ด้วยอิทธิพลของเทคโนโลยีด้านอินเทอร์เน็ตทำให้แพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์นั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามการประยุกต์ใช้ขององค์กรเพื่อการเทรนนิ่งภายในเองอาจจะยังมีข้อจำกัด สาเหตุเพราะว่าแพลตฟอร์มที่เราพบเห็นได้ทั่วไปนั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ยืดหยุ่นและเหมาะสมกับใช้ในการใช้งานในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นระบบติดตามสถานะของผู้ใช้ ระบบการทดสอบตามบทเรียน หรือแม้กระทั่งข้อจำกัดด้านภาษา โดยทางทีมงาน TechTalkThai ได้รับเกียรติจากบริษัท Course Square หรือผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเรียนรู้ออนไลน์ให้เข้าสัมภาษณ์สองผู้บริหาร ซึ่งจะมาพูดคุยถึงแนวทางการนำแพลตฟอร์มออนไลน์ไปใช้ยกระดับการจัดทำเทรนนิ่งภายในองค์กรกันครับ
ในการสัมภาษณ์ครั้งนี้เราได้รับเกียรติจาก 2 ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงจาก Course Square คือ คุณอัคคสิทธิ์ ตรุงกานนท์ ผู้บริหารฝ่ายเทคโนโลยี และคุณณัฐพล วัชรศิริสุข ประธานบริหารของบริษัท โดยทั้ง 2 ท่านจะมาเล่าให้เราฟังถึงหลายแง่มุมในเทคโนโลยีเรียนรู้ออนไลน์
รู้จักกับ Course Square
สำหรับ Course Square คือบริษัทที่ให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับให้บริการคอร์สเรียนรู้ออนไลน์ ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2014 โดยกว่า 5 ปีที่ผ่านมาบริษัทได้พัฒนาแพลตฟอร์มให้สามารถรองรับธุรกิจได้อย่างหลากหลาย เช่น บุคคลทั่วไปที่ต้องการเปิดคอร์สของตัวเอง สถาบันสอนพิเศษ(Tutor) รวมถึงองค์กรต่างๆ ด้วยเช่นกัน
ในปัจจุบันแพลตฟอร์มของ Course Square มีอัตราการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในทุกปี โดยเฉพาะกับกลุ่ม Gen Y และ Z ที่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีเป็นอย่างดี ทั้งนี้แพลตฟอร์มยังสามารถรองรับการเข้าถึงได้ทั้งในรูปแบบของ Web-based รวมถึงได้ออกแอปพลิเคชันบน Android มาแล้วและในฝั่งของ iOS เองกำลังจะเปิดตัวในไม่ช้า
ข้อดีของแพลตฟอร์มเรียนรู้ออนไลน์
1.สามารถเข้าเรียนเวลาใดก็ได้เพราะห้องเรียนออนไลน์พร้อมให้บริการเสมอ ทำให้ไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
2.สามารถเรียนจากที่ไหนก็ได้ขอเพียงแค่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
3.สามารถกลับมาย้อนเรียนซ้ำได้เท่าที่ต้องการจนกว่าจะพอใจ หรือถ้าใครเข้าใจแล้วก็สามารถข้ามเนื้อหานั้นได้เช่นกัน
4.วิทยากรอัดวีดีโอเพียงครั้งเดียวไม่ต้องคอยสอนซ้ำๆ ในทุกคอร์ส หากมีความรู้ใหม่เกิดขึ้นก็แค่อัปเดตวีดีโอใหม่ขึ้นไป
5.ประหยัดเวลาการเดินทางของทั้งผู้เรียนและผู้สอนที่ต้องเข้ามาพบกันและประหยัดงบเรื่องค่าสถานที่ด้วย
อันที่จริงแล้วข้อดีข้างต้นนั้นโดยผิวเผินอาจเพียงพอต่อคอร์สออนไลน์โดยทั่วไป ซึ่งมีแพลตฟอร์มในตลาดอยู่แล้วมากมาย เช่น Coursera, edx, Udemy แต่ทางคุณอัคคสิทธิ์ก็ได้ชี้ให้เราเห็นถึงปัจจัยที่น่าสนใจคือแพลตฟอร์มเหล่านั้นมักมีการบังคับให้จัดโปรโมชันหรือลดราคาซึ่งกระทบต่อค่าตอบแทนของผู้สอนโดยตรง อีกปัจจัยหนึ่งคือเมนูต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษซึ่งหากกลุ่มเป้าหมายเป็นคนไทยก็อาจเกิดข้อจำกัดขึ้นได้ ยังไม่นับเรื่อง Policy อื่นๆ ที่อาจไม่ตอบโจทย์ต่อการใช้งานในไทย ด้วยเหตุนี้เองการใช้แพลตฟอร์มที่สร้างโดยคนไทยเพื่อคนไทยจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า
Course Square จะตอบโจทย์การเทรนนิ่งขององค์กรได้อย่างไร
