สรุปงานสัมมนา CloudJump Webinar: Manage Modernize and Secure your Data with Veeam & AWS

ความสัมพันธ์ของ Digital Transformation กับการใช้งานคลาวด์ถือเป็นสิ่งที่เรียกได้ว่าเกิดขึ้นควบคู่กันไป เพราะคลาวด์สามารถเปิดทางให้องค์กรสามารถสร้างสรรค์บริการที่มีความยืดหยุ่นคล่องตัว อีกทั้งยังตอบโจทย์เรื่องการลดต้นทุนที่เกิดขึ้นจากฮาร์ดแวร์และลดภาระการบริหารจัดการระบบของทีมงาน เพื่อให้มีเวลามากขึ้นในการพัฒนาส่วนอื่นๆเพื่อต่อยอดธุรกิจ

อย่างไรก็ดีเมื่อแอปพลิเคชันย้ายขึ้นคลาวด์แล้ว สิ่งที่ต้องได้รับการใส่ใจไม่แพ้กันคือสเถียรภาพของข้อมูล หากมีการสูญเสียหรือบกพร่องเกิดขึ้นองค์กรจะมีมาตรการอย่างไรเพื่อจัดการเรื่องนี้ ด้วยเหตุนี้เอง AIS Business จึงได้จัดงานสัมมนา CloudJump ขึ้นที่ผนวกความเป็นอันดับหนึ่งด้านคลาวด์จาก AWS และซอฟต์แวร์ปกป้องข้อมูลชั้นนำจาก Veeam มานำเสนอให้ผู้เข้าฟังได้รับชม อีกทั้งยังมีรายละเอียดแพ็กเกจจาก AIS Business สำหรับธุรกิจในทุกขนาด เพื่อการันตีว่าข้อมูลสำคัญของท่านจะได้รับการปกป้อง รองรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ

จากผลการจัดอันดับของ Gartner เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า AWS เป็นผู้ให้บริการคลาวด์อันดับหนึ่งของโลกมานับ 10 ปี ซึ่งมีการบริการด้านต่างๆมากมายทั้ง Infrastructure as a Service, SaaS หรือ PaaS ครอบคลุมความคาดหวังจากองค์กรในทุกธุรกิจ ทำให้มี Vendor จาก Third Party หลายรายนำความเชี่ยวชาญของตน มารองรับการใช้งานเหล่านี้ ซึ่งในกลุ่มของพันธมิตรอันแข็งแกร่งในการปกป้องข้อมูล Veeam ก็คือหนึ่งในนั้น

วันนี้ทีมงาน TechTalkThai จะพาทุกท่านไปรู้จักกับบริการจาก AWS ในมุมมองของ S3 Storage ต่อด้วยโซลูชันจาก Veeam ที่สามารถรองรับการทำงานแบบ Cloud-native พร้อมปิดท้ายด้วยแพ็กเกจดีๆจาก AIS Business กันครับ

AWS Storage Services

การออกแบบความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลนั้นเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพราะต้องเจาะลึกลงไปตั้งแต่ความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการ โดย AWS มีจุดเชื่อมต่อตรงสู่บริการคลาวด์กว่า 275 แห่งทั่วโลก รวมถึงพาร์ทเนอร์หลายรายในไทย และในทุก Regions AWS จะวางดาต้าเซ็นเตอร์ไว้อย่างน้อยถึง 3 แห่ง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลจะมีการ Backup ซึ่งกันและกัน โดยคำนึงถึงเรื่องของความห่างที่สามารถรอดพ้นจากภัยพิบัติ แต่ก็ต้องไม่ห่างจนเกิดดีเลย์ในการเดินทางของข้อมูล ตรงนี้เองเป็นเรื่องยากมากที่องค์กรทั่วไปจะสามารถลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานเช่นนี้ มากกว่านั้น AWS ยังการันตีความคงทนของข้อมูลในบริการ S3ไว้สูงถึง 99.999999999% ผู้ใช้งานจึงวางใจได้ว่าข้อมูลของท่านจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดแล้ว

