ในช่วงปีนี้โครงการอัปเกรดระบบ Wi-Fi ในองค์กรไปใช้ Wi-Fi 6 ถือว่ากำลังร้อนแรงในเมืองไทย คุณสาธิต พันธ์ไพศาล ผู้ดำรงตำแหน่ง Country Manager แห่ง Alcatel-Lucent Enterprise Thailand ได้มาเล่ามุมมองเชิงเทคนิคให้แก่ทีมงาน TechTalkThai ถึงประเด็นที่เหล่าธุรกิจต้องเตรียมตัวให้ดีก่อนเริ่มต้นใช้งาน Wi-Fi 6 เพราะนี่ถือเป็นการอัปเกรดระบบ Wi-Fi แบบก้าวกระโดด หากองค์กรไม่มีการเตรียมความพร้อมให้ดี สุดท้ายก็อาจไม่สามารถใช้งาน Wi-Fi 6 ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงขอสรุปเรื่องราวทั้งหมดให้ผู้อ่าน TechTalkThai ทุกท่านได้อ่านกันดังนี้ครับ
Wi-Fi 6: สู่ระบบ Enterprise Wireless LAN ที่รองรับทั้งผู้ใช้งานและอุปกรณ์ IoT ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ในการพูดคุยกันครั้งนี้ คุณสาธิตได้เริ่มเปิดบทสนทนาก่อนด้วยการเล่าถึงมาตรฐาน Wi-Fi 6 หรือที่เดิมที่เคยได้ยินกันในชื่อ IEEE 802.11ax ซึ่งเป็นมาตรฐานล่าสุดที่พร้อมนำมาใช้งานในระดับธุรกิจองค์กร ต่อจากมาตรฐาน Wi-Fi 5 หรือ 802.11ac
ถึงแม้การมาของ Wi-Fi 6 นี้ไม่ได้หวือหวามากเหมือนสมัยของ Wi-Fi 5 ที่ยกระดับความเร็วสูงสุดของเครือข่ายให้สูงขึ้นจากเทคโนโลยีก่อนหน้าถึง 10 เท่า แต่คุณสาธิตเชื่อว่า Wi-Fi 6 นี้จะถูกใช้งานโดยภาคธุรกิจองค์กรรวดเร็วกว่าสมัย Wi-Fi 5 เป็นอย่างมาก เพราะในยุคนั้นการที่ระบบ Wi-Fi เร็วขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทำให้หลายๆ องค์กรที่ยังไม่ได้เตรียมความพร้อมด้าน Bandwidth ของระบบ LAN มาก่อนนั้นไม่สามารถเริ่มต้นใช้ Wi-Fi 5 อย่างเต็มประสิทธิภาพได้ แต่ Wi-Fi 6 นี้มาในยุคที่หลายๆ องค์กรเริ่มต้นใช้งาน Multi-Gigabit กันแล้ว ทำให้ความพร้อมของภาคธุรกิจนั้นสูงกว่าในอดีตอย่างมาก
นอกจากนี้ Wi-Fi 6 ยังมีการปรับปรุงจาก Wi-Fi 5 ให้ดีขึ้นอย่างชัดเจนในหลายประเด็นนอกเหนือจาก Bandwidth ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเรื่องของการบริหารจัดการและใช้งานย่านความถี่ต่างๆ ได้อย่างคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น, การรองรับการส่งข้อมูลปริมาณมหาศาลได้ในระยะเวลาสั้นๆ ทำให้ประหยัดพลังงานการเชื่อมต่อ Wi-Fi ลงเป็นอย่างมาก, การรองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายให้กับอุปกรณ์ IoT ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไปจนถึงการรองรับกรณีการใช้งานได้หลากหลายด้วยเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนามาตอบโจทย์ต่างๆ ทั้งการใช้งานทั่วไป, การเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT, การรองรับพื้นที่ที่มีผู้ใช้งานหนาแน่น และการรองรับ Backward Compatibility ร่วมกับมาตรฐานเก่าๆ ที่ผ่านมาได้ทั้งหมด ทำให้ธุรกิจองค์กรเห็นประโยชน์ในการอัปเกรดระบบเครือข่ายครั้งนี้อย่างชัดเจนนอกเหนือไปจากเพียงแค่ประเด็นของ Bandwidth เท่านั้น
สำหรับความสามารถเด่นๆ ของ Wi-Fi 6 ที่ผู้ดูแลระบบ IT ควรจะรู้จักนั้น มีดังนี้
- Orthogonal Frequency Division Multiple Access (OFDMA) ช่วยให้ Wi-Fi 6 สามารถรองรับผู้ใช้งานจำนวนมากขึ้นบน Channel เดียวกันได้ทั้งในส่วนของการ Upload และ Download ข้อมูล
