เมื่อวันศุกร์ที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา AIS เปิดโลก 5G ให้คนไทยได้สัมผัสประสบการณ์ชีวิตยุค 5G เต็มรูปแบบอีกครั้ง ตอกย้ำการเป็นผู้นำนวัตกรรม 5G รายแรกและรายเดียวของไทยที่ทดลองทดสอบ 5G ครบทุกภาคแล้วทั่วประเทศ โดยจับมือกับสามย่านมิตรทาวน์ ศูนย์การค้าแห่งนวัตกรรมและการเรียนรู้ของคนรุ่นใหม่ เนรมิตรลานกิจกรรมชั้น G สามย่านมิตรทาวน์ ให้กลายเป็นพื้นที่โลกแห่งอนาคต ด้วยการขนทัพนวัตกรรม 5G สุดล้ำอาทิ 5G Hologram, 5G Remote Control Vehicle, 5G Connected Drones, 5G Robotics และ 5G Video Call มาให้คนไทยได้สัมผัสประสบการณ์การใช้ชีวิตในยุคอนาคตได้จริงแล้ววันนี้

คุณวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศของ AIS กล่าวว่า “เทคโนโลยีที่กำลังจะเกิดขึ้นในโลกอนาคตที่ทั่วโลกและชาวไทยกำลังจับตามอง คือ เทคโนโลยี 5G เพราะเชื่อว่า 5G คือ เทคโนโลยีที่จะเข้ามาพลิกโฉมสังคมไทย และยกระดับขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรมไปอีกขั้น ตลอดจนอำนวยความสะดวกด้านการสื่อสารให้กับผู้ใช้บริการโดยทั่วไป”
นอกจากนี้ยังเสริมว่า “AIS ในฐานะ Digital Life Service Provider นอกเหนือจากภารกิจในการมุ่งพัฒนาเครือข่าย และการต่อยอดนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อมอบการบริการที่ดีให้กับคนไทยทุกเจเนอเรชันมาอย่างต่อเนื่องแล้ว เรายังได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีแบบครบวงจร รวมถึงร่วมกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลกและมหาวิทยาลัยทั่วทุกภูมิภาคทดสอบเทคโนโลยี 5G กับ Use Cases มากมาย ที่จะเป็นประโยชน์กับภาคอุตสาหกรรม, ภาคการเกษตร, ภาคการศึกษา, วงการแพทย์, ภาคอุตสาหกรรมบันเทิงและแฟชั่น เพื่อให้คนไทย ผู้ประกอบการ และผู้เกี่ยวข้องใน 5G Ecosystem ได้เห็นประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G และสามารถนำไปปฏิรูปการทำงานในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ“
“ในวันนี้เราตั้งใจให้งานนี้เป็น Destination คือจุดหมายที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนที่จะเข้ามาเรียนรู้และทดลองใช้งาน 5G ในสภาพแวดล้อมจริง ที่ตอบโจทย์ทุกความสนใจ ไม่ว่าจะเป็น ประสบการณ์ด้านความบันเทิง กีฬา ระบบเมืองและการขนส่งยุคอนาคต รวมถึงเทคโนโลยีหุ่นยนต์ต่างๆ ที่จะเข้ามาพลิกโฉมรูปแบบการใช้ชีวิตของคนไทย และปฏิรูประบบการทำงานต่างๆ ในอนาคต เพื่อก้าวสู่ยุค 5G อย่างแข็งแกร่งและมีศักยภาพทัดเทียมนานาประเทศ“–คุณวสิษฐ์กล่าวปิดท้าย
นวัตกรรม 5G ที่เอไอเอส นำมาจัดแสดงในงาน “AIS 5G ที่ 1 ตัวจริง ทดสอบแล้วทั่วไทย” อาทิ
1) 5G Remote Control Vehicle