นอกจากโครงสร้างพื้นฐานของดาต้าเซ็นเตอร์ที่ถูกคิดมาอย่างดีแล้วนั้น ในทางเลือกของการใช้งาน AWS ยังได้นำเสนอบริการ Storage ที่ในโครงสร้างราคาที่สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งเรื่องพื้นที่และการเข้าถึง โดยนอกเหนือจาก S3 Standard ที่เป็นการเก็บข้อมูลตามปกติแล้ว หากเมื่อผู้ใช้งานเข้าใจว่าข้อมูลของตนไม่จำเป็นต้องเข้าถึงบ่อย ก็อาจพิจารณาเลือก S3 Standard-IA, S3 Galcier และ S3 Glacier Deep Archive ได้ตามลำดับ เพราะค่าบริการพื้นที่เก็บถูกกว่า ซึ่งข้อมูลยังถูก Replicate ไว้ใน 3 ดาต้าเซ็นเตอร์เหมือนเดิม (Availability Zone) เพียงแต่อาจจะลดความพร้อมเวลาในการเข้าถึงข้อมูล(ตามภาพประกอบ) นอกจากนี้ยังมีเรื่องของค่าบริการที่เกิดขึ้นเมื่อนำข้อมูลออกด้วย(Retrieval fee) โดยข้อมูลที่เข้าถึงไม่บ่อยนักอาจจะเหมาะกับข้อมูลเช่น Log File ที่เก็บตาม พรบ. คอมพิวเตอร์ เป็นต้น

ในกรณีของข้อมูลที่ไม่จำเป็นต้องมีความมั่นคงสูงนัก S3 One Zone-IA มีความพร้อมในการเข้าถึงข้อมูลเสมอ เพียงแต่จะแลกมาด้วยข้อมูลที่เก็บอยู่บน AZ แห่งเดียว อย่างไรก็ดีหากผู้ใช้งานไม่สามารถทราบได้จริงๆว่า การใช้งานข้อมูลของตนถูกเข้าถึงอย่างไร S3 Intelligent Tiering คือเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยทำการจัดข้อมูลให้ท่านอย่างอัตโนมัติว่าข้อมูลนี้ถูกเข้าถึงบ่อยครั้ง หรือไม่มีการใช้งานเลยเพื่อทำการย้ายไปยัง Storage ที่เหมาะสมกับท่านที่สุด 

Veeam Native Cloud Backup & Restore

แม้ว่า AWS จะมีโครงสร้างที่ดีตั้งแต่ระดับการออกแบบ พร้อมกับทางเลือกของ Storage ที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่น แต่อันที่จริงแล้วในระดับการบริหารจัดการนั้นก็ยังมีความซับซ้อน เพราะอย่าลืมว่าองค์กรส่วนใหญ่อาจมีการใช้งานทั้ง On-premise ผู้ให้บริการคลาวด์ในประเทศอย่าง AIS Business หรือ AWS Cloud ที่เรียกกันว่าเป็น Hybrid Cloud ด้วยเหตุนี้ Veeam จึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยแก้ปัญหานี้

Veeam เองได้นำเสนอถึงความเป็น Native Cloud Backup ซึ่งผู้ใช้งานไม่จำเป็นที่จะต้องติดตั้ง Agent บน AWS ของท่าน เมื่อพูดถึงประสิทธิภาพโซลูชันสามารถรองรับได้ทั้งบริการ DBaaS หรือการกู้คืนข้อมูลของฐานข้อมูลในระดับ Table หรือรองรับฐานข้อมูลยี่ห้อต่างๆ เช่น Microsoft SQL, Oracle และอื่นๆ ไม่เพียงเท่านั้นยังครอบคลุมถึงรูปแบบการใช้งานสมัยใหม่อย่าง Container และ Microsoft 365 หรือผลิตภัณฑ์อื่นในรูปแบบของ SaaS ก็ทำได้เช่นกัน ในมุมของ AWS Cloud มีการนำเสนอรูปแบบของการใช้งานไว้ 4 ด้านดังนี้

