Tines Security Service สตาร์ทอัพเจ้าของแพลตฟอร์มสำหรับทำงานหลายขั้นตอน เช่น การตั้งค่าคลาวด์อินสแตนซ์ โดยอัตโนมัติ ประกาศระดมทุนได้ 125 ล้านดอลลาร์ในรอบ Series C ที่นำโดย Goldman Sachs ซึ่งเกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงหนึ่งปีหลังจากการระดมทุนมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์ในรอบก่อนหน้านี้

แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ของ Tines อนุญาตให้พนักงานสร้างเวิร์กโฟลว์อัตโนมัติผ่านอินเทอร์เฟซแบบลากและวาง เวิร์กโฟลว์เหล่านี้สามารถรวบรวมข้อมูลจากระบบภายในของบริษัทและดำเนินการตามข้อมูลนั้นได้ โดยใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในบางขั้นตอนของกระบวนการ
หนึ่งในงานที่แพลตฟอร์มของ Tines ช่วยให้ลูกค้าทำได้ง่ายขึ้นคือการจัดการตั๋วซัพพอร์ต โดยทีมงานฝ่ายช่วยเหลือสามารถสร้างเวิร์กโฟลว์ที่ดึงข้อมูลสำคัญจากตั๋วซัพพอร์ตแต่ละรายการและสร้างสรุปสั้น ๆ โดยใช้ภาษาธรรมชาติ นอกจากนี้ เวิร์กโฟลว์ยังสามารถกำหนดลำดับความสำคัญของคำขอซัพพอร์ตตามระดับความเร่งด่วนอีกด้วย
แพลตฟอร์มยังสามารถเสริมข้อมูลในตั๋วซัพพอร์ตด้วยข้อมูลจากแหล่งอื่น ๆ ได้ เช่น หากผู้ใช้เปิดตั๋วแจ้งปัญหาเกี่ยวกับเซิร์ฟเวอร์ Tines สามารถรวบรวมบันทึกระบบจากเครื่องที่ได้รับผลกระทบเพื่อช่วยให้ผู้ดูแลระบบแก้ไขปัญหาได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ แพลตฟอร์มยังสามารถสร้างโค้ดอัตโนมัติหากต้องใช้สคริปต์พิเศษในการดึงข้อมูลบันทึกระบบที่จำเป็น
Tines ยังช่วยให้งานด้านการกำหนดค่าโครงสร้างพื้นฐานเป็นไปอย่างราบรื่นขึ้น นักพัฒนาสามารถใช้แพลตฟอร์มเพื่อสร้างเวิร์กโฟลว์ที่ทำงานโดยอัตโนมัติ เช่น การสร้างคลาวด์อินสแตนซ์และการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่รันอยู่บนเซิร์ฟเวอร์
นอกจากเวิร์กโฟลว์อัตโนมัติแล้ว Tines ยังมีอินเทอร์เฟซแชทบอทที่เรียกว่า Workspaces ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถระบุงานที่ต้องการให้แพลตฟอร์มดำเนินการได้โดยใช้คำสั่งภาษาธรรมชาติ
อีกหนึ่งเครื่องมือพิเศษที่ชื่อ Cases ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ทีมความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ตอบสนองต่อการละเมิดข้อมูลได้เร็วขึ้น โดยรวบรวมข้อมูลจากเครื่องมือด้านความปลอดภัยขององค์กรมาไว้ในอินเทอร์เฟซเดียว พร้อมแสดงรายการขั้นตอนที่ผู้ดูแลระบบควรดำเนินการเมื่อเกิดการแจ้งเตือน เช่น การระบุว่าระบบใดได้รับผลกระทบ
Cases ยังมีแดชบอร์ดวิเคราะห์ที่แสดงข้อมูลระดับสูงเกี่ยวกับความพยายามด้านความปลอดภัยไซเบอร์ขององค์กร โดยติดตามจำนวนการแจ้งเตือนการละเมิดข้อมูลที่ Tines ได้รับในแต่ละวัน เวลาที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาโดยเฉลี่ย และตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้อง องค์กรที่มีความต้องการขั้นสูงยังสามารถสร้างแดชบอร์ดแบบกำหนดเองเพื่อใช้ตรวจสอบทรัพย์สินทางเทคโนโลยีของตนได้อีกด้วย
Tines มีลูกค้าระดับองค์กรขนาดใหญ่ เช่น Databricks และ Snowflake โดยบริษัทระบุว่าจำนวนกระบวนการอัตโนมัติที่ดำเนินการบนแพลตฟอร์มของตนเพิ่มขึ้นสามเท่าในปีที่ผ่านมาเป็นมากกว่า 1 พันล้านครั้งต่อสัปดาห์ “สองในสามของลูกค้าของเรากำลังใช้ฟีเจอร์ AI ที่เราเปิดตัวในปี 2024 รวมถึง Workbench” Eoin Hinchy ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของบริษัทกล่าวในบล็อกโพสต์
บริษัทจะนำเงินทุนจากรอบการระดมทุนใหม่นี้ไปใช้ขยายฟีเจอร์ AI ของแพลตฟอร์มให้รองรับงานมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาความสามารถด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ โดย Hinchy เปิดเผยว่า Tines เตรียมเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่อีก 250 รายการภายในปี 2025
ที่มา: https://siliconangle.com/2025/02/11/tines-nabs-125m-ai-powered-workflow-automation-platform/