ที่ผ่านมา Point of Presence หรือ PoP ที่อยู่ใกล้ไทยคือสิงคโปร์และมาเลย์เซีย แต่วันนี้ AWS ได้ทำการแถลงข่าวเปิดตัว PoP ในประเทศไทยแล้ว โดยสาเหตุหลักคือการที่ประเทศไทยมีธุรกิจจำนวนมากที่ใช้บริการของ AWS ทาง AWS จึงเล็งเห็นว่าการลงทุนในครั้งนี้จะช่วยให้ลูกค้าของ AWS สามารถใช้งานระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และสร้าง Customer Experience ให้กับลูกค้าของแต่ละธุรกิจได้ดียิ่งขึ้นด้วย

การมี PoP ในไทยนี้จะทำให้ประสบการณ์การเชื่อมต่อระบบต่างๆ ผ่าน Edge Location ในประเทศไทย ทำให้ประสิทธิภาพการเชื่อมต่อดียิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อผู้ใช้งานทำการเรียกใช้บริการใดๆ ที่ต้องมีการผ่าน PoP ระบบจะทำการนำข้อมูลจาก Cache ภายในประเทศมาให้บริการก่อน ซึ่งถ้าไม่มีข้อมูลในส่วนนั้นก็จะทำการเรียกไปยัง Cache บน Regional Edge Location แทน และถ้ายังไม่พบ จึงค่อยเรียกข้อมูลจากระบบบน AWS Region อื่นๆ หรือจาก On-Premises Data Center ขององค์กรได้เช่นกัน รองรับการทำ Hybrid Cloud ได้เป็นอย่างดี
ภายใน Edge Location นี้จะมีบริการ Edge Services ให้พร้อมใช้งาน ได้แก่
- Amazon CloudFront (CDN)
- AWS Shield Advanced Managed DDoS Protection
- AWS WAF Web Application Firewall
- Amazon Route 53 Domain Name System
- AWS Global Accelerator User-2-User (U2U) Data Transporter
ปัจจุบันมี 220+ PoP ทั่วโลก 45 ประเทศ และเริ่มมีลูกค้าในไทยได้ใช้บริการนี้แล้ว เช่น BBTV ที่ต้องมีการให้บริการ Content ปริมาณมากแก่ผู้ชม, Pomelo ที่ต้องทำการนำเสนอ Personalized Experience แก่ลูกค้าบนระบบ E-Commerce รวมถึง True IDC ที่เป็นพันธมิตรซึ่งสามารถนำเสนอบริการที่ดียิ่งกว่าเดิมให้แก่ลูกค้าได้
สำหรับปีนี้ AWS เองก็เห็นแนวโน้มของการเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของธุรกิจ Retail และเห็นว่าการส่งมอบ Customer Experience ที่ดีจะส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจโดยตรง ดังนั้นการเปิด Edge Location ในไทยนี้จึงถือเป็นสิ่งที่จะช่วยให้ธุรกิจไทยทำ Digital Transformation ได้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น โดยเมื่อ AWS ได้ทำการทดสอบระบบจนพร้อมแล้ว จึงทำการเปิดตัวบริการในวันนี้อย่างเป็นทางการ และบริการนี้ก็พร้อมใช้งานได้ทันที
ผู้ที่สนใจรายนละเอียดเพิ่มเติมสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ที่ https://aws.amazon.com/about-aws/whats-new/2020/11/cloudfront-thailand/