1.) Backup to Cloud

Best Practice สำหรับการทำ Backup จะมีขั้นตอนหนึ่งที่ต้องการนำข้อมูลออกไปเก็บไว้นอกไซต์ (offsite backup) ซึ่ง AWS ถือเป็นปลายทางที่เหมาะสมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องการเก็บ retention ไว้อย่างยาวนาน โดย Veeam Cloud Tier จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้าง Policy เพื่อการตอบโจทย์ภาพรวมของการทำ Backup ได้ตั้งแต่ On-premise ไปจนถึง Cloud ที่สามารถใช้ประโยชน์จากโครงสร้างราคา และ SLA ของ AWS S3 อย่างเหมาะสมกับความสำคัญของข้อมูลด้วย

2.) Migration to Cloud

ในโจทย์ขององค์กรที่ต้องการย้าย Workload จากต้นทางไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบของ Virtualize จากค่าย VMware, Hyper-V , Nutanix  แม้กระทั่ง physical server ฟีเจอร์ Veeam Direct Restore to AWS จะช่วยให้ท่านสามารถแปลงการทำงานจาก workload ต้นทางมาเป็น AWS EC2 ได้อย่างง่ายดาย โดยสามารถปรับแต่งในส่วนของ Networking, สแกนค้นหามัลแวร์(Secure Restore) พร้อมช่วยคำนวณค่าใช้จ่ายของ AWS ที่เกิดขึ้น 

3.) Backup on Cloud

สำหรับข้อมูลที่อยู่บน AWS โซลูชันของ Veeam ที่เป็น Native Backup สามารถทำการ Snapshot EC2 และ Relational Database Service บน AWS และนำไปเก็บไว้ใน S3 ได้ ในกรณีของการ Backup ตัว VPC กลไกภายในของ Veeam จะอาศัยเซิร์ฟเวอร์ของตนที่อยู่บน AWS เป็นเลเยอร์ในการเก็บข้อมูลและสามารถ copy ไปยัง S3 อีก 1 ชุดตามภาพประกอบ

ไม่เพียงเท่านั้น ในกรณีที่ลูกค้ามี AWS Account หลายตัวและต้องการย้ายข้อมูลข้ามกัน โซลูชัน Veeam Backup Server บน AWS ก็สามารถช่วยรองรับตรงนี้ได้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้เอง Veeam Backup for AWS จึงเป็นสิ่งที่สนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมั่นใจ

4.) Restore from Cloud

อีกมุมนึงสามารถทำ offsite ข้อมูลมายังดาต้าเซ็นเตอร์ของท่านได้ เมื่อข้อมูลของท่านอยู่บน AWS Account ใดๆ ในขากลับนี้ผู้ใช้งานสามารถเลือกปลายทางได้ว่า จะส่งข้อมูลจะกลับไปยังดาต้าเซ็นเตอร์ของท่านแบบ copy ข้อมูล backup ลงมา หรือจะเป็นการ restore มาเป็น server เสมือนก็ได้ ทำให้มีความยืดหยุ่นในการใช้งานได้มากนัก

Data Backup as a Service with AIS 

จากที่กล่าวมาข้างต้นทั้ง Infrastructure ที่แข็งแรงจาก AWS เครื่องมือที่ยืดหยุ่นจาก Veeam คงจะเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าการผสมผสานของทั้งสองคือไอเดียอันทรงพลังที่องค์กรจะมีได้ ทำให้การบริหารจัดการข้อมูลนั้นสะดวก ยืดหยุ่น และปลอดภัย แต่จะดีกว่าไหมหากมีทางเลือกให้องค์กรของท่านทำงานได้ง่ายขึ้นด้วยแพ็กเกจ Data Backup as a Service with AIS

