สรุปเนื้อหาข่าว
- Dell คือผู้ให้บริการโซลูชัน Storage อันดับ 1 ในครึ่งปีแรกของปี 2557
- Dell รักษาสถานภาพผู้นำที่มีส่วนแบ่งตลาดเซิร์ฟเวอร์ x86 ทั่วโลกเป็นอันดับ 2
- Dell ซอฟต์แวร์ มีการเติบโตของรายได้เป็นตัวเลขสองหลักเทียบกับปีที่ผ่านมา
- Dell มียอดการส่งพีซี เติบโตเกือบ 10 เปอร์เซ็นต์ ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบปีต่อปี
- Dell ได้รับการจัดอันดับโดย Gartner ให้เป็นผู้ให้บริการด้านไอทีสำหรับ Healthcare อันดับ 1 ของโลก
- Dell มีการเติบโตในทุกภูมิภาคทั่วโลกสูงขึ้นทุกปี
ในฐานะบริษัทเอกชน Dell ได้เร่งการลงทุนทั้งในด้านการวิจัยและพัฒนา รวมถึงช่องทางจำหน่าย สร้างยอดขายและประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เพื่อมอบนวัตกรรมและการเติบโตสู่แถวหน้าของอุตสาหกรรม ด้วยความสามารถในการดำเนินตามกลยุทธ์ระยะยาวที่มุ่งเน้นไปที่ลูกค้า 100 เปอร์เซ็นต์ Dell ยืนหยัดอย่างสง่างามในฐานะผู้ให้บริการโซลูชันผสานรวมที่ครบวงจรซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสุดสำหรับลูกค้า
“วันนี้ Dell คือบริษัทที่นำเสนอระบบไอทีแบบผสานรวม (Integrated IT Company) ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก กลยุทธ์ของเราสะท้อนถึงสิ่งที่ลูกค้าทั่วโลกมองหานั่นคือผู้ให้บริการโซลูชันแบบครบวงจรที่ยั่งยืน และเชื่อถือได้เพื่อตอบสนองความต้องการทั้งด้านธุรกิจ และไอที” Michael Dell ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว “ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของอุปกรณ์เชื่อมต่อปลายทาง (Endpoint) ไปจนถึง Data Center กระทั่งระบบคลาวด์ ทั้งลูกค้าและคู่ค้าต่างมองเห็นคุณค่าในการทำงานร่วมกับ Dell ทั้งในแง่ของความเชื่อมั่น ความสะดวก สามารถคาดเดาผลลัพธ์ได้”
Dell แซงหน้าคู่แข่งด้วยการเติบโตของโซลูชันครบวงจร
- จากข้อมูลของไอดีซี (International Data Corporation) บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลอุตสาหกรรม Dell คือ ซัพพลายเออร์ด้าน Storage อันดับ 1 ในครึ่งปีแรกของปี 2557 โดยอิงจากจำนวน Terabyte ทั้งหมดที่จำหน่ายทั้งในส่วนของ Storage เพื่อการใช้งานทั้งภายในและภายนอก (Internal และ External Storage)
- จากข้อมูลของไอดีซี Dell ยังคงครองตำแหน่งผู้นำอันดับ 2 ของโลกด้านส่วนแบ่งทางการตลาด ผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ x86 และยังสามารถรักษาสถานภาพผู้นำอันดับ 1 ที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ขณะเดียวกัน ข้อมูลจากไอดีซียังระบุว่า สำหรับไตรมาสที่สอง Dell เป็นผู้จำหน่ายหลักเพียงรายเดียวที่มีการเติบโต ทั้งในส่วนของแร็ค เซิร์ฟเวอร์ และเบลด เซิร์ฟเวอร์เพิ่มขึ้นปีต่อปี
- Dell ซอฟต์แวร์ มีการเติบโตของรายได้ถึงสองหลัก เนื่องจากบริษัทได้ขยายธุรกิจซอฟต์แวร์ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง โดยมีจุดแข็งในเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัย การจัดการข้อมูล รวมถึงระบบวิเคราะห์ข้อมูล และระบบผสานการทำงานของแอพพลิเคชันระดับ Enterprise โดยนับตั้งแต่มีการเสริมสายผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์เข้าในโปรแกรม Dell PartnerDirect ในปีที่ผ่านมา ก็ทำให้รายได้ที่เกี่ยวเนื่องกับช่องทางจำหน่ายของ Dell ซอฟต์แวร์ เติบโตเป็นสองหลักเช่นกัน
