SEC Consult ได้ตรวจพบการ Hard-coded SSH Host Key และ HTTPS Certificate ในอุปกรณ์นับล้านชิ้นทั่วโลกทั้ง Router, Modem, IP Camera, VoIP Phone และอุปกรณ์อื่นๆ อีกมากมาย โดยในจำนวนนั้นเป็นอุปกรณ์ WAN Router, Firewall, CCTV Camera และ Switch ของ Cisco รวมกว่า 25 ผลิตภัณฑ์ที่ขายไปโดยบริษัท Telstra ซึ่งเป็น Telco ในประเทศออสเตรเลีย รวมถึงยังมีผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตชั้นนำรายอื่นๆ อีกหลายรายด้วยกัน

ปัญหา Hard-coded Key นี้จะส่งผลต่อผู้ใช้งานว่า Traffic ระหว่างผู้ใช้งานและอุปกรณ์เหล่านี้จะสามารถถูกถอดรหัสและทำการโจมตีแบบ Man-in-the-Middle ได้ ซึ่งการ Hard-coded ลักษณะนี้มักจะเกิดจากการ OEM จากผู้ผลิตรายเดียวกัน ทำให้ผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตต่างรายก็อาจใช้ Key เดียวกันได้ โดยมีรายชื่อของผู้ผลิตที่ได้รับผลกระทบนี้ที่เปิดเผยออกมาแล้วได้แก่ Huawei, Zhone, ZTE, ZyXEL, Cisco, General Electric, Ubiquiti Networks, Motorola, Linksys, TP-LINK, Seagate, Vodafone, Deutsche Telekom และ Alcatel-Lucent
ปัจจุบันนี้ยังไม่มี Firmware ที่ออกมาแก้ไขปัญหานี้แต่อย่างใด และทางแก้ที่ผู้ใช้งานสามารถทำได้เองก็คือการเข้าไปเปลี่ยน Key ในตัวอุปกรณ์ด้วยตัวเอง ซึ่งก็ถือว่ายุ่งยากเกินกว่าที่ผู้ใช้งานทั่วไปจะทำได้เอง และคงกลายเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ของเหล่าผู้ผลิตเหล่านี้ไปเลยทีเดียว
ที่มา: http://www.theregister.co.uk/2015/11/27/nine_percent_of_encrypted_traffic_open_to_hijack_from_shared_keys/ , http://www.networkworld.com/article/3009139/millions-of-embedded-devices-use-the-same-hard-coded-ssh-and-tls-private-keys.html#tk.rss_all