โดย Liz Centoni ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Cisco

เทรนด์ ที่ 1:
มิติใหม่ของพื้นที่การโจมตี (Attack Surface)
-
Application และ API Security – นักพัฒนาจะได้รับการสนับสนุนด้านเครื่องมือที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับความเร็วในการสร้าง การรักษาความปลอดภัย และจัดการแอปพลิเคชันสมัยใหม่ที่จะสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น และได้สัมผัสประสบการณ์ด้านดิจิทัลที่ยอดเยี่ยม
-
Quantum Cryptography – การเข้ารหัสที่ปลอดภัยด้วยควอนตัม Quantum Key Distribution (QKD) เริ่มได้รับความนิยมเป็นวงกว้างเพื่อการอัปเกรดสู่ Data Centers, autonomous และ Consumer Devices อาทิเช่น สมาร์ทโฟน เป็นต้น
เทรนด์ ที่ 2:
สัมผัสประสบการณ์เชิงลึกด้านเศรษฐกิจและธุรกิจ
-
Full-Stack Observability และ Business Outcomes – ปัญหาสำคัญในการเฝ้าติดตามคือข้อมูลที่มากเกินไปและบริบททางธุรกิจที่น้อยเกินไป ในปี 2023 ความสัมพันธ์ระหว่างการตรวจสอบแอปพลิเคชันและการมองเห็นกับผลลัพธ์ทางธุรกิจจะเป็นโซลูชันระดับชั้นนำที่ถูกพูดถึงมากขึ้น
-
Traces และ OpenTelemetry – OpenTelemetry จะกลายเป็นมาตรฐานโอเพ่นซอร์สชั้นนำสำหรับความสามารถในการสังเกตข้อมูล และการติดตามแบบกระจายซึ่งจะเป็นความท้าทายในการประเมินประสบการณ์แอปพลิเคชันที่สมบูรณ์และครบวงจร
-
Edge Native Application Development Frameworks – เราจะเห็นการยอมรับที่เพิ่มขึ้นของเฟรมเวิร์กการพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับ Edge ซึ่งประกอบไปด้วยการจัดการข้อมูลใหม่ การปฏิบัติตามข้อกำหนด และการรักษาความปลอดภัยระดับ APIs ควบคู่ไปกับ AI/ML toolchains ใหม่
เทรนด์ ที่ 3:
ขั้นตอนต่อไป ของการเชื่อมต่อและเครือข่ายอัจฉริยะ
-
Supply Chain Resiliency – ความยืดหยุ่นของซัพพลายเชน จะเป็นรูปเป็นร่างอย่างรวดเร็วด้วยความสามารถของบัญชีแยกประเภทแบบกระจายและการใช้ระบบอัตโนมัติของ IoT ในการติดตาม การบำรุงรักษา และการส่งมอบ ซึ่งส่งเหล่านี้จะเข้ามาอยู่ในวงจรของโซ่อุปทาน
-
Predictive Networks – ด้วยอนุภาพของข้อมูลจำนวนมหาศาลที่รวบรวมจาก Telemetry เครื่องมือช่วยจัดการข้อมูล บริษัทต่างๆ จะได้รับความสามารถในการคาดการณ์เครือข่ายและความสามารถในการเชื่อมต่อผ่านข้อเสนอ SaaS ที่ผสานรวมและใช้งานง่าย
-
Multicloud Realignment – การปรับเปลี่ยนสู่ Multicloud จะไม่มีการหันหลังกลับสู่สามัญ เนื่องจากอุตสาหกรรมต่างๆ ล้วนแต่นำรูปแบบมัลติคลาวด์ใหม่ทั้งหมดมาปรับใช้ โดยสังเกตได้จากการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องเพื่อมุ่งไปสู่เฟรมเวิร์กมัลติคลาวด์ใหม่ เช่น Sovereign Clouds, Local Zone Clouds, Zero-Carbon Clouds และคลาวด์รูปแบบใหม่อื่นๆ
เทรนด์ ที่ 4:
สร้างอนาคตที่ดีกว่าและครอบคลุมได้มากกว่า
-
Hybrid Work Equity และ Inclusion – ความเสมอภาคในการทำงานแบบผสมผสานและการไม่แบ่งแยก กำลังจะเริ่มตึ้นขึ้นในปี 2023 ด้วยวิธีการใหม่ๆ ในการเสริมศักยภาพการเข้าถึงในวงกว้างและการมีส่วนร่วมผ่านการใช้งานนวัตกรรมของ AI และเทคโนโลยีแห่งอนาคตอื่นๆ
-
Journey to Net Zero – การเดินทางสู่ Net Zero ศูนย์ข้อมูลจะได้รับการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป้าหมายด้านความยั่งยืนที่ก้าวหน้าผ่านการจัดการพลังงานบนคลาวด์ที่ขับเคลื่อนโดย API และฮาร์ดแวร์ที่นำกลับมาใช้ใหม่
-
Responsible AI – ระบบปัญญาประดิษฐ์จะถูกควบคุมโดยผู้ไม่หวังดี ซึ่งเป็นการสร้างความวิตกกังวลให้แก่ภาคอุตสาหกรรม ภาครัฐบาล สถาบันการศึกษา และองค์กรพัฒนาระดับเอกชน ด้วยเหตุนี้จึงมีเป้าหมายร่วมกันเพื่อมอบหลักการความรับผิดชอบที่เป็นสากลให้กับระบบ AI