Facebook เปิดตัว CacheLib ระบบ Caching Engine แบบ Open Source ที่รองรับการใช้งานระดับ Web-scale
Facebook ได้ทำการปรับปรุงและพัฒนาระบบ Caching มาโดยตลอด เนื่องจากเป็นส่วนที่มีความสำคัญอย่างมากในระบบที่ต้องการความเร็ว และมีผู้ใช้งานจำนวนมาก ล่าสุด Facebook ได้ประกาศเลิกใช้งาน DRAM ในการทำ Caching ด้วยเหตุผลว่ามีราคาแพงเกินไปและใช้พลังงานจำนวนมากสำหรับ Datacenter ขนาดใหญ่เช่น Facebook โดยจะมีการใช้งาน non-volatile memory (NVM) เป็นตัวจัดเก็บ Cache แทนเนื่องจากมีความเร็วที่ใกล้เคียงกัน
นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว CacheLib ซึ่งเป็นเครื่องมือ Caching Engine แบบ Open Source ให้ผู้ที่สนใจนำไปใช้งานได้ โดยเครื่องมือจะรองรับการนำ DRAM หรือ NVM มาทำเป็น Cache ได้ นอกจากนี้ยังมี CacheBench เครื่องมือ Benchmarking สำหรับระบบ Cahing มาให้ทดสอบอีกด้วย โดย CacheLib ถูกใช้งานในระบบของ Facebook มากกว่า 70 ระบบ เช่น Social Graph, CDN, Storage และ look-aside key-value cache
ปัจจุบัน Facebook ได้ทำการผลักดัน CacheLib และ CacheBench ให้เป็นมาตรฐานของการทำ Cache และมีการร่วมมือกับบริษัทต่างๆ, มหาวิทยาลัย และผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ ในการให้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องมือตัวนี้ และยังมีการร่วมมือกับ Intel, KIOXIA, Samsung และ Western Digital เพื่อพัฒนา SSD ให้สามารถทำงานกับ Caching Solution ได้ดียิ่งขึ้นและเป็นไปตามมาตรฐาน NVMe Cloud SSD บน Open Compute Project
ที่มา: https://www.theregister.com/2021/09/03/facebook_cachelib_nvm_not_dram/