Museo Egizio เป็นพิพิธภัณฑ์อียิปต์แห่งเมืองตูริน ประเทศอิตาลี ที่ได้รับขนานนามว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเอาศิลปะ วัฒนธรรม รวมถึงคอลเล็คชั่นงานแอนธีค ในอียิปต์โบราณ ไว้มากมาย เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากพิพิธภัณฑ์ในกรุงไคโร ประเทศอียิป โดยส่วนใหญ่แล้วจะเน้นการเก็บรวบรวมและบันทึกในเรื่องราวเกี่ยวกับมานุษยวิทยาและสังคมวิทยาของอียิปต์
ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมกว่า 550,000 ราย โดยมีการก่อตั้งใน ปี 1842 จากดำริของกษัตริย์เฟอริส แห่งกรุงไคโร มีข้าวของเครื่องใช้กว่า 5,200 ชิ้น จากการรวบรวมของ เบอร์นาดิโน โดรเวตติ ( Bernardino Drovetti ) นักโบราณวัตถุชาวอิตาเลี่ยน โดยพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวถูกตั้งอยู่ที่พระราชวังที่สร้างขึ้นในศตวรษที่ 17 จากผลงานของสถาปนิกชื่อดัง กวารีโน กวารีนี ( Guarino Guarini )
ความท้าทายด้านศิลปะและวัฒนธรรม Museo Egizio ที่จะต้องซ่อนและผสมผสานเทคโนโลยีเอาไว้ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ให้ได้อย่างแนบเนียนที่สุด โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ไม่กระทบต่อจินตนาการแก่ผู้เข้าชม โดยนวัตกรรมที่นำมาใช้ถูกระบุไว้ชัดเจนว่า ต้องมีความสามารถในการนำเสนอบริการหลากหลายรูปแบบ โดยไม่ต้องกังวลถึงผลกระทบในทางลบที่จะตามมาต่อการเปิดให้บริการของพิพิธภัณฑ์ การทำงานของระบบจะต้องครอบคลุมอาคารที่มีอายุถึง 300 ปี และสามารถอัพเกรดเทคโนโลยีเพื่อการใช้งานในอนาคตได้ด้วย
นอกจากนี้ ในพิพิธภัณฑ์ยังได้วางระบบการเชื่อมต่อแบบไร้สาย ในส่วนของอาคารประวัติศาสตร์ เพื่อรองรับการเข้าชมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการใช้แอพพลิเคชั่นแบบมัลติมีเดีย วางระบบโทรศัพท์ภายในผ่านเครือข่ายไอพี พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย เช่น สัญญานเตือนในตู้แสดงโบราณวัตถุ ที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือ รวมถึงการเชื่อมต่อเครือข่ายสำหรับการนำเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์ผ่าน กูเกิ้ล กลาส ( Google Glass ) ซึ่งเป็นบริการพิเศษสำหรับผู้พิการทางการได้ยินด้วยการแสดงคำบรรยายภาษามือผ่านหน้าจอ Google Glass และที่สำคัญอุปกรณ์เทคโนโลยีทั้งหมดจะต้องถูกซ่อนไว้อย่างแนบเนียนที่สุด เพื่อไม่ให้รบกวนการดำเนินงาน และขัดกับบรรยากาศโดยรวมต่อผู้เข้าชมในพิพิธภัณฑ์
ความท้าทายอีกหนึ่งอย่าง ที่ผู้วางระบบเครือข่ายอย่าง ZyXEL ต้องทำการบ้านอย่างหนัก เมื่อล่าสุดพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ได้มีการบูรณะเต็มรูปแบบ ซึ่งได้แล้วเสร็จในปี 2015 ซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างมากที่จะต้องวางระบบให้บริการจากศูนย์กลาง ที่นำเสนอผ่านเทคโนโลยี VLAN และเครือข่ายแลนไร้สาย ผสมผสานเข้าด้วยกัน เพื่อรองรับการทำงานบนแอพพลิเคชั่นไร้สายทั้งหมด
โดยโซลูชั่นจะต้องรองรับการสื่อสารแบบเครือข่ายแลนไร้สาย ให้กับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ภายในตัวอาคารที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังจะต้องไม่ทำลายทัศนียภาพของตัวอาคาร และรองรับการใช้งานในอนาคต เนื่องจากจะต้องมีการบูรณะพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ในทุก 10 ปี
สำหรับ ZyXEL ได้ตัดสินใจเลือกที่จะติดตั้งโซลูชั่น ZyXEL Business Unified Access Point WAC6502D-E และ NWA5123 Series ที่ควบคุมโดยระบบการสื่อสารไร้สายผ่าน Wireless LAN Controller NXC5500 โดย WAC6502D-E ได้รับการติดตั้งตั้ในห้องที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุด เพื่อรองรับการให้บริการที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยความยอดเยี่ยมของการออกแบบ และ NWA5123 Series จะรองรับการใช้งานในห้องขนาดเล็กลงมา เช่น ในโกดังเก็บของ และในสำนักงาน เนื่องจากมีขนาดเล็ก และพรางสายตาด้วยการทาสีดำ เพื่อความสวยงามในการติดตั้ง ส่วนของสวิตช์ที่ได้มีการคัดเลือกคือ Gigabit L2 Managed High Power PoE+ Switches GS2210 Series ทั้งแบบ 8 และ 24 พอร์ต และ Security Gateway USG1900-UTM ซึ่งเป็นเกตเวย์ ที่ระบบจะการันตีได้ถึงความปลอดภัยบนมาตรฐาน UTM
นอกจากนี้ทางพิพิธภัณฑ์ยังได้มีการติดตั้งโซลูชั่นเพื่อการใช้งานในอนาคต โดยที่ศักยภาพจะไม่ลดลง ภายในช่วงระยะเวลา 10 ปีต่อจากนี้ การการันตีของระบบในครั้งนี้สามารถประหยัดต้นทุนในการดูแลรักษา รวมถึงประหยัดพลังงาน และผู้บริโภคยังจะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ ทางด้านเทคโนโลยีบนนวัตกรรม ของ Google Glass 4LIS สำหรับผู้พิการทางการได้ยินได้อย่างราบรื่น เมื่อผู้ที่ได้เข้ามาเยี่ยมชมใน Museo Egizio จะสัมผัสถึงความรู้สึกเสมือนว่าได้เข้ามาเยือนในเมืองอียิปต์โบราณอย่างแท้จริง