TIME Consulting จับมือ Orbus Software และ Stelligence จัดงาน “AI-DATA SYNERGY: CRAFTING A DATA DRIVEN FUTURE” [PR]

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา บริษัท ไทม์ คอนซัลติ้ง จำกัด ร่วมกับพันธมิตรชั้นนำอย่าง Orbus Software และ Stelligence ได้จัดงานประชุมสัมมนาในหัวข้อ “AI-DATA SYNERGY: CRAFTING A DATA DRIVEN FUTURE” เพื่อส่งเสริมความเข้าใจและการนำเทคโนโลยี AI และการวิเคราะห์ข้อมูลมาปรับใช้ในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยงานครั้งนี้ได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมและผู้นำด้านเทคโนโลยีมาร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิดและประสบการณ์ ตอกย้ำความสำคัญของการขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูลเพื่อสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจในยุคดิจิทัล

ภายในงานมีการบรรยายและเสวนาเกี่ยวกับแนวโน้มล่าสุดของ AI และการบริหารจัดการข้อมูล ตลอดจนการเปิดตัวเครื่องมือและโซลูชันใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์องค์กรยุคใหม่ ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม ตั้งแต่ SMEs ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ โดย Speaker ชั้นนำ อาทิ Microsoft, Orbus Software และ Stelligence อีกทั้งผู้เข้าร่วมงานยังได้เรียนรู้เทคนิคการนำ AI-Data มาใช้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ พร้อมพบปะและสร้างเครือข่ายกับผู้นำจากหลากหลายภาคธุรกิจ งานนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเวทีสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพและความพร้อมของภาคธุรกิจไทยในการก้าวสู่อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและ AI อย่างยั่งยืน

การสัมมนาครั้งนี้มีการบรรยายและเสวนาโดยผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ ซึ่งได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการนำข้อมูลและ AI มาใช้ในการเสริมสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ และการปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล โดยมี 5 หัวข้อหลักที่น่าสนใจ ได้แก่ AI-Data Driven Transformation: Bridging Data and Innovation นำบรรยายโดยคุณจักรกฤษณ์ สังกิตติวรรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทม์ คอนซัลติ้ง จำกัด และคณะทีมที่ปรึกษา บริษัท ไทม์ คอนซัลติ้ง จำกัด ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการขับเคลื่อนองค์กรด้วย AI ที่จำเป็นต้องมีองค์ประกอบหลัก 3 ประการ ได้แก่ กลยุทธ์ วัฒนธรรมองค์กร และการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพ โดยกลยุทธ์ในการใช้ AI ต้องมุ่งเน้นที่การสร้างความเข้าใจในองค์กรและต้องปรับตัวให้พร้อมสำหรับการนำเทคโนโลยีมาใช้ นอกจากนี้ การจัดการข้อมูล (Data Governance) ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในการพัฒนาและเสริมสร้างคุณภาพของข้อมูล เพื่อรองรับการสร้างโมเดล AI ที่มีความแม่นยำและเชื่อถือได้ รวมทั้งสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ เรื่องของความปลอดภัย และความโปร่งใสในกระบวนการการใช้ข้อมูล เพื่อให้การใช้งาน AI เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

โดยทางด้านคุณอานนท์ มณฑาทิพย์กุล Senior Solution Area Specialist – Data & AI จาก Microsoft (Thailand) ที่ได้บรรยายในหัวข้อ “The Intelligent Enterprise: AI and Data as Core Business Assets” ร่วมแบ่งปันบทบาทสำคัญของ AI ที่ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมศักยภาพ และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานขององค์กรในยุคดิจิทัล โดยคุณอานนท์กล่าวถึงการพัฒนา AI ในปัจจุบันที่สามารถทำงานในบทบาท “เพื่อนร่วมงาน” หรือ Co-Pilot ที่ไม่เพียงช่วยในกระบวนการตัดสินใจ แต่ยังช่วยสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับองค์กร ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลและการสร้างเนื้อหาที่มีความชาญฉลาด การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลโดยตรงต่อการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นการช่วยตัดสินใจได้ดีขึ้น การเพิ่มผลผลิต (Productivity) หรือการสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กรในโลกธุรกิจที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน

ในขณะที่คุณราม อนันทราม Partner Manager จากบริษัท Orbus Software ที่ได้มาพูดในหัวข้อ “Blueprint for Tomorrow: Building Enterprise Architecture with Generative AI”  ซึ่งเน้นความสำคัญของการวางแผนสถาปัตยกรรมองค์กร (EA) เพื่อเสริมศักยภาพและการเติบโตของธุรกิจในยุคที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การจัดการ EA ช่วยให้องค์กรมีโครงสร้างที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่น รองรับการเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการบูรณาการเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น Generative AI และ Digital Twin ที่ช่วยให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างแม่นยำและรวดเร็ว

ทางด้าน ดร. ลิสา พัทธ์วิวัฒน์ศิริ ประธาน Digital Transformation Chapter President Thai Cheif Information Officer Association TCIOA ได้พูด “AI-DATA DRIVEN TRANSFORMATION THAT WORK”  โดยแชร์ว่าการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของลูกค้าในปัจจุบัน จากเดิมการตัดสินใจซื้อสินค้าอาจขึ้นอยู่กับคุณสมบัติหรือราคาของผลิตภัณฑ์ แต่ในวันนี้ลูกค้ากลับให้ความสำคัญกับ “ประสบการณ์” ที่ได้รับมากขึ้น การสร้างความเข้าใจในพฤติกรรมของลูกค้าผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลจึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนองค์กรสู่การเปลี่ยนแปลงด้วย AI Transformation โดย ดร. ลิสา ยังได้เน้นว่า การทำ AI Transformation ต้องเริ่มต้นจากการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน รวมถึงการระบุปัญหาหรือโอกาสที่ต้องการแก้ไข จากนั้นจึงต้องเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์เพื่อหาข้อมูลเชิงลึก (Insight) และวางกลยุทธ์ที่เหมาะสมในการดำเนินการ โดยต้องคำนึงถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการนำ AI มาใช้ให้สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กรและสร้างผลลัพธ์ที่สามารถจับต้องได้

และคุณสันติสุข ลิ้มปีติเจริญโชติ CEO และ Co-Founder จาก Stelligence ที่ได้พูดในหัวข้อ “Strategic AI: From Planning to Execution” ได้กล่าวถึงความท้าทายสำคัญในการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพในยุคดิจิทัล ว่าความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่การมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่ยังต้องพิจารณาถึงหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการใช้งาน AI ทั้งในด้านความเชี่ยวชาญของทีมงาน ความชัดเจนในเป้าหมายธุรกิจ และการสร้างระบบที่ยั่งยืน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว ทั้งนี้ คุณสันติสุข ยังได้ย้ำถึงการนำ AI มาใช้ไม่ควรเป็นแค่เครื่องมือทางเทคโนโลยี แต่ควรเป็นการเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงาน และการตัดสินใจให้สอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาวขององค์กร

งานสัมมนา “AI-DATA SYNERGY: CRAFTING A DATA DRIVEN FUTURE” ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 โดย TIME Consulting ร่วมกับ Orbus Software และ Stelligence ได้นำเสนอภาพรวมที่ชัดเจนเกี่ยวกับการนำ AI และการวิเคราะห์ข้อมูลมาปรับใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจในยุคดิจิทัล โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการใช้ AI การจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ และการปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน ผู้เข้าร่วมงานได้รับความรู้เกี่ยวกับเทคนิคและเครื่องมือที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในองค์กรของตนเอง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ งานสัมมนาครั้งนี้ถือเป็นเวทีสำคัญที่ช่วยเชื่อมโยงผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายภาคธุรกิจ พร้อมทั้งส่งเสริมการพัฒนาทักษะและกลยุทธ์ที่จำเป็นสำหรับการเติบโตในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

 

About Maylada

Check Also

Postman เปิดตัว AI Agent Builder เครื่องมือพัฒนา AI Agent แบบครบวงจร พร้อม API กว่า 18,000 รายการ

Postman ก้าวสู่ตลาด AI Agent ด้วยแพลตฟอร์มพัฒนาที่ผสานความสามารถของ Large Language Model เข้ากับ API และ Workflow

OpenAI จับมือ SoftBank และ Oracle ผุดโครงการดาต้าเซ็นเตอร์ AI ‘Stargate’ มูลค่า 5 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ

ถือเป็นอภิมหาโปรเจ็กต์ของ AI ที่น่าจับตาหลังมีการประกาศความร่วมมือระหว่าง OpenAI, SoftBank และ Oracle ที่เตรียมสร้างดาต้าเซนเตอร์ที่อาจมียอดเงินลงทุนสูงสุดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าถึง 5 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ บนแผ่นดินสหรัฐฯ ภายใต้โครงการที่ชื่อว่า ‘Stargate’