Gartner, Inc บริษัทวิจัยและที่ปรึกษาชื่อดังจากสหรัฐฯ ออกคำพยากรณ์แนวโน้มด้านความมั่นคงปลอดภัยในปี 2018 ชี้งบลงทุนอาจเพิ่มสูงขึ้นถึง $96,300 ล้าน (ประมาณ 3 ล้านล้านบาท) มากกว่าปี 2017 ถึง 8% ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากกฎระเบียบที่ออกมาบังคับใช้มากขึ้น การเปลี่ยนแปลงแนวคิดการลงทุน รวมไปถึงความตระหนักด้านภัยคุกคามรูปแบบใหม่ และการเปลี่ยนไปของกลยุทธ์เชิงธุรกิจดิจิทัล
“โดยรวมแล้ว การลงทุนด้านความมั่นคงปลอดภัยส่วนใหญ่จะถูกขับเคลื่อนด้วยปฏิกิริยาตอบรับขององค์กรต่อเหตุการณ์ Security Breach เนื่องจากการโจมตีไซเบอร์และเหตุการณ์ Data Breach ครั้งใหญ่ส่งผลกระทบต่อหลายองค์กรทั่วโลก การโจมตีไซเบอร์ เช่น WannaCry และ NotPetya และเหตุการณ์ Data Breach ของ Equifax มีผลกระทบโดยตรงต่อการลงทุนด้านความมั่นคงปลอดภัย เนื่องจากการโจมตีเหล่านี้จะคงอยู่ต่อไปถึงอีก 3 ปี” — Ruggero Contu ผู้อำนวยการแผนกวิจัยของ Gartner ระบุ
คำกล่าวนี้ถูกพิสูจน์แล้วว่าเป็นจริงจากผลสำรวจพฤติกรรมการลงทุนด้านความมั่นคงปลอดภัยของ Gartner ในปี 2016 โดย 53% ขององค์กรที่สำรวจระบุว่า ความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยเป็นแรงขับเคลื่อนอันดับ 1 สำหรับการลงทุนด้านความมั่นคงปลอดภัยโดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุ Security Breach
ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ การทดสอบด้านความมั่นคงปลอดภัย, IT Outsourcing และ SIEM (Security Incident and Event Management) กลายเป็นองค์ประกอบด้านความมั่นคงปลอดภัยที่มีอัตราการเติบโตรวดเร็วที่สุด ซึ่งผลดันให้มีการลงทุนใน Infrastructure Protection และ Security Services เพิ่มขึ้นตาม ดังแสดงในตารางด้านล่าง
นอกจากนี้ Gartner ยังคาดการณ์ประเด็นอื่นๆ ที่น่าสนใจ ดังนี้
- กฎระเบียบข้อบังคับและความเป็นส่วนบุคคล เช่น HIPAA, NIST, GDPR และกฎหมายความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ในจีน เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การลงทุนด้านความมั่นคงปลอดภัยเพิ่มสูงขึ้นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
- ในปี 2020 องค์กรมากกว่า 60% จะลงทุนด้านเครื่องมือรักษาความมั่นคงปลอดภัย เช่น DLP, Encryption, Data-centric Audit สูงกว่าปัจจุบันถึง 35%
- การขาดแคลนทักษะ ความซับซ้อนเชิงเทคนิค และภัยคุกคามแบบใหม่จะเป็นตัวผลักดันให้เกิดการทำ Automation และ Outsourcing
- ในปี 2019 งบลงทุนสำหรับการ Outsource จะมีมูลค่าสูงถึง 75% ของราคาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์รวมกัน เพิ่มจาก 63% ในปี 2016
- ในอีก 5 ปีข้างหน้านี้งบลงทุนจะเปลี่ยนจากการป้องกัน ไปเป็นการตรวจจับและตอบสนองมากขึ้น
- เทคโนโลยีประเภท Endpoint Detection and Response และ User Entity and Behavior Analytics จะเข้ามาแทนที่เทคโนโลยีเดิมอย่าง Endpoint Protection Platform และ SIEM