AIS ได้ร่วมกับมือกับ สถาบันวิจัยและนวัตกรรมดิจิทัล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ แสดงศักยภาพของเครือข่าย 5G ที่มีความเร็วสูง, ความหน่วงต่ำ และตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ควบคุมรถไม่จำเป็นต้องอยู่ในตัวรถ แต่สามารถบังคับรถให้เคลื่อนที่ไปยังพื้นที่ต่างๆ ได้ตามต้องการ โดยครั้งนี้หนุ่มแบมแบมก็ได้สาธิตการบังคับรถยนต์ไร้คนขับจากการสั่งงานระยะไกลให้ดูกันสดๆ บริเวณลานหน้าสามย่านมิตรทาวน์ ซึ่งในอนาคตนวัตกรรมนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการขนส่งสินค้าในภาคอุตสาหกรรม การสัญจรในอนาคต หรือแก้ปัญหาการเข้าไปทำงานในพื้นที่อันตรายแทนมนุษย์
2) 5G Hologram 3 มิติ

AIS ร่วมกับ DoubleMe นำเสนอการแปลงภาพ 2 มิติไปเป็น 3 มิติ (HoloPortal) ได้ในระดับ Real-time จากนั้นภาพจะถูกสตรีมผ่านเครือข่ายของ 5G ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถทำให้ผู้ใช้งานหลายฝ่ายมองเห็นภาพ Virtual เดียวกันได้ ทำให้เราสามารถตอบสนองกับวัตถุ Virtual เหล่านั้นได้ (เหมือนในหนัง Ironman ที่ฉายภาพโมเดลจำลองต่างๆ ขึ้นมาและสามารถตอบสนองกับสิ่งนั้นได้) นอกจากนี้เทคโนโลยีที่นำมาโชว์ยังใช้กล้องเพียงแค่ตัวเดียวและสร้างภาพ 3 มิติได้อย่างรวดเร็วด้วยเวลาแค่ไม่กี่นาที
3) 5G Connected Drone

การบังคับโดรนปกติแล้วผู้ควบคุมเครื่องจะต้องอยู่ในระยะใกล้เคียงกับตัวโดรนด้วยข้อจำกัดของระยะ Wi-Fi แต่ด้วยเทคโนโลยี 5G ที่ความเร็วสูงและความหน่วงต่ำ ทำให้สามารถบังคับโดรนข้ามจังหวัด ระหว่างกรุงเทพฯ – นครราชสีมาได้
4) 5G The Robotics

AIS ร่วมกับ ABB จัดแสดงหุ่นยนต์สำหรับร้านสะดวกซื้อ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จริงในอนาคตอันใกล้เพราะ 5G ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อกับหุ่นยนต์ได้แบบเรียลไทม์นั่นเอง อีกกรณีหนึ่ง AIS และมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้นำหุ่นยนต์บรรณารักษ์ในห้องสมุดมาโชว์ความอัจฉริยะในงานนี้ด้วย โดยหุ่นทั้ง 2 ตัวสามารถสื่อสารกันเองและมนุษย์ได้การเชื่อมต่อผ่าน 5G
5) 5G VDO Call

สำหรับฟังก์ชันเดิมๆ นี้กำลังจะยกระดับคุณภาพอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนด้วย 5G แน่นอน ซึ่งในครั้งนี้ AIS ได้โชว์การเชื่อมต่อ Video Call แบบทั่วทุกภาคในประเทศทั้งอีสาน เหนือ ใต้ และตะวันออก พร้อมกันทีเดียวซึ่งคุณภาพของเสียงและภาพนั้นยังคมชัดแม้จะอยู่ห่างกันมากก็ตาม
สำหรับผู้สนใจใน Use Case ต่างๆ ที่กล่าวมาในข้างต้นสามารถแวะเวียนไปชมและร่วมทดสอบกันด้วยตัวเองได้ฟรีที่บูธของ AIS ณ ลานกิจกรรมชั้น G ของสามย่านมิตรทาวน์ โดยจะเปิดให้ชมกันทุกวันตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค. – 3 ม.ค. 2563 ในเวลาระหว่าง 10.00 น. ถึง 22.00 น. ครับ