- Multi-User Multiple Input, Multiple Output (MU-MIMO) ช่วยให้ Wi-Fi 6 สามารถรับส่งข้อมูลไปยังผู้ใช้งานหลายคนพร้อมๆ กันได้จำนวนมากขึ้น ทั้งในส่วนของการ Upload และ Download ข้อมูล
- 1024 Quadrature Amplitude Modulation Mode (1024-QAM) ช่วยเพิ่ม Data Rate สูงสุดในการรับส่งข้อมูลได้ถึง 25%
- Basic Service Set (BSS) Coloring ช่วยให้การใช้งานย่านความถี่เดียวกันมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้พื้นที่ที่มีการใช้ย่านความถี่เดียวกันอย่างหนาแน่นทำงานได้ดีขึ้น ประหยัดพลังงานของอุปกรณ์ในบริเวณนั้นที่เชื่อมต่อ Wi-Fi ลงได้
- Extended Range (ER) ช่วยเพิ่ม Coverage Area ให้กว้างขึ้นได้เมื่อเกิดปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานภายนอกอาคาร
- Target Wake Time (TWT) สามารถปลุกอุปกรณ์ต่างๆ ขึ้นมาเพื่อรับส่งข้อมูลได้เมื่อต้องการ ทำให้ประหยัดพลังงานลงไปเป็นอย่างมาก รองรับการใช้งานได้กับทั้ง Smartphone, อุปกรณ์ IoT และอุปกรณ์อื่นๆ
- Transmit Beamforming ช่วยเพิ่มกำลังส่งสัญญาณให้ดีขึ้น ทำให้สามารถรับส่งข้อมูลได้มากขึ้น
สำหรับ Alcatel-Lucent Enterprise Stellar 802.11ax Wi-Fi 6 Access Point นั้น ปัจจุบัน Access Point แต่ละชุดสามารถมีความเร็วได้สูงถึงเกือบ 3Gbps (2.4Gbps สำหรับย่านความถี่ 5GHz และ 573Mbps สำหรับย่านความถี่ 2.4GHz รวมกัน) ซึ่งเมื่อผสานรวมกับความสามารถใหม่ๆ ที่มีในมาตรฐาน Wi-Fi 6 แล้ว ก็ทำให้สามารถรองรับ Workload รูปแบบใหม่ๆ ได้ดีขึ้นมากทีเดียว
5 สิ่ง ที่ธุรกิจองค์กรต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเริ่มใช้ Wi-Fi 6
นอกเหนือจากประเด็นด้านการวางระบบ LAN ให้รองรับการเชื่อมต่อความเร็วในระดับ Multi-Gigabit และมี Bandwidth โดยรวมที่เพียงพอแล้ว คุณสาธิตเองก็ยังได้เล่าถึง 5 ประเด็นสำคัญที่เหล่าธุรกิจองค์กรต้องต้องเตรียมให้พร้อมสำหรับ Wi-Fi 6 อีกดังนี้
1. เตรียมตัวรองรับมาตรฐาน POE+
เนื่องจากการที่อุปกรณ์ Wi-Fi 6 จะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนั้น ก็ต้องอาศัยพลังงานที่สูงขึ้น ทำให้ต้องมีการขยับจาก POE มาตรฐาน 802.3af มาเป็น POE+ มาตรฐาน 802.3at แทน ซึ่งก็หมายถึงการที่บางองค์กรนั้นก็อาจต้องเปลี่ยน Switch ที่ใช้จ่าย POE ให้ตอบโจทย์ต่อความต้องการด้านพลังงานด้วย
อย่างไรก็ดี หากองค์กรไม่พร้อมที่จะเปลี่ยนมาใช้ POE+ การใช้งานเพียงแค่ POE จ่ายไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ Wi-Fi 6 Access Point นั้นก็ยังเป็นไปได้อยู่ เพียงแต่จะใช้ความสามารถได้ไม่เต็มที่เท่านั้น
2. ใช้แนวคิด Service Defined Network ในระบบ LAN เพื่อลดความซับซ้อน
การออกแบบเครือข่ายให้มีทั้ง Bandwidth ที่สูงและ Availability ที่สูงเพื่อให้ Wi-Fi 6 สามารถให้บริการผู้ใช้งานได้อย่างดีที่สุดนั้น หมายถึงการที่ต้องวางระบบ LAN ให้ต้อง Uplink ขนาดใหญ่จำนวนหลายชุด ซึ่งสามารถทำงานร่วมกันและทำงานทดแทนกันได้ตลอด ทำให้ระบบเครือข่ายมีความซับซ้อนสูงขึ้น และยากต่อการดูแลรักษาหรือบริการจัดการในอนาคต
