บริษัทด้านการบิน ใช้ระบบโครงสร้างที่ได้รับการพิสูจน์ พร้อมบริการอันโดดเด่นของ AWS ทั้งในแนวกว้างและในเชิงลึก เพื่อออกแบบและผลิตเครื่องบินพาณิชย์ที่เร็วที่สุด และยั่งยืนที่สุดในโลก
อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (AWS) บริษัทในเครือ Amazon.com เปิดเผยว่า Boom Technology, Inc (บูม ซุปเปอร์โซนิค) บริษัทการบินซึ่งมีฐานอยู่ที่เมืองเดนเวอร์ กำลังนำเที่ยวบินที่บินด้วยความเร็วเหนือเสียง เหิรคืนสู่น่านฟ้าอีกครั้ง โดยใช้ระบบและบริการของ AWS อย่างเต็มรูปแบบ บูม ซุปเปอร์โซนิค ได้นำระบบคลาวด์ชั้นนำของโลกมาเป็นขุมพลังการประมวลผลแบบเวอร์ชวลที่ไร้ขีดจำกัด รวมถึงสตอเรจ ระบบรักษาความปลอดภัย และบริการที่ครบวงจรทั้งเซ็ต ที่จะนำมาช่วยปรับรูปโฉมใหม่ให้กับการบินโดยสารเชิงพาณิชย์ด้วยความเร็วเหนือเสียง โดยบริษัทกำลังออกแบบสายการบินที่ให้ความเร็วเหนือเสียงเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ ในชื่อ Overture ซึ่งจะเปิดตัวในปี 2025 และจะบินสู่เส้นทางข้ามมหาสมุทรกว่า 500 เส้นทางโดยใช้เวลาเพียงครึ่งเดียวของการบินปกติ ตัวอย่างเช่น Overture จะนำพาผู้โดยสารโตเกียวไปยังซีแอตเทิล ได้ภายในเวลาเพียงสี่ชั่วโมงครึ่ง ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นแนวคิด บูม ได้นำการบริการต่างๆ ที่โดดเด่นของ AWS มาช่วยเร่งการออกแบบและก่อสร้างเครื่องบิน รวมถึง XB-1 ซึ่งเป็นเครื่องบินทดสอบสำหรับ Overture และเป็นเครื่องบินความเร็วเหนือเสียงที่พัฒนาขึ้นโดยอิสระลำแรกของโลก ซึ่ง บูม ได้เปิดเผยไปเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2563
อากาศยานความเร็วเหนือเสียง หรือ Supersonic ต้องอาศัยการผสมผสานที่แม่นยำระหว่างประสิทธิภาพ และความเสถียรด้านโครงสร้าง รวมถึงความปลอดภัย ทำให้การออกแบบต้องใช้ทรัพยากรมากและใช้เวลานาน ด้วยระบบโครงสร้างแบบ on-premises จึงทำให้ทีมงานต้องบริหารจัดการคิวการออกแบบจำนวนมากที่ต้องมีการทำซ้ำทีละรายการไปเรื่อยๆ เพื่อหาจุดสมดุล อย่างไรก็ตาม การที่สามารถเข้าถึงทรัพยากร AWS HPC แบบเวอร์ชวลได้อย่างไม่มีขีดจำกัด ทำให้ บูม สามารถรันแบบจำลองทางคอมพิวเตอร์ที่ล้ำหน้าพร้อมๆ กันนับหลายพันรายการ ทั้งเร็วกว่าและประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าที่เคยทำได้ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ประสิทธิผลเพิ่มขึ้น 6 เท่าโดยประเมินเทียบกับการรันแบบจำลองเหล่านี้ในสภาพแวดล้อม on-premises และเพื่อขัดเกลาการออกแบบให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงทดสอบภาวะวิกฤตและจำลองเงื่อนไขการบินสำหรับ XB-1 บูมได้ใช้ชั่วโมงการประมวลผลบน AWS มากกว่า 53 ล้านชั่วโมง อีกทั้งคาดหวังว่าจะขยายการประมวลผลให้มากกว่า 100 ล้านชั่วโมง เพื่อให้การออกแบบและการทดสอบสายการบิน Overture สำเร็จเสร็จสิ้น
การใช้ AWS อย่างเต็มรูปแบบ ทำให้ บูม สามารถใช้ระบบโครงสร้างระดับโลก พร้อมสายผลิตภัณฑ์การบริการที่โดดเด่นของ AWS มาสร้างเครื่องบินที่ตอบโจทย์เรื่องความปลอดภัยและดำเนินการได้สอดคล้องตามกฏระเบียบในขณะที่ดำเนินการบนฐานของการมุ่งเน้นที่ความยั่งยืน บูม วางแผนใช้บริการ AWS รวมถึงความสามารถด้าน IoT แมชชีนเลิร์นนิ่ง การประมวลผล สตอเรจ การรักษาความปลอดภัย ระบบริหารจัดการฐานข้อมูล และระบบวิเคราะห์เพื่อสร้างอากาศยานที่เร็วกว่าเสียง รองรับได้ 65-85 ที่นั่ง พร้อมปฏิรูปประสบการณ์ด้านการบินสำหรับผู้โดยสาร นอกจากนี้ ข้อมูลการออกแบบและทดสอบ XB-1 ที่มีศูนย์กลางสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 525 เทระไบต์ของบูม