TechTalkThai ศูนย์รวมข่าว Enterprise IT ออนไลน์แห่งแรกในประเทศไทย
หลายๆ คนคงได้เห็นข่าวคราวหรือการรีวิว Samsung Galaxy Note 20 Series มือถือรุ่นเรือธงล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวออกมาของ Samsung กันไปแล้ว ซึ่งก็คงจะทำให้ทราบถึงความสามารถใหม่ๆ ทั้งของปากกา, กล้อง และหน้าจอกันไปแล้วไม่น้อย ในครั้งนี้เราจึงอยากหยิบมุมที่แตกต่างของ Samsung Galaxy Note 20 Series สำหรับเน้นตอบโจทย์การทำงานในยุค Next Normal กันบ้าง ซึ่ง Samsung Galaxy Note 20 Series นี้ก็ได้เสริมความสามารถที่น่าสนใจเอาไว้มากมาย จะมีอะไรบ้างนั้น ตามมาชมกันได้เลยครับ
1) Multi-tasking หลายหน้าจอจากอุปกรณ์เดียว ด้วย Samsung DeX แบบไร้สาย
Samsung DeX คือความสามารถที่ Samsung ได้พัฒนาต่อเนื่องเพื่อให้การใช้งาน Smartphone นั้นสามารถทดแทน PC/Notebook ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งล่าสุดใน Samsung Galaxy Note 20 Series นี้ ทาง Samsung ก็ได้เปิดตัวความสามารถใหม่มาให้ Samsung DeX เพิ่มขึ้นอีก และรองรับรูปแบบการใช้งานได้หลากหลายขึ้น ได้แก่
-
ใช้ DeX ได้แบบไร้สาย ทำให้ไม่มีข้อจำกัดอย่างในอดีตที่ต้องพกสายเชื่อมต่อไปใช้งานกันอีกแล้ว ในการใช้งานจริงจึงยืดหยุ่นและสะดวกขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก และใช้กับ Smart TV ได้เลย
-
ใช้ Samsung Galaxy Note 20 Series ในการควบคุมหน้าจอ Smart TV ที่เราเชื่อมต่อผ่าน DeX ได้เลย ทำให้ไม่ต้องพก USB Hub, Keyboard, Mouse อย่างในอดีตกันแล้วสำหรับการใช้งานทั่วๆ ไป
-
สามารถใช้ DeX บนจอ Smart TV พร้อมหน้าจอของ Samsung Galaxy Note 20 Series ได้ ทำให้สามารถแสดงเนื้อหาหรือเปิด App ที่แตกต่างกันบนแต่ละจอ และทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้มากขึ้น เช่น สามารถเปิดหน้าจอประชุมบน Smart TV ในขณะที่เปิดแอปจดโน้ตบนมือถือใช้งานควบคู่กันไปได้เลย
สำหรับธุรกิจองค์กร การใช้ Samsung DeX เพื่อเปลี่ยน Samsung Galaxy Note 20 Series ให้กลายเป็น Thin Client สำหรับเชื่อมต่อ VDI นั้นก็ยังคงเป็น Use Case ที่ถือว่าน่าสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะแปลว่าอุปกรณ์ Smartphone เพียงเครื่องเดียวนี้จะสามารถทำหน้าที่เป็นได้ทั้งโทรศัพท์สำหรับทำงาน และเป็น Thin Client เชื่อมต่อกับ Virtual Desktop โดยสามารถควบคุมด้านความมั่นคงปลอดภัยได้จากศูนย์กลางผ่าน Samsung Knox นั่นเอง
การอัปเกรดครั้งใหญ่ให้กับ Samsung DeX นี้ถือว่าเป็นความสามารถที่โดดเด่นมากและทำให้การใช้งาน Samsung Galaxy Note 20 Series เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น เนื่องจากความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่อไร้สาย และเลือกใช้มือถือเป็นตัวควบคุมหรือใช้งานอื่นไปด้วยได้นี้ก็ทำให้เกิด Use Case ใหม่ๆ ได้มากมาย เรียกได้ว่าเป็นอีกก้าวใหญ่ของ Samsung DeX เลยทีเดียวก็ว่าได้ครับ
2) ปากกากับการทำงานได้อย่างคล่องตัวยิ่งขึ้น
