เร่ิมต้นตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม ที่นโยบายความเป็นส่วนบุคคลใหม่ของ AVG บริษัทแอนตี้ไวรัสชื่อดังจะเริ่มใช้งาน โดยเนื้อหาหลัก คือ AVG จะเริ่มการขายข้อมูลการเล่นเว็บไซต์และการค้นหาของผู้ใช้ให้แก่บริษัทโฆษณาออนไลน์
ขายข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ การค้นหา และแอพพลิเคชัน
AVG ขายข้อมูลให้แก่บริษัทโฆษณาและ 3rd Party เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินต่อไปได้ เนื่องจากทางบริษัทต้องการนำเสนอโซลูชันแอนตี้ไวรัสฟรีให้แก่ผู้ใช้ทั่วโลกโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ โดยข้อมูลที่ทางบริษัทจะขาย ได้แก่
- ID โฆษณาที่เชื่อมโยงกับอุปกรณ์ของผู้ใช้
- ข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์และการค้นหา รวมไปถึง Metadata
- ข้อมูลเกี่ยวกับ ISP และโอเปอเรเตอร์มือถือที่ผู้ใช้ใช้ในการเชื่อมต่อกับผลิตภัณฑ์ของ AVG
- ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับแอพพลิเคชันอื่น ที่ผู้ใช้มีอยู่บนอุปกรณ์
“เราจะไม่ขายข้อมูลใดๆที่เกี่ยวข้องกับตัวบุคคลของผู้ใช้ให้แก่ใครก็ตาม รวมไปถึงบริษัทโฆษณาด้วย พวกเราอาจจะแชร์ข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวบุคคลให้แก่ 3rd Party และเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ระบุตัวตนแก่สาธารณะ” — AVG ระบุ
ไม่ขายข้อมูลที่มีการระบุตัวตนผู้ใช้โดยเด็ดขาย
ถึงแม้ว่า AVG จะขายข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าถึงเว็บไซต์และการค้นหาต่างๆ แต่ในนโยบายความเป็นส่วนบุคคลฉบับใหม่มีระบุว่า “บางครั้งข้อมูลการเข้าถึงเว็บไซต์และการค้นหาในอดีตอาจประกอบด้วยข้อมูลที่ระบุถึงตัวตนของผู้ใช้ ถ้าทางเราทราบว่าข้อมูลนั้นระบุถึงตัวตนของคุณ เราจะถือว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลส่วนบุคคล และจัดการทำให้ข้อมูลนั้นไม่ระบุถึงตัวตนของคุณ”
“เราอาจจะรวบรวม และ/หรือ จัดการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้กลายเป็นข้อมูลที่ไม่ระบุตัวตน ยกตัวอย่างเช่น ถึงแม้ว่าเราจะพิจารณาว่า ข้อมูลตำแหน่งของคุณเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกจัดเก็บแยกไว้ต่างหาก แต่ถ้าเรารวมข้อมูลตำแหน่งของหลายๆคนเข้าด้วยกัน เพื่อระบุจำนวนผู้ใช้ทั้งหมดในตำแหน่งดังกล่าว เราจะไม่ถือว่าการรวมข้อมูลเหล่านี้เข้าด้วยกันเป็นข้อมูลส่วนบุคคลแต่อย่างใด” — AVG ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนบุคคลฉบับใหม่
AVG แนะนำให้ผู้ใช้งานอ่านรายละเอียดของนโยบายความเป็นส่วนบุคคลฉบับใหม่ให้รอบคอบ ก่อนตัดสินใจที่จะยอมรับหรือปฏิเสธการใช้งาน ซึ่งข้อมูลของผู้ใช้จะไม่ถูกเก็บจนกว่าจะถึงวันที่ 15 ตุลาคม