คาดจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมไอทีตั้งแต่ระดับพื้นฐาน จากเอ็นเทอร์ไพรซ์สู่เอ้าต์ซอร์ส
ในปี 2014 นับว่าเป็นปีแห่งนวัตกรรมที่จะบันทึกเป็นประวัตศาสตร์ด้านเทคโนโลยีที่สำคัญ ทั้งแว่นตาอัจฉริยะและนาฬิกาที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นเทคโนโลยีจากนิยายวิทยาศาสตร์มาโลดแล่นสู่โลกแห่งความจริง
ความสำเร็จเหล่านี้ยิ่งตอกย้ำความกระหายนวัตกรรมให้มากยิ่งขึ้นไปอีก และโลกของเราก็ขึ้นอยู่กับเน็ตเวิร์กที่สนับสนุนเทคโนโลยีเหล่านี้ คุณจักรัตน์ เหลืองธีรภาพ ผู้จัดการ บริษัท โบรเคด ประจำประเทศไทย เปิดเผยถึงกระแสเทคโนโลยีที่เราจะได้พบเห็นในปี 2015 ที่จะถึงนี้ ไว้ดังนี้
1. การเฟื่องฟูของ The New IP
เราอยู่ในแถวหน้าของเน็ตเวิร์กยุคใหม่ เป็นที่ทราบกันดีว่า การเปลี่ยนแปลงของระบบประมวลผลนั้นส่งผลต่อวิวัฒนาการของเน็ตเวิร์ก และอนาคตของไอทีก็ขึ้นอยู่กับโมเดลต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น โมบาย คลาวด์คอมพิมติ้ง และอินเทอร์เน็ตออฟธิงค์ส ซึ่งโมเดลเหล่านี้จะมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนโฉมหน้าของเน็ตเวิร์กครั้งใหญ่ เน็ตเวิร์กแบบดั้งเดิมสร้างด้วยโปรโตคอลระบบเปิดแต่ใช้เฉพาะเว็นเดอร์ และออกแบบสำหรับแอพพลิเคชั่นทั่วๆ ไป เน็ตเวิร์กแบบเดิมนี้จะต้องถูกปรับเปลี่ยนเพื่อให้รองรับกระแสเทคโนโลยีใหม่ ในปี 2015 นี้ โบรเคดคาดว่า เราจะเห็นการเฟื่องฟูของ “The New IP” ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ใหม่ในการเปลี่ยนพื้นฐานความคิดและพื้นฐานของระบบไอพีเน็ตเวิร์กที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยยึดหลักการใช้ระบบเปิดและการปรับลดหรือขยายได้ตามต้องการ สำหรับเน็ตเวิร์กที่ประกอบด้วยฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
2. ระบบเปิดจะช่วยให้ SDN และ NFV ก้าวกระโดดครั้งใหญ่
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เราได้เห็น SDN และ NFV เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นเป็นโครงสร้างเน็ตเวิร์กแห่งอนาคต เราได้เห็นองค์กรจำนวนหนึ่งเริ่มนำเทคโนโลยีนี้มาใช้และสร้างข้อได้เปรียบเหนือคู่แข่งบ้างแล้ว แต่ในปี 2015 เราคาดว่าจะได้เห็นบทบาทของ SDN และ NFV มากยิ่งขึ้น อุตสาหกรรมเน็ตเวิร์กกำลังปรับเปลี่ยนไปยังเทคโนโลยีระบบเปิดและโอเพ่นซอร์สมากขึ้น และดาต้าเซ็นเตอร์จะควบคุมด้วยซอฟต์แวร์ด้วยระบบเวอร์ชวลไลเซชั่นระดับสูง ทั้งในส่วนเวิร์กโหลดและแอพพลิเคชั่น เน็ตเวิร์กแห่งอนาคตจะต้องให้บริการได้หลากหลาย เหมาะสำหรับผู้เช่าหลายราย เพิ่มความเร็วได้ด้วยฮาร์ดแวร์ และควบคุมด้วยซอฟต์แวร์ เทคโนโลยีทั้งสองนี้จะช่วยเพิ่มบทบาทให้มาตรฐานระบบเปิด ในการจัดวางกลยุทธ์โครงสร้างพื้นฐานของเอ็นเทอร์ไพรซ์ให้ตรงตามความต้องการของธุรกิจ ลูกค้าสามารถเลือกโซลูชั่นที่เหมาะกับความต้องการมากที่สุด โดยไม่ต้องคำนึงว่าเว็นเดอร์รายใดเป็นผู้พัฒนา กระแสมาตรฐานระบบเปิดที่แท้จริงและสามารถทำงานร่วมกับเว็นเดอร์รายอื่นๆได้ จะเป็นที่นิยมมากในปี 2015 นี้ เนื่องจากลูกค้ากำลังมองหาตัวเลือกที่ดีที่สุดที่มีความยืดหยุ่น
3. Internet of Things จะเริ่มส่งผลกระทบต่อธุรกิจ