การใช้งานเทคโนโลยี Service Defined Network นั้นจะสามารนถเข้ามาช่วยลดความซับซ้อนตรงนี้ได้ ในขณะที่การใช้งานความสามารถเฉพาะทางของอุปกรณ์ Switch เพื่อเข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดี ตัวอย่างเช่น ระบบ Switch ของ Alcatel-Lucent Enterprise นั้นมีความสามารถที่ชื่อว่า Shortest Path Briding ที่จะช่วยให้การเชื่อมต่อเครือข่ายภายในองค์กรนั้นมีทั้งประสิทธิภาพและความมั่นคงทนทานได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความซับซ้อนในการตั้งค่าหรือการเกิด Loop ในเครือข่ายอีกเลย
3. พิจารณาการใช้งาน Distributed Wireless Architecture
เนื่องจากระบบ Enterprise WLAN ในปัจจุบันนี้มีทางเลือกในการบริหารจัดการหลากหลายมาก ทั้งแบบที่ยังใช้งาน Controller อยู่ และแบบที่ใช้ Access Point หรือ Cloud เข้ามาบริหารจัดการ ดังนั้นการเลือกสถาปัตยกรรมด้านการบริหารจัดการให้เหมาะสมก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายของธุรกิจองค์กรลงไปได้ ตัวอย่างเช่น Alcatel-Lucent Enterprise OmniAccess Stellar Access Point เองนี้ก็มี Express Mode ที่สามารถบริหารจัดการ Access Point ด้วยกันเองได้มากถึง 256 ชุดเลยทีเดียว ทำให้สามารถใช้งานทดแทน Controller ได้เลยในบางกรณี เป็นต้น
4. เลือกใช้งาน Access Point ให้เหมาะกับงาน
นอกจากการเลือกใช้งาน Access Point ที่รองรับมาตรฐาน Wi-Fi 6 แล้ว การเลือกรุ่น Indoor/Outdoor ให้ตอบโจทย์ต่อระดับความทนทานที่ต้องการนั้นก็สำคัญ และการเลือกรุ่นที่ใช้เสา Antenna ภายในหรือภายนอกนั้น ก็จะช่วยให้การออกแบบ Coverage Area ในพื้นที่ติดตั้งเป็นไปได้อย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น และประหยัดจำนวน Access Point ที่ต้องใช้งานลงได้ในหลายกรณี
5. อย่าละเลยการทำ Site Survey
พื้นฐานที่สำคัญที่สุดอย่าง Site Survey นั้นก็ยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการออกแบบระบบ Wi-Fi ให้เหมาะสมต่อการใช้งานจริงที่สุด ถึงแม้ปัจจุบันนี้จะมีเครื่องมือมากมายสำหรับช่วยจำลองการติดตั้งได้ง่ายนขึ้น แต่สุดท้ายแล้วการทำ Site Survey จริงๆ เพื่อให้ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละพื้นที่ติดตั้งนั้น ก็ยังคงเป็นแนวทางที่ดีที่สุดอยู่ดี
Alcatel-Lucent Enterprise OmniAccess Stellar 802.11ax Wi-Fi 6 พร้อมอัปเกรดระบบเครือข่าย WLAN ครั้งใหญ่ให้กับธุรกิจองค์กรแล้ว
คุณสาธิตได้สรุปส่งท้ายถึงโซลูชันของทาง Alcatel-Lucent Enterprise ที่มี OmniAccess Stellar ซึ่งรองรับ Wi-Fi 6 ด้วยกันแล้ว 2 รุ่นหลักๆ ได้แก่
- Alcatel-Lucent Enterprise OmniAccess Stellar AP1320 สำหรับการใช้งานภายในอาคาร
Credit: Alcatel-Lucent Enterprise - Alcatel-Lucent Enterprise OmniAccess Stellar AP1360 ผ่านมาตรฐาน IP67 สำหรับติดตั้งใช้งานภายนอกอาคาร
Credit: Alcatel-Lucent Enterprise
ในแง่ของการบริหารจัดการนั้นก็สามารถเลือกแนวทางได้หลากหลาย ทั้งการบริหารจัดการผ่าน Controller ด้วย OmniVista 2500, การบริหารจัดการผ่าน Cloud ด้วย OmniVista Cirrus หรือการบริหารจัดการผ่าน Access Point เองด้วย Express Mode
ทั้งนี้ทีมงาน Alcatel-Lucent Enterprise ก็พร้อมที่จะให้คำปรึกษาแนะนำด้านการออกแบบระบบ Wi-Fi สำหรับการใช้งานในระดับธุรกิจองค์กร ครอบคลุมไปจนถึงการออกแบบระบบ LAN เพื่อตอบโจทย์การใช้งานให้ได้อย่างเหมาะสม และระบบ Network Security เพื่อให้ระบบเครือข่ายมีความมั่นคงปลอดภัยในระดับที่ต้องการ
ประวัติของคุณสาธิต พันธ์ไพศาล