การจัดเทรนนิ่งเพื่อให้ความรู้ภายในองค์กรเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เช่น การปฐมนิเทศ การให้ความรู้ที่จำเป็นต่อการทำงาน ทั้งนี้แพลตฟอร์มออนไลน์จึงสามารถเข้ามาตอบสนองความต้องการเหล่านั้นได้ เช่น องค์กร Healthcare อาจจะนำไปเทรนนิ่งพนักงานใหม่ โรงงานสามารถใช้เทรนนิ่งการใช้งานอุปกรณ์ ธุรกิจ Retail สามารถนำไปสอนตัวแทนจำหน่าย หรือแม้กระทั่งธุรกิจ IT สามารถใช้เพื่อสร้าง Value Add ให้กับโปรเจ็คเพื่อจัดเทรนนิ่งลูกค้า เป็นต้น
แต่คำถามคือองค์กรจะเริ่มอย่างไร สำหรับองค์กรขนาดใหญ่อาจสร้างทีมพัฒนาขึ้นมาได้เองแต่ก็ต้องลงทุนเป็นอย่างมากหรือหากจัดจ้าง Third-party ภายนอกท่านจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะได้ผลงานตามที่คาดหวังหรือไม่เกิดเหตุการณ์ละทิ้งงานกลางคัน ในขณะเดียวกันหากใช้แพลตฟอร์มที่มีอยู่แล้วในท้องตลาดก็อาจจะไม่ตอบโจทย์เนื่องจากติดข้อจำกัดของ Policy และไม่สามารถปรับแต่งฟีเจอร์ได้ ในทางกลับกันองค์กรขนาดเล็กแทบจะหมดสิทธิ์โดยปริยาย ดังนั้นจะดีกว่าไหมหากมีทีมงานมืออาชีพเข้ามาแก้ปัญหาเหล่านั้นของท่านได้และมีทางเลือกที่เหมาะสมให้การใช้งานขององค์กรทุกขนาด
แพลตฟอร์มจาก Course Square มีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ต่อการทำเทรนนิ่งระดับองค์กรดังนี้
- Flexibility – มีความยืดหยุ่นมากกว่าแพลตฟอร์มอื่นเพราะสามารถพูดคุยกับทีมงานเพื่อปรับแต่งฟีเจอร์ได้ ซึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือหลายองค์กรต้องการ Integrate แพลตฟอร์มเข้ากับระบบขององค์กร เช่น ดาต้าเบส AD หรืออื่นๆ เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลของพนักงาน
- Local Language – การใช้งานเป็นภาษาไทยจึงเข้าถึงผู้เรียนได้ง่าย
- Report – สามารถจัดทำรายงานผลสัมฤทธิ์ของการเรียนรู้ เช่น รายงานผลสอบทันทีหลังสอบเสร็จ ชั่วโมงการเรียน และอื่นๆ
- OEM/License – องค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการใช้แพลตฟอร์มตัวเองสามารถนำแพลตฟอร์มของ Course Square ไปทำ OEM ได้ (การเปลี่ยนเป็นโลโก้หรือธีมเป็นของบริษัท) อีกทางหนึ่งหากเป็นองค์กรขนาดเล็กสามารถใช้แพลตฟอร์มปกติโดยมีการคิดค่าใช้จ่ายเป็น License ได้ด้วย
- Consulting – Course Square มีการจัดทำเทรนนิ่งลูกค้าอยู่เรื่อยๆ รวมถึงให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าก่อนเริ่มต้นโครงการเสมอ เช่น ระยะเวลาของวีดีโอที่เหมาะสม ช่วงเวลาที่ได้รับความนิยม เป็นต้น
- Security – Course Square ได้ให้ความสำคัญแก่เรื่องนี้เป็นอย่างมากเพราะนี่คือทรัพย์สินทางปัญญาขององค์กร เช่น การเข้ารหัสทราฟฟิค การทำลายน้ำในวีดีโอ เก็บ Log การเข้าถึงข้อมูล การทำ Backup
- Role-based Access – สามารถทำการจำกัดการเข้าถึงตามหน้าที่ เช่น คนสอนสามารถเข้าสร้าง Content , HR สามารถดูส่วน Analytics ได้ หรือเปิดให้เฉพาะผู้เรียนสามารถเข้ามาแสดงความคิดเห็นได้เท่านั้น
- Policy – องค์กรสามารถกำหนดเงื่อนไขของการออกเกรด Certificate หรือรูปแบบความต้องการอื่นๆ เช่น คะแนนมากกว่า 80% จึงได้ B หรือการบังคับให้เรียนตามลำดับบทเรียน เป็นต้น
โดยสรุปจะเห็นได้ว่าจุดเด่นของ Course Square คือแพลตฟอร์มของคนไทยเพื่อคนไทยอย่างแท้จริง ทั้งนี้ยังสามารถปรับแต่งฟีเจอร์ได้อย่างยืดหยุ่นและให้ความสำคัญในด้าน Security รวมถึงยังมีบริการให้คำปรึกษาจากประสบการณ์ตรงที่บริษัทสั่งสมมาอย่างยาวนาน สุดท้ายนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้คงจะพอช่วยให้ทุกท่านทราบแล้วว่าการทำเทรนนิ่งออนไลน์ในองค์กรไม่ได้ยากอย่างที่คิดนะครับ เพียงแค่ต้องไปให้ถูกที่เท่านั้นเอง
ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามทีมงาน Course Square ได้โดยตรงตามที่อยู่ด้านล่างครับ
เว็บไซต์ : https://mine.coursesquare.co/
โทรศัพท์ : 094-052-6052
Line ID : @coursesquare
Email : info@coursesquare.co