ด้วยปากกาใหม่ที่แม่นยำและตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับหน้าจอที่มี Refresh Rate สูงสุดถึง 120Hz รวมถึงการปรับปรุง Samsung Note ให้มีลูกเล่นใหม่ๆ การใช้ปากกา Samsung S Pen ในการทำงานจึงตอบสนองได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ทั้ง Audio Bookmark ความสามารถในการจดไปพร้อมกับการบันทึกเสียงซึ่งถูกพูดถึงกันค่อนข้างเยอะ, Auto Straighten ที่ช่วยปรับให้ข้อความที่เราจดเอียงนั้นตรงและเป็นระเบียบสวยงาม, Notes Live Sync ที่สามารถ Sync สิ่งที่เราจดหรือวาดข้ามอุปกรณ์ได้ทันที, Advanced Air Action ที่ใช้ปากกาในการควบคุม App ต่างๆ ได้แทน Remote Control ไปจนถึงการที่สามารถเปลี่ยนข้อความที่จดใน Note ไปเป็นเนื้อหาสำหรับส่ง Email ได้อย่างรวดเร็ว ก็ทำให้การทำงานนั้นง่ายขึ้นพอสมควร
3) เชื่อมต่อหลายอุปกรณ์ ประชุมงานได้ง่ายขึ้น
อีกจุดเด่นที่น่าสนใจคือความสามารถในการทำงานร่วมกับอุปกรณ์และระบบอื่นๆ ที่มีมาให้ใน Samsung Galaxy Note 20 Series ซึ่งจะทำให้การทำงานของเราสะดวกขึ้น โดยนอกจาก Samsung DeX ที่ได้เล่าถึงไปในข้อแรกแล้ว ก็ยังมี Link to Windows ที่จะช่วยเราให้เราสามารถ Sync สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในมือถือของเราไปยัง Windows 10 ได้ ช่วยให้เราสามารถมีสมาธิกับการทำงานบน PC/Notebook ได้และไม่ต้องสลับอุปกรณ์ในระหว่างทำงานบ่อยนัก สามารถตอบสนองกับ App ต่างๆ บนมือถือ, รับส่งข้อมูลระหว่างมือถือและ PC/Notebook หรือแม้แต่รับโทรศัพท์หรือเข้าประชุมบนมือถือผ่านหน้าจอ PC/Notebook ได้เลย
นอกจากนี้ เพื่อตอบรับต่อแนวโน้ม Next Normal ที่การทำงานจะเป็นแบบ Hybrid Work ซึ่งทุกคนต้องสามารถทำงานได้จากทุกที่ทุกเวลานั้น ทาง Samsung ก็ได้เสริมความสามารถในการทำงานร่วมกับ Enterprise Collaboration Solution ชั้นนำอย่าง Microsoft Teams และ Cisco Webex ดังต่อไปนี้
-
Microsoft Teams สามารถใช้ Samsung Galaxy Note 20 Series เป็น Walkie-Talkie โดยสามารถใช้ปุ่ม Push-to-Talk บน Samsung Galaxy Note 20 Series เพื่อสื่อสารกับทีมงานได้ทันที เพิ่ม Use Case ให้กับการใช้ Microsoft Teams ให้หลากหลายยิ่งขึ้นกว่าเดิม
-
Cisco Webex Meetings สามารถทำงานร่วมกับ Samsung DeX ที่อัปเกรดใหม่ เปลี่ยน Smart TV ให้กลายเป็นจอประชุมของ Webex ในขณะที่ใช้จอของมือถือในการทำงานอื่นๆ หรือจดประชุมหรือใช้ Audio Bookmark ไปด้วยได้เลย
ส่วนการประชุมในห้องประชุมจริงๆ นั้น Samsung DeX ก็จะสามารถเปลี่ยน Smart TV ในห้องประชุมให้กลายเป็นจอนำเสนอได้แบบไร้สาย ในขณะที่ตัว Samsung Galaxy Note 20 Series เองก็จะถูกใช้เปิดข้อมูลอื่นๆ หรือหน้าบันทึกสิ่งที่ต้องนำเสนอนอกเหนือจากบนสไลด์ได้ ในขณะที่ S Pen นั้นก็จะถูกใช้เพื่อควบคุมการนำเสนอได้ด้วย
4) 5G รองรับการทำงานรูปแบบใหม่ในอนาคต
สำหรับ Samsung Galaxy Note 20 Ultra 5G ที่รองรับการเชื่อมต่อเครือข่าย 5G ได้นั้นก็จะมีความสามารถที่โดดเด่นเพิ่มเติมขึ้นมาอีกไม่น้อย