ปัจจุบันคุณสาธิต พันธ์ไพศาลรับผิดชอบงานด้านการบริหารจัดการทั่วไปใน Alcatel-Lucent Enterprise ประจำประเทศไทย และมีบทบาทหลักในการผลักดันตลาดทางด้าน IP Communications และ Network Solutions สำหรับธุรกิจองค์กรให้แก่ Alcatel-Lucent Enterprise ในประเทศไทย
คุณสาธิตมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมทางด้าน ICT เป็นเวลายาวนานเกือบ 30 ปีทั้งภายในองค์กรระดับประเทศและระดับนานาชาติภายใต้บทบาทที่หลากหลาย ตั้งแต่การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านระบบเครือข่าย, ที่ปรึกษาระบบ IT, ผู้บริหารโครงการ, ผู้พัฒนาธุรกิจ และผู้ดูแลช่องทางการขายสินค้า
คุณสาธิตจบการศึกษาปริญญาโททางด้าน Computer and Engineering Managment จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และได้รับเกียรตินิยมทางด้านวิศวกรรมจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
เกี่ยวกับ Alcatel Lucent Enterprise
ALE ช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับชุมชนของคุณได้ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีที่ทำงานได้เป็นอย่างดี ทั้งสำหรับผู้คน, สาธารณชน และองค์กรของคุณ ด้วยการเป็นธุรกิจที่ครอบคลุมทั่วโลกและให้ความสำคัญกับความต้องการที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ เราได้นำเสนอระบบเครือข่ายและการสื่อสารที่มั่นคงปลอดภัยซึ่งออกแบบมาเพื่อให้นำไปใช้เพื่อให้บริการสื่อสารโต้ตอบภายในชุมชนโดยเฉพาะ ทำให้ประชาชนสามารถสื่อสารกันได้อย่างปลอดภัย และโต้ตอบกันได้ด้วยประสบการณ์ที่ดี ในขณะที่เจ้าหน้าที่ก็สามารถเชื่อมต่อและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้บริการสาธารณะได้อย่างมั่นคง รวมถึงตัวแทนเจ้าหน้าที่ภาครัฐเองก็สามารถเชื่อมต่อเพื่อริเริ่มนวัตกรรมใหม่ๆ, สื่อสารทำงานระหว่างกันอย่างมีประสิทธิภาพ และควบคุมค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี เป้าหมายของเราคือการเชื่อมต่อทุกสิ่งอย่างเข้าด้วยกันเพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเทคโนโลยีที่ลูกค้าของเราต้องการ ทั้งภายในที่ทำงาน, บน Cloud หรือทั้งสองแห่งรวมกัน เราสามารถนำเสนอระบบเครือข่ายและการสื่อสารที่ใช้งานได้จริงสำหรับบุคลากร, กระบวนการ และลูกค้าของคุณ
ด้วยนวัตกรรมและความทุ่มเทเพื่อให้ลูกค้าประสบความสำเร็จมาตั้งแต่อดีตนั้น ก็ได้ทำให้ ALE ภายใต้แบรนด์ Alcatel-Lucent Enterprise นี้กลายเป็นผู้ให้บริการหลักทางด้านระบบเครือข่าย, การสื่อสาร และบริการสำหรับองค์กรให้แก่ลูกค้าทั่วโลกกว่า 830,000 ราย ALE นั้นมีสาขากระจายอยู่ทั่วโลก และให้ความสำคัญกับทุกภูมิภาคด้วยพนักงานมากกว่า 2,200 คนและพันธมิตรมากกว่า 2,900 รายใน 50 ประเทศทั่วโลก ที่ผ่านมา ALE ประสบความสำเร็จได้จากการช่วยให้องค์กรของคุณสามารถทำ Digital Transformation ในรูปแบบที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณได้ ด้วยการผสานรวมระบบ, ติดตั้งระบบวิเคราะห์ข้อมูล และนำเทคโนโลยี Mobile และ Internet of Things เข้ามาช่วยสร้างนวัตกรรมโมเดลทางธุรกิจรูปแบบใหม่ ซึ่งจะกลายเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับนวัตกรรมที่จะมาต่อยอดในอนาคตเพิ่มเติม https://www.al-enterprise.com