จะถูกจัดเก็บอยู่บน AWS ควบคู่ไปกับแอปพลิเคชันไอทีหลักๆ ซึ่งจะช่วยให้การดำเนินการของบริษัทมีความคล่องตัว เพื่อจะได้ไปมุ่งเน้นอย่างเต็มที่เรื่องนวัตกรรม นอกจากนี้ บูมยังวางแผนในการสร้าง data lake สำหรับการดำเนินการด้านการผลิตบน Amazon Simple Storage Service (Amazon S3) และใช้บริการ AWS IoT รวมถึง AWS IoT Core (บริการคลาวด์ที่ช่วยให้อุปกรณ์ต่อเชื่อมสามารถสื่อสารโต้ตอบกับแอปพลิเคชันและอุปกรณ์อื่นๆ ได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย) เพื่อรวบรวมและประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้จากอุปกรณ์ด้านการผลิต การใช้ระบบวิเคราะห์และบริการแมชชีนเลิร์นนิ่งของ AWS ยังช่วยให้บูมมีข้อมูลเชิงลึกในเรื่องกระบวนการผลิตเพื่อนำข้อมูลมาช่วยในการตัดสินใจในอนาคต ปรับปรุงเวิร์กโฟลว์ได้คล่องตัว อีกทั้งช่วยปรับปรุงเรื่องการควบคุมคุณภาพ
นอกจากการพัฒนาเรื่องการออกแบบเครื่องบินที่ล้ำหน้า ด้วยคำมั่นสัญญาในการเป็นนวัตกรรมสำคัญถัดไปเรื่องการโดยสารอากาศยานความเร็วสูงนับตั้งแต่ที่มีการเปิดตัวเครื่องบินเจ็ตนานกว่า 60 ปีมาแล้ว บูมยังได้วางแผนให้ Overture เป็นสายการบินที่มุ่งเน้นผู้โดยสารเป็นศูนย์กลางมากที่สุดในโลก ด้วยการมอบเรื่องของความสะดวกสบายสูงสุดให้กับผู้โดยสาร ให้ทั้งความสงบและประสิทธิผลที่ดี ซึ่งในการสนับสนุนการพัฒนาดังกล่าว บูมได้ศึกษาเรื่องวิธีการนำ AWS IoT และโซลูชันแมชชีนเลิร์นนิ่งมาใช้ภายในห้องโดยสารของ Overture เพื่อให้เห็นภาพประสบการณ์ในการโดยสารทั้งในส่วนของผู้โดยสารและลูกเรือ โดยมอบวิธีการสื่อสารอย่างเป็นส่วนตัวกับผู้โดยสาร พร้อมนำเสนอระบบความบันเทิงบนเครื่อง และสร้างอุปกรณ์ wearables สำหรับสมาชิกที่เป็นลูกเรือ พร้อมปรับปรุงประสิทธิภาพในการออกเดินทางได้ตรงเวลาด้วยการใช้ข้อมูลจากอุปกรณ์และเช็คจำนวนผู้โดยสารบนเครื่องได้ในแบบไลฟ์
“บูม มุ่งมั่นในการทำให้เที่ยวบินซุปเปอร์โซนิค เป็นเที่ยวบินหลัก ด้วยการปรับปรุงเรื่องเทคโนโลยี ความยั่งยืน และประสบการณ์ของผู้โดยสาร ในขณะที่เราสร้างสายการบินที่ให้ความเร็วเหนือเสียงเป็นครั้งแรก ในยุคใหม่ของการโดยสาร AWS ซึ่งเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำของโลก ก็จะช่วยเราขัดเกลาเรื่องการออกแบบให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจริงจัง เพื่อที่เราจะสามารถมอบประสบการณ์ด้านการบินที่เหนือชั้นให้กับผู้โดยสารการบินทั่วไปได้” เบลก สโคลล์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ บูม ซุปเปอร์โซนิค กล่าว “ทั้งระบบโครงสร้างที่ผ่านการพิสูจน์ รวมถึงสายผลิตภัณฑ์ด้านการบริการของ AWS ที่เหนือชั้น ช่วยให้เราสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในการโดยสารทางอากาศ”
“บูม กำลังนำแนวทางคลาวด์ มาสู่การสร้างนวัตกรรมพร้อมนำประสิทธิภาพของ AWS ทั้งในแนวกว้างและในเชิงลึกมาช่วยพลิกโฉมการโดยสารทางอากาศด้วยเครื่องบินพาณิชย์ความเร็วเหนือเสียง” เทเรซ่า คาร์ลสัน รองประธานฝ่าย Worldwide Public Sector and Regulated Industries อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส กล่าว “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมมือกับบูมในการนำคลาวด์มาช่วยในการเปิดตัวการโดยสารแห่งยุคถัดไป การใช้ระบบ AWS อย่างครบวงจรช่วยให้ บูม สามารถคิดค้นนวัตกรรมได้อย่างไร้ขอบเขตและรวดเร็วกว่าที่เคยทำได้ เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงโลกได้มากขึ้น”
เกี่ยวกับ อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส
เป็นเวลากว่า 14 ปีแล้ว ที่ อะเมซอน เว็บ เซอร์วิส ถือเป็นแพลตฟอร์มที่สมบูรณ์และมีการใช้งานแพร่หลายมากที่สุดในโลก เนื่องจาก AWS มอบกว่า 175 บริการที่ให้คุณลักษณะการทำงานที่สมบูรณ์ที่สุด สำหรับการประมวลผล สตอเรจ ฐานข้อมูล การเชื่อมต่อเครือข่าย การวิเคราะห์ แมชชีน เลิร์นนิ่ง และปัญญาประดิษฐ์ (AI) อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (IoT) โมบาย การรักษาความปลอดภัย ระบบไฮบริด เทคโนโลยี VR (virtual) และ AR (augmented reality) มีเดีย และการพัฒนาแอปพลิเคชัน โดยมีการนำมาใช้งาน และบริหารจัดการ จาก 77 Availability Zones (AZs) ใน 24 ภูมิภาค (geographic regions) พร้อมประกาศแผนสำหรับเปิด Availability Zones (AZs) ใหม่มากกว่า 18 แห่ง และ AWS Regions เพิ่มขึ้น 6แห่งใน ออสเตรเลีย อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น สเปน และสวิสเซอร์แลนด์ ทั้งนี้ บริการของ AWS ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลกในการนำไปใช้งานอย่างจริงจังนับหลายล้านรายด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นบรรดาองค์กรสตาร์ทอัพ องค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ และหน่วยงานรัฐบาลชั้นนำ เพื่อเพิ่มขุมพลังให้กับระบบโครงสร้างพื้นฐาน ให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น และช่วยลดค่าใช้จ่าย รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AWS สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://aws.amazon.com
เกี่ยวกับอะเมซอน
อะเมซอน ยึดหลักการสำคัญ 4 ประการในการดำเนินธุรกิจ ได้แก่ ใส่ใจในลูกค้ามากกว่ามุ่งเน้นที่คู่แข่ง หลงใหลในเรื่องของการสร้างนวัตกรรม มุ่งมั่นในความเป็นเลิศด้านการดำเนินงาน และคิดยาวไกล โดยลูกค้าให้การรีวิวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การช้อปปิ้งได้ภายใน 1 คลิก, ให้คำแนะนำที่ตรงต่อความต้องการส่วนตัว, Prime, Fulfillment by Amazon, AWS, Kindle Direct Publishing, Kindle, แท็ปเล็ต Fire, Fire TV, Amazon Echo และ Alexa เหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์และการบริการที่คิดค้นโดย Amazon รายละเอียดเพิ่มเติม ดูเพิ่มเติมได้ที่ www.amazon.com/about และติดตามได้ที่ @AmazonNews
เกี่ยวกับบูม ซุปเปอร์โซนิค
บูม ซุปเปอร์โซนิค สร้างนิยามใหม่ของเที่ยวบินเชิงพาณิชย์ด้วยการนำเที่ยวบินที่ให้ความเร็วเหนือเสียงเหิรคืนสู่น่านฟ้าอีกครั้ง ในชื่อ Overture สายการบินพาณิชย์แห่งประวัติศาสตร์นี้ได้รับการออกแบบและยึดมั่นในมาตรฐานอุตสาหกรรมในระดับชั้นนำทั้งความเร็ว ความปลอดภัยและความยั่งยืน บูม มีวิสัยทัศน์ในการนำทั้งครอบครัว ธุรกิจ และวัฒนธรรมต่างๆ ให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้นผ่านการเดินทางด้วยความเร็วเหนือเสียง และทำให้โลกสามารถเข้าถึงกันได้อย่างมากขึ้น บูมเป็นผู้ผลิตเครื่องบินเชิงพาณิชย์รายแรกที่เข้าร่วมโครงการทดสอบเที่ยวบินที่ไม่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ (carbon-neutral) และสร้างความยั่งยืนให้กับโครงการด้านอากาศยานทั้งหมด XB-1 เครื่องบินสาธิตซุปเปอร์โซนิคของบูมสำหรับ Overture ได้รับการเปิดตัวในปี 2020 และได้รับการเตรียมพร้อมสำหรับเที่ยวบินแรกในปี 2021 ทั้งนี้ บริษัทได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนระดับโลกและการสั่งจองเครื่องบินล่วงหน้า 30 ลำ บูมก่อตั้งขึ้นในปี 2014 มีพนักงานมากกว่า 150 คนที่มีส่วนร่วมในโครงการทางอากาศและยานอวกาศกว่า 220 รายการ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://boomsupersonic.com