ออกอาการระแวงสุดโก่ง ถึงแม้ว่า TikTok แอปวิดีโอแบบสั้น จะประกาศเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงการย้ายข้อมูลผู้ใช้งานในสหรัฐอเมริกาไปยังแพลตฟอร์ม Oracle Could 100% เพื่อสร้างความมั่นใจจากความวิตกกังวลด้านความปลอดภัยจากรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของชาวอเมริกันให้กับรัฐบาลจีน แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้สหรัฐฯ นอนหลับได้อย่างสบายใจ
การเปลี่ยนตำแหน่งการจัดเก็บเริ่มต้นของข้อมูลผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาทั้ง 100% ไปสู่การบริการของ Oracle แต่ก็ยังคงมีการสำรองข้อมูลผู้ใช้ในสหรัฐฯ ของ TikTok ซึ่งถูกเก็บไว้บนเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ TikTok ในเวอร์จิเนียและในสิงคโปร์ แต่อย่างไรก็ตามในที่สุดแล้วข้อมูลเหล่านั้นจะถูกลบโดยเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนไปใช้ Oracle (ORCL)
cnbc.com
Brendan Carr หนึ่งในกรรมาธิการของ FCC ซึ่งเข้ามาจากการเสนอชื่อโดย ทรัมป์ เมื่อปี 2561 ได้ส่งจดหมายลงวันที่ 24 มิถุนายน ถึง Tim Cook CEO ของ Apple และ Sundar Pichai CEO ของ Alphabet ผ่าน Twitter โดยจดหมายระบุถึงรายงานและการพัฒนาอื่นๆ ที่ทำให้ TikTok ไม่ปฏิบัติตามนโยบาย App Store ของทั้งสองบริษัท
cnbc.com
cnbc.com
เนื้อหาการเปรียบเปรยประชดประชันเก่งในจดหมายกล่าวไว้ว่า:
“TikTok ไม่ใช่สิ่งที่ปรากฏบนพื้นผิว มันไม่ได้เป็นเพียงแอพสำหรับแชร์วิดีโอตลกหรือ meme นั่นคือเสื้อผ้าของแกะ”
“โดยพื้นฐานแล้ว TikTok ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือเฝ้าระวังที่ซับซ้อน ซึ่งรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนจำนวนมาก”
นอกจากนี้ยังมีข้อความหมายเหตุบนจดหมายที่ระบุว่า “หาก Apple และ Alphabet ไม่ได้ลบ TikTok ออกจาก App Stores พวกเขาควรให้คำแถลงกลับภายในวันที่ 8 กรกฎาคม” เป็นการขีดเส้นกำหนดการเชิงบังคับให้ปฏิบัติตามหรือตอบสนองท่าทีใดๆ ออกมา
เมื่อวิเคราะห์ย้อนกลับไปไล่เรียงเหตุการณ์ต่างๆ ของ TikTok จะเห็นการเต้าข่าวจาก BuzzFeed News ที่ออกแนวเสี้ยมเล็กน้อย โดยมีอยู่ 2 ประเด็นหลักๆ ที่สหรัฐฯ น่าจะหวั่นๆ คือ:
อ้างถึงรายงานของ BuzzFeed News เมื่อต้นเดือนว่าการบันทึกคำชี้แจงของพนักงานของ TikTok ระบุว่าวิศวกรในจีนสามารถเข้าถึงข้อมูลของสหรัฐฯ ได้ระหว่างเดือนกันยายน 2564 ถึงมกราคม 2565
ถึงแม้ว่า TikTok จะย้านข้อมูลผู้ใช้งานในสหรัฐอเมริกาไปยังแพลตฟอร์ม Oracle Could 100% แต่การสำรองข้อมูลผู้ใช้ในสหรัฐฯ ของ TikTok ซึ่งยังถูกเก็บไว้บนเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ TikTok ในเวอร์จิเนียและในสิงคโปร์ แต่อย่างไรก็ตามในที่สุดแล้วข้อมูลเหล่านั้นจะถูกลบโดยเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนไปใช้ Oracle (ORCL) ฟังดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ไม่ได้มีการแจ้งกำหนดช่วงเวลาในกระบวนการนี้ว่าจะ 100% เมื่อใด