หน่วยงาน Cybersecurity and Infrastructure Security Agency (CISA) ภายใต้ Department of Homeland Security (DHS) แห่งสหรัฐอเมริกาได้ออกมาเตือนถึงช่องโหว่ภายในระบบ VPN ของผู้ผลิตชั้นนำอย่าง Cisco, Palo Alto Networks, F5 Networks และ Pulse Secure ที่อาจถูกใช้โจมตีได้

ช่องโหว่หลักๆ ที่ถูกค้นพบในครั้งนี้มีดังนี้
- ช่องโหว่จัดเก็บข้อมูล Cookie อย่างไม่ปลอดภัยภายใน Log ที่ถูกพบใน Palo Alto Networks GlobalProtect Agent 4.1.0 บน Windows และ GlobalProtect Agent 4.1.10 และรุ่นก่อนหน้าบน macOS, Pulse Secure Connect Secure รุ่นก่อนหน้า 8.1R14, 8.2, 8.3R6 และ 9.0R2, F5 Networks
- ช่องโหว่จัดเก็บข้อมูล Cookie อย่างไม่ปลอดภัยบน Memory ที่ถูกพบใน Palo Alto Networks GlobalProtect Agent 4.1.0 บน Windows และ GlobalProtect Agent 4.1.10 และรุ่นก่อนหน้าบน macOS, Pulse Secure Connect Secure รุ่นก่อนหน้า 8.1R14, 8.2, 8.3R6 และ 9.0R2, Cisco AnyConnect รุ่น 4.7.x และก่อนหน้า, F5 Networks
ช่องโหว่เหล่านี้อาจถูกนำไปใช้โจมตีเพื่อเข้าถึงกุญแจเข้ารหัสและนำไปใช้โจมตีต่อเนื่อง เช่นการนำไป Replay Session หรือ Bypass การยืนยันตัวยตนได้
ทางด้าน Palo Alto Networks นั้นมี Patch ออกมาแก้ไขช่องโหว่เหล่านี้แล้วในรุ่น 4.1.1 บน Windows และ 4.1.11 บน macOS ในขณะที่ F5 Networks นั้นมี Patch สำหรับแก้ไขการจัดเก็บข้อมูลบน Log อย่างไม่ปลอดภัยแล้วในรุ่น 12.1.3, 13.1.0 แต่ยังไม่มี Patch ใดๆ สำหรับปัญหาการจัดเก็บข้อมูลอย่างไม่ปลอดภัยบน Memory ทั้งที่ทราบถึงช่องโหว่มาตั้งแต่ปี 2013 ส่วน Cisco และ Pulse Secure ยังไม่มี Patch ใดๆ สำหรับปัญหาทั้งสอง
ผู้ที่สนใจรายละเอียดฉบับเต็ม สามารถตรวจสอบได้ที่ https://www.kb.cert.org/vuls/id/192371/