ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์มักออกมาถกประเด็นเรื่อง “Skill Gap” ที่ตลาด IT กำลังเผชิญ รวมไปถึงความท้าทายในการฝึกฝนบุคลากรในองค์กร คำถามคือ แล้วทักษะอะไรที่เป็นที่ต้องการของตลาดมากที่สุด? ความสามารถด้านใดที่จำเป็นต่อการเติบโตในสายอาชีพด้าน Cybersecurity? พบกับคำตอบเหล่านี้ได้ในบทสัมภาษณ์พิเศษของ Owanate Bestman ผู้ก่อตั้ง Bestman Solutions บริษัทจัดหางานเฉพาะด้าน Security จากสหราชอาณาจักร ภายในงาน Black Hat Asia 2021
1. แนวโน้มสายงานด้าน Cybersecurity ในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 เป็นอย่างไร?
Bestman: แน่นอนว่ามีผลกระทบ COVID-19 เป็นปัจจัยที่ทำให้หลายๆ องค์กรเร่งทำ Digital Transformation และที่สำคัญคือ COVID-19 เน้นย้ำให้เราตระหนักว่างานด้าน IT และ Cybersecurity มีความสำคัญต่อธุรกิจเพียงใด แม้ตลาดงานจะแตกต่างกันไปตามแต่ละอุตสาหกรรม แต่ทุกอุตสาหกรรมต่างต้องการคนสาย Cybersecurity ทั้งสิ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรม FinTech ที่ต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านนี้เป็นพิเศษ นอกจากนี้ เรายังพบว่า ในช่วง COVID-19 สายงานด้าน IT มีงานที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น แต่องค์กรกลับลังเลที่จะจ้างคนเพิ่ม ซึ่งแนวโน้มแบบนี้ยังคงเกิดต่อเนื่องมาเรื่อยๆ ทั้งโลกจนถึงช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา
2. ในช่วง COVID-19 นี้ ทักษะที่จำเป็นหรือเป็นที่ต้องการของธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือไม่?
Bestman: เป็นที่รู้กันดีว่าความต้องการของตลาดเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ในยุค Digital Transformation เห็นได้ชัดเลยว่าทักษะบางอย่าง เช่น Application Security และ DevSecOps เป็นที่ต้องการอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วง 18 – 24 เดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้ DevSecOps เป็นที่ต้องการมากกว่านั้น เนื่องมาจากหลายๆ ปัจจัย ทั้ง Security by Design, ความต้องการทักษะด้านซอฟต์แวร์, ความเสี่ยงการใช้งาน Vendors หรือช่องโหว่ของ 3rd Parties ที่มีมากขึ้น ธุรกิจองค์กรจึงต้องการคนที่สามารถมาดู Policies และตรวจสอบ 3rd Parties ที่องค์กรกำลังทำงานด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ GDPR ถูกบังคับใช้ ทำให้เราไม่สามารถโยนความรับผิดชอบให้ 3rd Parties แต่เพียงผู้เดียวได้อีกต่อไป นอกจากนี้ เรื่อง Due Diligence เองก็เป็นสิ่งสำคัญ
3. ใบรับรองด้านใดที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในขณะนี้ ยังเป็น CISSP อยู่ หรือเปลี่ยนไปแล้ว?
