Evernote ประกาศอัปเดตนโยบายความเป็นส่วนบุคคล (Privacy Policy) ใหม่ ซึ่งอนุญาตให้พนักงานของบริษัทสามารถเข้าถึงข้อมูลในสมุดโน๊ตของผู้ใช้ได้ เพื่อนำไปพัฒนาเทคโนโลยี Machine Learning และตอบโจทย์การใช้งานได้ดียิ่งขึ้น
Evernote ระบุว่า เป้าหมายของบริษัทคือการปรับปรุงระบบ Machine Learning ของตนให้แม่นยำมากยิ่งขึ้น ดังนั้น “การตรวจทานโดยมนุษยน์จึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้” ซึ่งระบบ Machine Learning นี้จะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลในสมุดโน๊ตเพื่อนำไปสนับสนุนฟีเจอร์ต่างๆ เช่น ปรับปรุงระบบค้นหาให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้วิธีการใช้งาน Evernote แล้วแสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้อย่างเหมาะสม รวมไปถึงตรวจจับการทำงานแล้วนำเสนอฟีเจอร์ช่วยเหลือ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่พนักงานทุกคนที่สามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้ได้ เฉพาะพนักงานที่เกี่ยวข้องกับระบบ Machine Learning เท่านั้น
Evernote ยืนยันว่าบริษัทไม่มีนโยบายการนำข้อมูลของผู้ใช้ไปขาย และไม่ได้นำไปใช้วิเคราะห์เพื่อการโฆษณา ผู้ใช้สามารถเลือกปิดฟีเจอร์ Machine Learning เพื่อไม่ให้ Evernote เข้าถึงข้อมูลของตนได้ผ่านทางหน้า Account Settings แล้วเลือก “Allow Evernote to use my data to improve my experience” ออก อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า Adron Buske ให้ความเห็นว่า การเอาฟีเจอร์นี้ออกไม่ได้หมายความแน่ชัดว่าพนักงานจะหยุดดูข้อมูลในสมุดโน๊ตของคุณ
@sholdensmith @joe_hill @evernote https://t.co/SEKuxsJ3q3 pic.twitter.com/Wu1urKPfyL
— Adron Buske (@AdronBuske) December 13, 2016
จากการตรวจทานนโยบายความเป็นส่วนบุคคล พบว่าพนักงานของ Evernote สามารถดูข้อมูลของผู้ใช้เมื่อ
- พวกเขาเชื่อว่าผู้ใช้กำลังละเมิดเงื่อนไขการให้บริการ
- ต้องการแก้ไขปัญหา หรือบำรุงรักษาและปรับปรุงบริการให้ดียิ่งขึ้น
- พวกเขารู้สึกว่าจำเป็นต้องปกป้องสิทธิ ทรัพย์สิน หรือความปลอดภัยของทั้ง Evernote และตัวผู้ใช้
- ต้องปฏิบัติตามภาระผูกพันทางกฏหมาย เช่น ใบสั่ง คำสั่งศาล หมายศาล หรือการร้องขออื่นๆ จากรัฐบาล
นโยบายความเป็นส่วนบุคคลฉบับใหม่นี้จะมีผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 มกราคา 2017 สำหรับผู้ที่ซีเรียสเรื่องความเป็นส่วนบุคคลและไม่ต้องการถูกละเมิด แนะนำว่าให้ใช้ฟีเจอร์เข้ารหัสข้อมูลทั้งหมด หรือเปลี่ยนไปใช้แอพพลิเคชันอื่นแทน
ที่มา: http://lifehacker.com/evernote-employees-can-read-your-notes-and-theres-no-w-1790099958