Public Cloud สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่มีพนักงานกระจายอยู่ทั่วโลก และ Hybrid Cloud สำหรับองค์กรที่ต้องการความทนทานและความยืดหยุ่นทางด้านการลงทุน
5. Upgrade ขึ้นมาได้จาก IBM Domino + Notes ได้ทันที
สำหรับลูกค้าเก่าของ IBM ที่ใช้งาน Domino และ Notes สามารถทำการอัพเกรดขึ้นมาเป็น IBM Connections Cloud ได้ทันที โดยสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดกับทีมงาน IBM ได้เลย
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อ Partner ของ IBM ทั่วประเทศไทย หรือลงทะเบียนเพื่อทดลองใช้ IBM Conntections Cloud ฟรีๆ ได้ที่ http://www.ibm.com/cloud-computing/social/us/en/startatrial ได้เลยครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม
- IBM Connections Cloud Website http://www.ibm.com/cloud-computing/social/us/en/