มาตรการใหม่ของ Google น่าจะส่งผลกระทบต่อผู้ที่ส่งอีเมลประชาสัมพันธ์ในปริมาณมากตั้งแต่ 5,000 ฉบับต่อวันขึ้นไป โดยจะมีการเพิ่มอัตราการปฏิเสธการส่งอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่เมษายนนี้เป็นต้นไป อีกด้านหนึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อผู้ใช้งาน gmail ที่ไม่ต้องพบกับอีเมลโฆษณามหาศาล รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงจากอีเมลหลอกลวง เพราะผู้ส่งอีเมลที่เกินเกณฑ์ต้องปฏิบัติตามกฏที่ Google เรียกร้องหลายด้าน เช่น การทำ Email Authentication ต่างๆ
การปฏิเสธทราฟฟิคของการส่งอีเมลปริมาณมากหรือที่เรียกว่า Bulk Sender มีเงื่อนไขดังนี้
- มีการส่งอีเมลจำนวน 5,000 ฉบับ หรือใกล้เคียง ภายใน 1 วัน (24 ชั่วโมง)
- ทราฟฟิคออกมาจากโดเมนหลักเดียวกัน โดยไม่สนถึงโดเมนย่อยภายใน
- นับเฉพาะทราฟฟิคที่วิ่งออกไปสู่ปลายทาง Gmail เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับ Google Workspace (@company/business)
- Bulk Sender ต้นทางจาก Google Workspace ถูกนับรวมด้วยเช่นกัน
- Google ไม่ได้ปฏิเสธการส่งทั้งหมด แต่ว่ามีอัตราเงื่อนไขที่จะไม่สำเร็จอยู่ ซึ่งเกณฑ์นั้นไม่เป็นที่แน่ชัด
- การถูกตราหน้าว่าเป็น Bulk Sender เป็นเรื่องที่ติดตัวตลอดไป ไม่มีการปลดออก
นักโฆษณาต้องกังวลแต่เป็นผลดีต่อผู้ใช้ Gmail
เมื่อมีระบบระเบียบออกมาควบคุมฝั่งผู้ส่งอีเมลประชาสัมพันธ์เดิมก็คงต้องคิดหนักหากกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นผู้ใช้ Gmail อย่างไรก็ดีเพียงแค่ต้องปฏิบัติตนให้ได้มาตรการที่ Google ร้องขอเอาไว้เช่นเรื่องการทำ Email Authentication อย่าง SPF, DKIM และ DMARC เป็นต้น หากเป็นตามที่ Google แจ้งไว้ปัจจุบัน(1 ก.พ. เป็นต้นไป) น่าจะมีกลุ่ม Bulk Sender บางส่วนเริ่มเจอกับโค้ดแจ้งผิดพลาดแล้วหากอีเมลของท่านไม่ได้ทำตาม guideline นอกจากนี้ภายใน 1 มิถุนายน Bulk Sender ที่ส่งข้อมูลโฆษณาประชาสัมพันธ์หรือเกี่ยวกับการค้าจะต้องมีปุ่มคลิกเดียวสำหรับยกเลิกรับข้อมูลในเนื้อหาเตรียมไว้ด้วย
กลับกันฝั่งที่ได้ประโยชน์อย่างมากคือผู้ใช้ Gmail ที่จะมีการคัดกรองความน่าเชื่อถือจากผู้ส่งที่ดีขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าคนที่มีเจตนาไม่ดีหรือไม่สามารถปฏิบัติตัวให้น่าเชื่อถือได้ก็อาจจะล้มหายออกไปจากสารระบบบ้าง