โดย AIS ได้นำเสนอโซลูชันสำหรับการ Backup ข้างต้นไว้ใน 2 รูปแบบคือ

  • On-premise Customer – กรณีที่ลูกค้ามีไซต์เป็นของตัวเองอยู่แล้ว 
  • On AIS Enterprise Cloud Service – กรณีที่ลูกค้าใช้งาน AIS Cloud อยู่แล้ว ซึ่งรูปแบบนี้จะมีราคาถูกกว่าทางเลือกด้านบน

สำหรับประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับนั้นมีหลายข้อดังนี้

  • สามารถออกบิลใบกำกับภาษีค่าบริการทั้งหมดผ่าน AIS ได้แต่ผู้เดียวในสกุลเงินบาท แทนที่ท่านจะต้องไปซื้อบริการแยกผ่านบัตรเครดิตในหน่วยเงินต่างประเทศ
  • มีผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยในเรื่องเชิงเทคนิคตั้งแต่การตั้งค่าด้าน Security, Storage Lifecycle, โซลูชัน Veeam, Policy Backup Job & Retention รวมถึงการตั้งอีเมลแจ้งเตือนให้ลูกค้าทราบเมื่อมีการ Backup ทั้งยังช่วยตรวจทานแผนการคอนฟิคที่เกิดขึ้น
  • มีการติดตามสถานะของการทำงาน
  • ช่วยเหลือลูกค้าในการตรวจสอบและแก้ไขปัญหา
  • ทีมงานประสบการณ์มืออาชีพรับประกันความเชี่ยวชาญด้วยสถานะ AWS Select Consulting Partner และ Veeam Gold Value-Added Reseller และ Silver Cloud & Service Provider

ทั้งหมดนี้เริ่มต้นเพียง 5,xxx ต่อเดือนเท่านั้นสำหรับลูกค้า AIS Enterprise Cloud และ 8,xxx สำหรับลูกค้า On-premise โดยราคาทั้งหมดนี้ได้รวมถึง Veeam License และประโยชน์ด้านบนไว้หมดแล้ว สนใจขอรายละเอียดหรือผู้คุยติดต่อทีมงาน AIS Business ที่ดูแลองค์กรของท่าน หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ businesscloud@ais.co.th


About nattakon

จบการศึกษา ปริญญาตรีและโท สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ KMITL เคยทำงานด้าน Engineer/Presale ดูแลผลิตภัณฑ์ด้าน Network Security และ Public Cloud ในประเทศ ปัจจุบันเป็นนักเขียน Full-time ที่ TechTalkThai

Check Also

[Black Hat Asia 2023] ทำลายห่วงโซ่: มุมมองของคนวงในเกี่ยวกับช่องโหว่ของห่วงโซ่อุปทานซอฟต์แวร์

ยินดีต้อนรับสู่มุมมองของคนวงในเกี่ยวกับช่องโหว่ของห่วงโซ่อุปทานซอฟต์แวร์ หัวข้อนี้ถูกนำเสนอโดยนักวิจัยด้านความปลอดภัยชื่อ Yakir Kadkoda และ Ilay Goldman จาก Aqua Security ซึ่งมีประสบการณ์มากมายในงานด้าน Red Team พวกเขาให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับช่องโหว่ที่แฝงตัวอยู่ในช่วงการพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่เผยถึงความเสี่ยงที่องค์กรต้องเผชิญในการรักษาความปลอดภัยของห่วงโซ่อุปทานซอฟต์แวร์

[Black Hat Asia 2023] สรุป Keynote วันที่ 1 เรื่อง “เตรียมตัวสำหรับการเดินทางอันยาวนานเพื่อความปลอดภัยของข้อมูล”

ข้อมูลถือเป็นปัจจัยที่ 5 ของการผลิต และความปลอดภัยของข้อมูล (Data Security) ก็ได้รับการจัดอันดับให้มีความสำคัญสูงสุดโดยรัฐบาลทั่วโลก ในประเทศจีน กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยข้อมูล เช่น “กฎหมายความปลอดภัยของข้อมูล” และ “กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” ได้รับการประกาศใช้และมีผลบังคับใช้ในปี 2565 …