Cloud ได้เข้ามามีบทบาทต่อระบบ IT ขององค์กรในหลายๆ ภาคส่วนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยหนึ่งในหัวข้อที่ Cloud ได้กลายเป็นพระเอกไปแล้วก็คือการตอบโจทย์ Business Continuity Management ด้วยบริการ Cloud Disaster Recovery หรือ Cloud DR นั่นเอง ซึ่งทาง EZ-Cloud หนึ่งในบริการ Cloud Disaster Recovery ชั้นนำในประเทศไทย ก็ออกมาให้เหตุผลที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
เพิ่มความเข้ากันได้ของระบบ Production และ DR ด้วยเทคโนโลยี Virtualization
โดยทั่วไปแล้วระบบ Cloud DR นั้นมักจะมีฐานเป็นเทคโนโลยี Virtualization จากหลากหลายค่าย ไม่ว่าจะเป็น VMware, KVM, Xen หรือ Microsoft Hyper-V ซึ่งก็จะรองรับการใช้งานระบบปฏิบัติการหลักๆ ที่องค์กรมักจะใช้งานอยู่แล้วอย่าง Microsoft Windows Server, Red Hat Enterprise Linux หรือระบบปฏิบัติการ Linux/Unix ค่ายอื่นๆ เช่นกัน
ตัวอย่างระบบ Cloud DR ของ EZ-Cloud เองนั้น ก็ได้เลือกใช้ VMware vSphere ด้วยเหตุผลว่าเป็น Hypervisor ที่องค์กรนิยมใช้ที่สุด และมีความสามารถในการทำ DR ร่วมกันระหว่าง vSphere ด้วยกันเองได้หลากหลายวิธีการ รวมถึงมีการใช้ Hardware Platform จาก Nutanix ทำให้องค์กรที่มีการใช้งาน Nutanix อยู่แล้วสามารถทำ DR ได้อย่างง่ายดายขึ้นไปอีก เป็นต้น
ความทนทานของระบบสำรอง ก็มีความสำคัญไม่แพ้กับความทนทานของระบบ Production
การทำ Business Continuity Management จะมีความสมบูรณ์ไม่ได้เลยถ้าหากระบบ Disaster Recovery ที่องค์กรเลือกใช้งานไม่สามารถทำงานทดแทนระบบ Production ได้เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน และหลายครั้งที่หลายองค์กรไม่สามารถตอบโจทย์ของ Business Continuity นี้ได้จริงเพราะบางระบบของ Data Center สำรองไม่สามารถทำงานได้จริง และไม่มีการดูแลรักษา
EZ-Cloud ได้เลือกใช้ Nutanix ซึ่งมีการทำ Redundancy ในแบบ N+1 ร่วมกับ VMware vSphere ที่มีความสามารถในการทำ High Availability หลากหลายรูปแบบ พร้อมมีทีมงานคอยตรวจสอบการทำงานของระบบอยู่เสมอ ทำให้บริการ Cloud DR ของ EZ-Cloud นั้นมีความทนทานที่ทัดเทียมหรือเหนือกว่าระบบ Production ของบางองค์กรด้วยซ้ำ
ลดความเสี่ยงที่การทำ Business Continuity Management จะไม่สำเร็จลง ด้วยความยืดหยุ่นของ Cloud
หลายๆ ครั้งที่การทำ Business Continuity Management นั้นจะเป็นโครงการขนาดใหญ่ และทำการสำรองทุกระบบพร้อมๆ กันในโครงการเดียว ทำให้กลายเป็นโครงการที่มีความยากสูง มีรายละเอียดเยอะ และมีความเสี่ยงที่สูงมากที่โครงการจะล่าช้าหรือล้มเหลว
สิ่งที่ EZ-Cloud สามารถนำเสนอเพื่อแก้ปัญหานี้ได้ก็คือ การใช้ความยืดหยุ่นของ Cloud DR มาทำให้องค์กรต่างๆ สามารถทะยอยทำ Business Continuity ทีละระบบไปเรื่อยๆ จนครบทุกระบบที่องค์กรใช้งานได้ ทำให้มีเวลาในการทำงานในเชิงเทคนิคมากขึ้น และมั่นใจได้ว่าทุกระบบจะถูกสำรองเอาไว้อย่างมั่นคงแน่นอน
ลดค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้นทำ Business Continuity Management ด้วยการจ่ายเงินตามการใช้งานจริง
นอกจากการลดความเสี่ยงที่โครงการจะไม่สำเร็จลงแล้ว ค่าใช้จ่ายในการทะยอยทำ Business Continuity Management ก็จะลดลงไปอีกด้วย เพราะองค์กรไม่จำเป็นต้องลงทุนสร้าง Data Center ขนาดใหญ่มารอเอาไว้แต่แรกอีกต่อไป โดยองค์กรสามารถเช่าใช้ Cloud เท่าที่จำเป็นไปก่อน และเพิ่มเติมในภายหลังได้นั่นเอง
เป็นทางเลือกสำหรับการเริ่มต้นทำ Hybrid Cloud ขององค์กร
เมื่อแนวทางของการพัฒนา Appplication แบบ Cloud-Native กำลังได้รับความนิยม ทางเลือกหนึ่งในการทำ Business Continuity โดยเปลี่ยนจาก Disaster Recovery Site ให้กลายเป็น Production Site อีกสาขาที่ทำงานร่วมกับสาขาหลักได้แบบ Active-Active นั้นก็เป็นอีกแนวทางที่สร้างความคุ้มค่าให้กับองค์กรได้สูงสุด และ EZ-Cloud ก็พร้อมสำหรับการให้บริการ Hybrid Cloud เพื่อตอบโจทย์ขององค์กรในลักษณะนี้ได้ทันที
สำหรับผู้ที่สนใจใช้บริการ Cloud Disaster Recovery หรือ Disaster-Recovery-as-a-Service สามารถเข้าชมเว็บไซต์ของ EZ-CLOUD ได้ที่ https://www.ez-cloud.net/ ทันที หรือโทร (+66) 02-579-9452 ได้เช่นกัน