เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา Qualcomm บริษัทผู้นำด้าน Chipset ระบบเครือข่ายและ Ericsson ผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านระบบเครือข่าย ได้ร่วมกันทดสอบความเร็วสูงสุดของ LTE กับ Telstra โอเปอเรเตอร์ของประเทศออสเตรเลีย ผลปรากฏว่าได้ความเร็วสูงสุดที่ 450 Mbps ซึ่งพร้อมให้บริการในปี 2015 อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานอุปกรณ์เคลื่อนที่หลายคนอาจไม่ได้ใช้งานระบบ LTE ความเร็วสูงสุดดังกล่าว เนื่องจาก Mobile Operator หลายเจ้าติดปัญหาเรื่องสเปคตรัมของคลื่นวิทยุขนาดใหญ่ไม่เพียงพอ
การทดสอบความเร็วของ LTE นี้ ใช้เทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า Carrier Aggregation ซึ่งช่วยให้โอเปอเรเตอร์สามารถเชื่อมสเปคตรัมของคลื่นวิทยุบนความถี่ที่แตกต่างกันเข้าด้วยกันเสมือนเป็นช่องสัญญาณเดียว โดยเชื่อม 3 ช่องสัญญาณขนาด 20 Hz บนคลื่นความถี่ 2600 MHz, 1800 MHz และ 700 MHZ รวมเป็นช่องสัญญาณขนาด 60 MHz ทำให้สามารถดาวน์โหลดข้อมูลได้สูงถึง 450 Mbps และอัพโหลดได้สูงถึง 100 Mbps
“วิธีนี้ ส่งผลให้หลาย Mobile Operator อาจติดปัญหาเรื่องสเปคตรัมของคลื่นวิทยุได้ เช่น สหรัฐอเมริกา ที่อนุญาตให้ใช้สเปคตรัมขนาด 10 MHz เท่านั้น หรือทางยุโรปเอง การเติบโตของระบบ LTE ยังเป็นไปได้ค่อนข้างช้า ดังนั้นแล้ว LTE ความเร็ว 450 Mbps จึงน่าจะถูกโฟกัสที่ภูมิภาคเอเชียแทน” — Malik Saadi หัวหน้าทีมปฏิบัติงานของ ABI Research ให้ข้อมูล
แต่ทาง Ericsson และ Qualcomm มองว่า ในโซนอเมริกาเหนือ และยุโรปยังคงคุ้มค่าต่อการพัฒนาเทคโนโลยี LTE ดังกล่าว ถึงแม้ว่าเทคนิค Carrier Aggregation จะทำให้ได้ผลลัพธ์เพียงแค่ 300 – 375 Mbps แต่ก็ถือว่าเป็นก้าวกระโดดของผู้ใช้งานระบบ LTE นอกจากนี้ การเทคนิคดังกล่าว ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มความเร็วเมื่อผุ้ใช้อยู่ใกล้แหล่งจ่ายสัญญาณเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของพื้นที่ทั้งหมดให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
ในส่วนของอุปกรณ์เคลื่อนที่เอง ปัจจุบันก็เริ่มมีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรองรับเทคนิค Carrier Aggregation ด้วยเช่นกัน เช่น Samsung Galaxy Alpha และ Note 4 รวมทั้ง Huawei Ascend Mate 7 ที่ใช้ 2 ช่องสัญญาณเพื่อให้ได้ความเร็วสูงสุดที่ 300 Mbps ในทางกลับกัน iPhone 6 และ Moto X กลับรองรับการใช้งาน 2 ช่องสัญญาณพร้อมกันที่ 150 Mbps เท่านั้น เนื่องจากรองรับเชื่อมกันของสเปคตรัมขนาด 10 MHz แทนที่จะเป็น 20 MHz
Qualcomm ไม่เพียงแค่นำเทคนิค Carrier Aggregation มาเป็นฟีเจอร์มาตรฐานของ Chipset สำหรับสมาร์ทโฟนระดับ High-end เท่านั้น Snapdragon 210 ระดับ Entry รุ่นใหม่ก็พร้อมรองรับเทคนิค Carrier Aggregation เช่นเดียวกัน แต่ให้ความเร็วสูงสุดเพียงแค่ 150 Mbps เท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์แรกที่ช่วยให้อุปกรณ์เคลื่อนที่สามารถเชื่อม 2 ช่องสัญญาณขนาด 10 MHz คาดว่าจะพร้อมเปิดตัวในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2015