ในปี 2014 ที่ผ่านมา เราได้เห็น Internet of Things หรือ IoT เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง และในปี 2015 นี้เราจะเห็นกระแส IoT นี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ฟรอสต์แอนด์ซัลลิแวนคาดการณ์ว่า ในปี 2015 จะมีการเชื่อมต่อของ M2M อยู่ที่ 116.6 ล้านในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ธุรกิจจะต้องเริ่มปรับเปลี่ยนเพื่อรับมือกับเน็ตเวิร์กที่เชื่อมต่อดีไวซ์ที่มีปริมาณดาต้าเพิ่มขึ้นมากอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีเชื่อมต่อเหล่านี้จะถูกนำมาใช้ในเน็ตเวิร์กขององค์กรหรือเน็ตเวิร์กสาธารณะ เพื่อสร้างการลงทุนในโครงสร้างไอทีที่รองรับการพัฒนาที่จำเป็น ดาต้าทราฟฟิกจะเปลี่ยนไปในรูปแบบไร้โครงสร้างมากยิ่งขึ้น องค์กรอาจต้องการระบบที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นและสามารถควบคุมและจัดการ IoT ได้
4. พื้นที่ทำงานแบบเวอร์ชวลจะเป็นเรื่องจำเป็น
ปัจจุบัน พนักงานมีความต้องการด้านไอทีมากขึ้น ทั้งเรื่องของความคล่องตัวและงบประมาณที่ตั้งไว้สำหรับอนาคตที่คาดการณ์ไว้ บริษัทเองก็กำลังมองหาหนทางเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้และเร่งผลผลิต ดังนั้นในปี 2015 เราจะได้เห็นเน็ตเวิร์กกิ้งระบบเวอร์ชวลมากขึ้น ไอดีซีคาดการณ์ว่า ภายในปี 2015 จะมีผู้ใช้กว่า 838.7 ล้านคนในเอเชียแปซิฟิกที่ทำงานด้วยเทคโนโลยีโมบาย ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น พื้นที่ทำงานแบบเวอร์ชวลจะช่วยให้พนักงานสามารถทำงานในสภาพแวดล้อมไอทีเดิมไม่ว่าจะอยู่ที่ใด หรือใช้ดีไวซ์ใดก็ตาม ทำให้ผู้ใช้มีอิสระและสามารถสร้างผลผลิตสำหรับธุรกิจได้มากขึ้น อย่างไรก็ดี ความคล่องตัวที่เพิ่มขึ้นมานี้ จะทำให้โครงสร้างหลักทำงานหนักขึ้น และบริษัทเองก็ต้องมีเน็ตเวิร์กที่เหมาะสมเพื่อรองรับด้วย
5. การเพิ่มความกดดันแก่ CIO ให้พัฒนานวัตกรรม
บทบาทของซีไอโอเริ่มเปลี่ยนจากการบริหารข้อมูล (information) เป็นบริหารนวัตกรรม (innovation) นอกเหนือจากการดูแลโครงสร้างพื้นฐานไอซีทีแล้ว จะต้องสร้างข้อได้เปรียบทางธุรกิจและสร้างความคล่องตัวให้เซอร์วิสสำหรับองค์กร ซีไอโอจะต้องปรับความคิดเกี่ยวกับโครงสร้างแบบเก่าและพร้อมรับมือสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
เกี่ยวกับโบรเคด
โซลูชั่นเน็ตเวิร์กกิ้งในด้านต่างๆ จากบริษัทโบรเคด (Nasdaq: BRCD) ช่วยให้บริษัทและองค์กรธุรกิจชั้นนำทั่วโลกสามารถก้าวข้ามช่วงเปลี่ยนผ่านอย่างราบรื่นไปสู่ยุคใหม่ที่ทั้งแอพพลิเคชั่นและข้อมูลที่ใช้งานสามารถอยู่ได้ในทุกสถานที่อย่างแท้จริง (www.brocade.com)
###
© 2014 Brocade Communications Systems, Inc. All Rights Reserved.
ADX, Brocade, Brocade Assurance, the B-wing symbol, DCX, Fabric OS, HyperEdge, ICX, MLX, MyBrocade, OpenScript, VCS, VDX, and Vyatta are registered trademarks, and The Effortless Network and The On-Demand Data Center are trademarks of Brocade Communications Systems, Inc., in the United States and/or in other countries. Other brands, products, or service names mentioned may be trademarks of others.