Black Hat Asia 2023

AI ช่วยแพทย์ตรวจหามะเร็งเต้านมได้เร็วขึ้น 30 เท่า

AI กลายมาเป็นผู้ช่วยแพทย์ ตรวจมะเร็งเต้านมได้เร็วขึ้น 30 เท่า ด้วยความแม่นยำ 99%

การทำ Mammogram Credit: https://en.wikipedia.org/wiki/Mammography
การทำ Mammogram
Credit: https://en.wikipedia.org/wiki/Mammography

การตรวจเต้านมโดยใช้รังสีปริมาณน้อยหรือ Mammogram นั้นถือเป็นหนึ่งในวิธีการตรวจหามะเร็งเต้านมที่ดีที่สุดทางหนึ่ง และทีมนักวิจัยจาก Houston Methodist ก็ได้พัฒนา Artificial Intelligence (AI) ขึ้นมาช่วยวิเคราะห์ผลการทำ Mammogram นี้ให้ได้เร็วขึ้นกว่าแพทย์ที่เป็นมนุษย์ถึง 30 เท่า และมีความแม่นยำมากถึง 99% พร้อมทั้งตีพิมพ์ผลการศึกษานี้ในนิตยสาร Cancer เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ระบบ AI นี้มีหน้าที่หลักๆ ในการตรวจภาพจากการฉายรังสี เพื่อค้นหาความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมให้พบได้เร็วขึ้น และทำให้ทีมแพทย์สามารถทำการรักษาหรือดูแลผู้ป่วยได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยในการทดสอบนี้ทางทีมทดสอบได้นำภาพจากผู้ป่วยมะเร็งเต้านม 500 รายให้ AI ตรวจสอบ ซึ่งระบบ AI ก็สามารถตรวจสอบได้เสร็จภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ในขณะที่แพทย์ 2 คนนั้นต้องใช้เวลา 50-70 ชั่วโมงในการตรวจภาพจากการฉายรังสีนี้เพียงแค่ 50 ราย ทำให้เห็นได้ชัดว่า AI จะสามารถเข้ามาช่วยงานทีมแพทย์ได้จริง

ความแม่นยำก็เป็นอีกประเด็นที่สำคัญเช่นกัน ในแต่ละปี การตรวจภาพ Mammogram ที่อเมริกานี้มีมากถึง 12.1 ล้านครั้งต่อปี และกว่าครึ่งนั้นเป็นการตรวจพบแบบ False Positive ซึ่งผู้ที่คาดว่าจะป่วยเหล่านี้ก็จะต้องถูกส่งไปตรวจสอบเพิ่มเติมต่อ เป็นปัญหาต่อทั้งทรัพย์สินและเวลาทางการรักษาเลยทีเดียว การนำ AI มาช่วยตรวจสอบให้ได้รวดเร็วและแม่นยำขึ้นนี้ก็จะช่วยลดต้นทุนในการรักษามะเร็งของผู้ป่วยลงไปได้มาก ในขณะที่ในภาครัฐเองก็จะลดการสูญเสียงบประมาณไปโดยเปล่าประโยชน์ได้มากเช่นกัน

ที่มา: http://www.forbes.com/sites/janetwburns/2016/08/29/artificial-intelligence-can-help-doctors-assess-breast-cancer-risk-thirty-times-faster/#3bc3d98e56e2


About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

พลิกมุมคิดการจัดการคลาวด์ไอทีอย่างสมาร์ตฉบับวีเอ็มแวร์ [Guest Post]

แม้คลาวด์จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการพาองค์กรก้าวข้ามวิกฤตไปสู่การสร้างสรรค์โมเดลธุรกิจหรือกลยุทธ์การแข่งขันใหม่ ด้วยคุณลักษณะที่คล่องตัว (Agility) ในการปรับความต้องการใช้งานโดยอัตโนมัติ (Auto-Scaling) ได้ด้วยตัวเอง (Self-Services) ทว่าหลายองค์กรซึ่งเลือกปฏิวัติระบบธุรกิจขึ้นสู่คลาวด์กลับประสบปัญหาการจัดการทรัพยากรที่ยิบย่อยบนคลาวด์ไม่ไหว แถมหัวจะปวดกับภัยคุกคามที่ยุ่งยากในการป้องกัน ด้วยเหตุนี้ ความคาดหวังต่อไอทีคลาวด์ยุคถัดไป คือ การปรับแต่งแอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มคลาวด์ไอทีให้ทันสมัยตรงต่อความต้องการทางธุรกิจ ภายใต้ระบบการรักษาความปลอดภัยแบบองค์รวมที่แข็งแกร่ง ทั่วถึง และเป็นอัตโนมัติกว่าเดิม

กลับมาอีกครั้ง! จีเอเบิล พร้อมปั้นคนเทคฯ สายงาน Data กับโครงการ “Tech Scoop Academy” รุ่นที่ 2 เฟ้นหาคนรุ่นใหม่สู่อุตสาหกรรมไอที [Guest Post]

ปัจจุบันความต้องการของคนทำงานที่มีทักษะทางด้านดิจิทัลเทคโนโลยีเพิ่มสูงมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้องค์กรทั่วโลกต่างต้องปรับตัว เพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่พร้อมจะเติบโตไปกับองค์กร ให้เข้ามาทำงาน รวมทั้งต้องสามารถสร้างสภาพแวดล้อมในองค์กรให้เหมาะแก่การเรียนรู้ ติดอาวุธ และเพิ่มพูนทักษะทางด้านดิจิทัลเทคโนโลยีให้พนักงานได้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