Bestman: ผมยังมองว่า CISSP ยังคงเป็นตัวพ่อของใบรับรองในวงการนี้ แม้สถานการณ์ COVID-19 ทำให้ความต้องการเรื่องใบรับรองเปลี่ยนแปลงไป แต่ใบรับรองด้าน Cybersecurity ยังคงเป็นอะไรที่ได้ใช้กันยาวๆ อยู่ดี สาเหตุที่ทำให้ความต้องการเปลี่ยนแปลงไป คือ ช่วง COVID-19 คนมีเวลาเพิ่มพูนทักษะของตนเองและสอบเอาใบรับรองเป็นจำนวนมาก และเมื่อองค์กรทำ Digital Transformation มากขึ้น คนส่วนใหญ่เลยมุ่งไปที่ใบรับรองด้าน Cloud กัน บางส่วนก็เลือกใบรับรองยอดนิยมของ AWS, Microsoft และ Google บางส่วนก็เลือกสอบใบรับรองที่เป็นกลางอย่าง CCSP และ CCSK ที่เน้นเรื่องความมั่นคงปลอดภัยและใช้ได้กับทุก Cloud Platform เหล่านี้เพิ่มโอกาสให้องค์กรในการเลือกคนเข้ามานอกจาก CISSP ที่เป็นใบรับรองพื้นฐาน จงจำไว้ว่า แต่ละบริษัทมีความต้องการที่แตกต่างกัน อย่าใช้ CV/Resume เดียวกันในการยื่น แต่ปรับให้เข้ากับความต้องการของแต่ละบริษัท
4. ตอนนี้ถือเป็นจังหวะที่ดีสำหรับการย้ายงานหรือเปลี่ยนตำแหน่งหรือไม่ หรือควรรอให้สถานการณ์ COVID-19 ซาลง
Bestman: ผมคิดว่าเป็นจังหวะเวลาดีที่จะหางานใหม่นะ COVID-19 สร้างความลำบากให้หลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการโรงแรมและสายการกิน แต่ก็มีหลายอุตสาหกรรมที่ยังคงเติบโต เช่น FinTech หรือผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์ เนื่องจากผู้คนเลี่ยงสัมผัสเงินสดและหันไปจ่ายเงินแบบออนไลน์แทน ในช่วง 12 – 18 เดือนที่ผ่านมายิ่งเห็นได้ชัดว่ามีผู้ใช้บริการออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้บริษัทเหล่านี้หันมาลงทุนด้าน Cybersecurity มากขึ้นตาม
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าจะเป็นผลพวงจาก COVID-19 คือ มีการลงทุนในธุรกิจด้าน Security Software อย่างหนัก ซึ่งทำให้นักลงทุนเหล่านั้นสามารถจัดหาระบบที่เป็น Security by Design และบุคลากรที่เก่งด้าน Cybersecurity และ Governance มาได้ก่อนที่พวกเขาจะไปสมัครงานตามเส้นทางปกติ
ดังนั้น ตอนนี้จึงเป็นจังหวะที่ดีที่จะลองสังเกตรอบตัวดูว่า HR ในปัจจุบันต้องการคนแบบไหน และตลาดกำลังไปในทิศทางใด มีหลายธุรกิจที่รับมือกับ COVID-19 ได้ดี เช่น ภาคธนาคาร ธุรกิจประกัน อุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งธุรกิจเหล่านี้กำลังเปิดกว้างสำหรับตำแหน่งงานด้าน Cybersecurity ใหม่ๆ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่พบว่าเริ่มตกเป็นเป้าโจมตีของอาชญากรไซเบอร์มากขึ้น ทั้งมาเลเซียและฟิลิปปินส์เองก็มีการลงทุนหลายหมื่นล้านบาทให้กับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยแห่งชาติในอีกหลายปีถัดจากนี้ แสดงให้เห็นว่าเรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่ Cybersecurity มีความสำคัญอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
5. แนวโน้มการจ้างงาน จากเดิมที่เคยสัมภาษณ์ต่อหน้า เปลี่ยนไปเป็นแบบออนไลน์ มีประเด็นใดที่น่าสนใจไหม?