- จากข้อมูลเบื้องต้นของไอดีซี Dell ยังคงรักษาเสถียรภาพในธุรกิจโซลูชัน Client (PC) เอาไว้ได้อย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาสที่ 3 ตามปีปฎิทิน 2557 จากการที่บริษัทมีการเติบโตของส่วนแบ่งในตลาดโลก 7 ไตรมาสติดต่อกันปีต่อปี ซึ่งเติบโตมากกว่าคู่แข่งหลักทั้งสองรายในสหรัฐอเมริการวมกัน โดยอิงจากข้อมูลไอดีซีเมื่อเร็วๆ นี้ และจากข้อมูลดังกล่าว ส่วนแบ่งของ Dell ในตลาด PC สหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 24 เปอร์เซ็นต์ในปัจจุบัน หรือเพิ่มขึ้น 3.1 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบปีต่อปี และมียอดการส่ง PC ทั่วโลกระหว่างไตรมาสที่เติบโตเกือบ 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบปีต่อปี
- Dell ได้รับการจัดอันดับจาก Gartner ให้เป็นผู้ให้บริการด้านไอทีสำหรับ Healthcare อันดับ 1 ของโลกในด้านไอที โดยอ้างอิงจากตัวเลขรายได้ในปี 2556
- ด้วยอัตราการขยายตัวอย่างมากในแง่ของส่วนแบ่งทางการตลาด Dell เซอร์วิสได้รับการยอมรับในฐานะของผู้ท้าชิงรายหลักในรายงานซึ่งเป็นตารางการเปรียบเทียบผู้ให้บริการ Outsource ด้านไอทีสำหรับการธนาคารในกลุ่มของ Everest (Everest Group Banking IT Outsourcing PEAK MatrixTM) ที่ยังคงมีความสามารถเหนือชั้นในเรื่องการบริการทางการเงิน โดยมีการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรม รวมถึงการสร้างพันธมิตร และมีการวางเป้าหมายเชิงกลยุทธ์อยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการที่เติบโตในเรื่องของเทคโนโลยีที่ซับซ้อน จากทั้งสถาบันการเงินและการธนาคาร
Dell ขยายฐานโซลูชัน Center รับลูกค้าองค์กรใหญ่ทั่วโลก
- Dell ประกาศแผนในการขยายโซลูชัน Center โดยจะเปิดตัว Center แห่งใหม่ในย่านดาวน์ทาวน์ของ ชิคาโก้ รัฐอิลลินอยส์ในช่วงต้นปี 2558 ทั้งนี้ Dell ได้มีการเปิดโซลูชัน Center แห่งใหม่ไปเมื่อต้นปีทั้งในดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเซา เปาโล ประเทศบราซิล ซึ่งการลงทุนครั้งใหม่ในชิคาโก้ จะทำให้บริษัทมีโซลูชัน Center ทั้งสิ้น 15 แห่งทั่วโลกเพื่อช่วยให้ลูกค้าองค์กร และพันธมิตรสามารถทดสอบ และประเมินโซลูชัน และบริการต่างๆ ได้อย่างสะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น
- ตั้งแต่เปิด Dell Center แห่งแรกในไลเมอริค ประเทศไอร์แลนด์ในปี 2554 ทำให้ Dell ได้มีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดกับองค์กรและพันธมิตรทั้งหมดเกือบ 20,000 ราย ส่งผลให้เกิดการสร้างยอดการขายมากกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์ และ Center แต่ละแห่งยังช่วยเร่งการเติบโตของธุรกิจ โดยชั่วระยะเวลาเพียงแค่ 18 เดือนที่ผ่านมา โซลูชัน Center ทั้งหมดของ Dell ก็รองรับการทำงานร่วมกันระหว่าง Dell กับลูกค้าและคู่ค้าถึงกว่า 11,000 รายด้วยกัน
- ลูกค้าองค์กรที่เข้ามาใช้โซลูชัน Center ของ Dell มีตั้งแต่องค์กรขนาดใหญ่ องค์กรภาครัฐ ไปจนถึงบริษัทขนาดกลาง และขนาดเล็ก รวมถึงพันธมิตรช่องทางจำหน่ายของDell ด้วยเช่นกัน
- Dell Center มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยให้ลูกค้า และคู่ค้าเปิดสู่โอกาสใหม่ รวมถึงพัฒนา และทดสอบโซลูชัน และเทคโนโลยีที่ตรงตามความต้องการด้านไอทีเฉพาะได้ดีที่สุด ช่วยกลุ่มคนเหล่านี้สร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้ดีขึ้น มีข้อได้เปรียบในการแข่งขันมากขึ้น
- ความสามารถหลักที่ทำให้ Dell แตกต่างจากบริษัทอื่นคือระบบเครือข่ายที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ ซึ่งทำให้ Center ทุกแห่งในโลกสามารถเชื่อมต่อกันได้ โดยให้ศักยภาพระบบเครือข่ายทั่วโลกได้อย่างแท้จริง สำหรับทั้งลูกค้าและคู่ค้าในการทดสอบแอพพลิเคชันต่างๆ ทั่วโลกบนโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายของ Dell
