CrowdStrike เปิดตัวความสามารถใหม่สำหรับ Falcon Exposure Management ช่วยให้องค์กรสามารถประเมินช่องโหว่ในอุปกรณ์เครือข่ายได้แบบ Real-time

CrowdStrike ประกาศเปิดตัวความสามารถใหม่ Network Vulnerability Assessment (NVA) สำหรับ Falcon Exposure Management ซึ่งเป็นระบบสำหรับประเมินและจัดการความเสี่ยงด้านไซเบอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยขยายขีดความสามารถในการตรวจสอบช่องโหว่และจัดลำดับความสำคัญไปยังอุปกรณ์เครือข่าย เช่น router, switch และ firewall เพื่อช่วยให้ทีม security สามารถระบุและแก้ไขช่องโหว่ที่มีความเสี่ยงสูงได้ทันที โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบ single-agent ที่ไม่ต้องติดตั้ง scanner หรือ hardware เพิ่มเติม
ตามรายงาน Global Threat Report 2025 จาก CrowdStrike พบว่าผู้โจมตีมักใช้วิธีการโจมตีแบบต่อเนื่องโดยใช้ช่องโหว่หลายรายการที่มีระดับความรุนแรงต่ำถึงปานกลางเพื่อยกระดับสิทธิ์และควบคุมระบบจากระยะไกล ซึ่งระบบจัดการช่องโหว่แบบดั้งเดิมไม่สามารถรองรับได้ดีนัก เนื่องจากขาดการวิเคราะห์ข้อมูลข่าวกรองภัยคุกคามและความสามารถด้าน AI ขั้นสูงที่จะช่วยเชื่อมโยงช่องโหว่กับเทคนิคการโจมตีในโลกจริง ส่งผลให้ทีมรักษาความปลอดภัยต้องจัดการกับคะแนน CVSS ที่ไม่สะท้อนถึงวิธีการที่ผู้โจมตีอาจใช้โจมตีช่องโหว่ขององค์กร
Falcon Exposure Management ช่วยจัดลำดับความสำคัญของช่องโหว่ตามพฤติกรรมของผู้โจมตีและเส้นทางการโจมตีในโลกจริง โดยใช้ ExPRT.AI ที่จดสิทธิบัตรเพื่อระบุช่องโหว่ 5% ที่ส่งผลต่อความเสี่ยงถึง 95% ซึ่งช่วยให้ทีมสามารถลดช่องโหว่ที่สำคัญได้สูงสุดถึง 98% และด้วยความสามารถใหม่ Network Vulnerability Assessment นี้ องค์กรสามารถขยายการมองเห็นความเสี่ยง, การจัดลำดับความสำคัญ, และการแก้ไขอัตโนมัติได้อย่างครอบคลุม ช่วยเร่งการรวมระบบรักษาความปลอดภัยและลดค่าใช้จ่ายและความซับซ้อนของการจัดการเครื่องมือที่แยกส่วน
Network Vulnerability Assessment มีให้บริการแล้วสำหรับลูกค้า Falcon Exposure Management โดยลูกค้าทุกรายสามารถสแกนได้ฟรีสูงสุด 10% ของจำนวนอุปกรณ์โดยไม่ต้องติดตั้ง License เพิ่มเติม