Bestman: ธุรกิจในปัจจุบันทำงานแบบรีโมตกันมากขึ้น การจ้างงานและสัมภาษณ์สามารถทำได้แบบออนไลน์ ช่วยเปิดโอกาสให้บริษัทสามารถหาคนจากภูมิภาคต่างๆ ได้ง่ายมากขึ้น ทลายข้อจำกัดเรื่องต้องรับคนที่เฉพาะที่อยู่บริเวณใกล้ๆ ออกไป รวมไปถึงช่วยทลายข้อจำกัดเรื่องเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ค่านิยม ทำให้บริษัทได้คนหลากหลายประเภท หลากหลายแนวคิดมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การสัมภาษณ์และเริ่มต้นทำงานแบบรีโมตยังทำให้ผู้ถูกสัมภาษณ์รู้สึกผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่อยู่อาศัยหรือเวลาการทำงานที่มีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น
6. ความสามารถหรือใบรับรองใดที่ช่วยให้เราก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ยกฐานเงินเดือน หรือเพิ่มชื่อเสียงให้กับตัวเอง
Bestman: อย่างแรกที่เราควรรู้ คือ ใบรับรองมาหลังเรื่องความสามารถ เราต้องวางแผนก่อนว่า เราต้องการจะไปในทิศทางไหน ถ้าเราต้องการเปลี่ยนงานที่จะทำไปยังธุรกิจอื่น ก็ต้องเตรียมเลือกธุรกิจที่สนใจจะทำมาสัก 2 – 3 ธุรกิจก่อน แล้วมาดูว่า อะไรคือกุญสำคัญที่บริษัทในธุรกิจนั้นๆ กำลังมองหา เช่น บริษัทด้านพลังงาน เราก็ควรต้องมีความรู้และใบรับรองเกี่ยวกับ Industrial Control หรือถ้าเป็นบริษัท FinTech เราก็อาจต้องหาประสบการณ์ด้าน Software Development Lifecycle เป็นต้น จากนั้นค่อยไปสอบเอาใบรับรองมาการันตีความสามารถ แต่ถ้าเราไม่ได้สนใจเรื่องธุรกิจที่จะไป ก็ให้เลือกก่อนว่า สายงานไหนที่เราจะก้าวไปต่อ
อีกอย่างที่สำคัญคือ Linkedin และ Networking ยิ่งเราเข้าสังคมบ่อย รู้จักคนเยอะ ย่อมมีโอกาส มีทางเลือกมากขึ้นตาม พยายามทำตัวให้คนมองเห็น ให้คนอื่นรู้ว่าเรามีตัวตน จดจำเราได้ เหล่านี้สำหรับการก้าวหน้าในหน้าที่การงานแล้ว สำคัญไม่แพ้ความรู้เชิงเทคนิคเลย
7. มาถึงตอนนี้แล้ว สมมติว่าเรามีทักษะ ความรู้ และความสามารถเพียงพอแล้ว ถ้าเราต้องการหางานด้าน Cybersecurity ควรเริ่มต้นอย่างไร มีที่ไหนบ้างที่ HR จะเข้าคัดเลือกคนเข้าบริษัท และเราจะรู้ได้อย่างไรว่ามีตำแหน่งงานใดว่างให้ยื่นได้บ้าง
Bestman: ง่ายที่สุดคงเป็น Linkedin ซึ่งเป็นที่ที่พวก HR หรือ Head Hunter เข้าไปส่องดูหรือประกาศรับคนเพิ่มเป็นประจำอยู่แล้ว และเราสามารถตั้งได้ด้วยว่า จะให้แจ้งเตือนเมื่อพบตำแหน่งงานที่ต้องการหรือไม่ ที่สำคัญคือ เราควรใช้เส้นสายที่มีอยู่ เชื่อมต่อโดยตรงกับ HR ของบริษัทไปเลย ซึ่งดีกว่าไปอัปโหลด CV/Resume ไว้บนพวกเว็บหางานที่เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าข้อมูลของเราจะไปถึงบริษัทนั้นๆ หรือไม่ แถมการติดต่อโดยตรงหรือผ่านคนรู้จักมักจะได้เครดิต และได้รับความสำคัญมากกว่าการติดต่อผ่านเว็บหางานอีกด้วย สุดท้าย ต้องไม่ลืมว่าเราไม่สามารถยัดข้อมูลทุกอย่างลง CV/Resume ได้ ให้แยกทำ CV/Resume หลายๆ เวอร์ชัน สำหรับยื่นสมัครงานประเภทต่างๆ จะทำให้เราใส่ข้อมูลสำหรับงานประเภทนั้นๆ ได้อย่างเต็มที่ และอย่าลืมใส่คีย์เวิร์ดให้ครบ เผื่อต้องถูกค้นหาผ่านระบบคอมพิวเตอร์จะได้หาเจอ