Dell ผลักดันนวัตกรรมล้ำหน้า Dell Research ทำลายสถิติเรื่องประสิทธิภาพเหนือชั้น
- Dell Research หรือฝ่ายวิจัยของ Dell ได้พัฒนาโซลูชันซึ่งผ่านการพิสูจน์เรื่องแนวคิดที่ทำได้จริง (proof-of-concept) เรียกว่า High Velocity Cloud หรือคลาวด์ที่ให้ความเร็วสูง สามารถรองรับทราฟฟิกของอุปกรณ์โมบายทั้งหมดที่ใช้อยู่ในเมืองขนาดกลาง เช่น ออสติน โดยใช้แค่อุปกรณ์เครือข่ายและแร็คเซิร์ฟเวอร์ของ Dell เพียงแค่หนึ่งในสี่เท่านั้น
- High Velocity Cloud ทำให้เซิร์ฟเวอร์มาตรฐานสามารถประมวลผลแพ็คเก็ตสมรรถนะสูงได้อย่างเหมาะสม และช่วยปรับปรุงความสามารถของเซิร์ฟเวอร์เสมือนแบบมาตรฐานได้สูงถึง 20 เท่าเพื่อรองรับฟังก์ชันการทำงานบนเครือข่ายได้อย่างเต็มที่
- เมื่อเร็วๆ นี้ Dell Research พร้อมด้วยพันธมิตรได้สร้างสถิติด้านสมรรถนะการทำงาน พร้อมการสาธิตการใช้High Velocity Cloud โดยใช้ Dell R920 Virtualized Standard Server พร้อม Network Adapter มาตรฐาน โดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ชนิดพิเศษแต่อย่างใด โดยสามารถใช้เป็นโครงสร้างพื้นฐานให้กับระบบที่ให้ความสามารถรองรับแบนด์วิธที่ความเร็ว 214 Gbps ในขณะที่ยังเหลือซีพียูมากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ไว้สำหรับทำงาน Workload หนักๆ บนเครือข่ายได้
- High Velocity Cloud นำมาซึ่งนวัตกรรมและความล้ำหน้าอย่างมากมายมหาศาล อาทิ การให้บริการคลาวด์ที่ปกติอาจใช้เวลาหลายเดือน แต่ปัจจุบันสามารถทำได้รวดเร็วภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที สิ่งนี้นับเป็นการสร้างโอกาสอย่างมหาศาล ทั้งยังช่วยผลักดันให้องค์กรหันมาทบทวนรูปแบบการดำเนินธุรกิจ การจัดสรรทรัพยากร และสายผลิตภัณฑ์ทั้งหมดได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
Dell ทำให้อนาคตของไอทีเป็นรูปร่างขึ้นได้ด้วย Dell Ventures
- การลงทุนของ Dell Ventures จะช่วยให้Dell สามารถยืนหยัดอยู่แถวหน้าในการสร้างสรรค์นวัตกรรมให้กับลูกค้า พร้อมให้การสนับสนุนผู้ประกอบการ ที่จะเป็นคนช่วยทำให้อนาคตของไอทีเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
- Dell ประกาศการลงทุนใน Invincea, Lastline, Formation Data Systems และ Nexenta ตั้งแต่ที่มีการเปิดตัวกองทุนเพื่อการสร้างสรรค์นวัตกรรม (Strategic Innovation Venture Fund) มูลค่า 300 ล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวมุ่งเป้าไปที่การลงทุนในบริษัทเริ่มโตในกลุ่มเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งรวมถึง Storage, Cloud Computing, Big Data, Next-genration Data Center, Security และ Mobility
- Dell นำมูลค่ามาสู่บริษัทที่เกิดขึ้นใหม่ (Startups) ในแง่ของการให้คำปรึกษาทั้งด้านเทคนิค และด้านธุรกิจ ตลอดจนการเข้าถึงแบรนด์ เรื่องของลูกค้า ช่องทางจำหน่าย พันธมิตรที่ทำตลาดร่วมกัน รวมถึงโซลูชันแบบ OEM
Dell World
Dell World 2014 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-6 พฤศจิกายน โดยเป็นงานมหกรรมลูกค้าที่สำคัญที่สุดของ Dell เพื่อเปิดโอกาสด้านโซลูชันเทคโนโลยี พร้อมการบริการที่ช่วยให้องค์กรมีวิธีการที่ดีกว่าในการเร่งความสามารถขององค์กรเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.dellworld.com และติดตาม #DellWorld ได้บนทวิตเตอร์