ประการแรก Samsung Galaxy Note 20 Ultra 5G นี้รองรับการเชื่อมต่อทั้ง 5G และ Wi-Fi 6 ในตัว เรียกได้ว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายทั่วไปไม่น่าจะมีปัญหาด้านความเร็วแต่อย่างใด ในขณะที่การทำ Wi-Fi Hotspot นั้นก็สามารถสร้างเครือข่าย Wi-Fi 5 ขึ้นมาได้ เรียกได้ว่าถ้านำการเชื่อมต่อ 5G มาใช้เพื่อจ่าย Wi-Fi 5 กลายเป็น 5G Hotspot ให้กับอุปกรณ์อื่นๆ อย่างเช่น Notebook ก็จะสามารถทำงานได้ด้วยเครือข่ายที่มีความเร็วสูงมากทีเดียว และอาจใช้ในการทำสิ่งต่างๆ เช่น การใช้เป็นระบบเครือข่ายสำหรับ Office ชั่วคราว หรือการ Live วิดีโอได้เลย เป็นต้น
ประการถัดมา 5G เองก็มี Application ที่มีแผนจะรองรับในอนาคตอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำ Augmented Reality (AR) สำหรับการใช้ในโรงงานหรือสายการผลิต, การฝึกอบรมพนักงาน, การให้บริการลูกค้า, การใช้งานภายในสนามบิน หรืออื่นๆ หรือแม้แต่การนำ Collaboration Application มาใช้เพื่อเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้เป็นทางไกล เช่น การตรวจรักษาผู้ป่วยทางไกลโดยทีมแพทย์, การให้บริการด้านเทคนิคโดยผู้เชี่ยวชาญ หรืออื่นๆ ดังนั้นการที่ธุรกิจมีแผนจะนำ 5G เข้ามาผสานในธุรกิจอยู่แล้ว การเลือกใช้ Samsung Galaxy Note 20 Ultra 5G ก็จะทำให้เกิดความเป็นไปได้ใหม่ๆ มากขึ้นในระดับ Endpoint นั่นเอง
ประการสุดท้าย Samsung Galaxy Note 20 Ultra 5G นี้รองรับ Ultra-Wide Band ซึ่งจะเป็นการใช้ย่านความถี่ใหม่ๆ ในการทำงานได้ เช่น การเปลี่ยนให้ Samsung Galaxy Note 20 Ultra 5G กลายเป็น Digital Key เพื่อใช้แทนกุญแจจริงในการไขเปิดหรืออนุญาตให้ทำสิ่งต่างๆ ได้ ก็จะทำให้ภาคธุรกิจสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ได้ก่อนที่ Ultra-Wide Band จะกลายเป็นที่แพร่หลาย
5) บริหารจัดการง่าย เชื่อม VPN ได้หลากหลายรูปแบบด้วย Samsung Knox
สุดท้ายคือเรื่องของ Security ที่ Samsung Galaxy Note 20 Series นี้ก็ยังมาพร้อมกับ Samsung Knox เช่นเดิม แต่เพิ่มเติมคือการชูความสามารถ Knox VPN Solution ที่จะช่วยให้เราสามารถเชื่อมต่อ Virtual Private Network (VPN) ในรูปแบบที่หลากหลายกลับไปยังระบบเครือข่ายขององค์กรได้ ทั้งการทำ VPN แบบ Full Tunnel ให้ Traffic ทั้งหมดวิ่งผ่านเครือข่ายขององค์กร หรือการเชื่อม VPN เฉพาะสำหรับ Knox Workspace เพื่อจำกัดเฉพาะ Traffic ที่เกี่ยวกับงาน หรือเลือกเฉพาะบาง App ที่จำเป็นต้องเชื่อมต่อไปยัง Data Center ภายในองค์กรเท่านั้นก็ได้เช่นกัน
ในแง่การบริหารจัดการ ทาง Samsung ได้เพิ่ม Knox Suite เข้ามาเป็นทางเลือกเพื่อใช้ในการบริหารจัดการอุปกรณ์จำนวนมากได้ทันทีที่แกะกล่อง ทำให้สามารถทำการตั้งค่าเบื้องต้น, บริหารจัดการ และควบคุมการใช้งาน Samsung Galaxy Note 20 Series และอุปกรณ์อื่นๆ ของ Samsung ได้ผ่าน Cloud เหมาะสำหรับการทำงานในยุค Next Normal เป็นอย่างมาก และ Enroll อุปกรณ์ง่ายกว่าโซลูชันอื่นๆ อย่างชัดเจน
สนใจโซลูชันอุปกรณ์ Smartphone หรือ Tablet สำหรับธุรกิจ ติดต่อทีมงาน Samsung ได้ทันที
สำหรับผู้ที่สนใจโซลูชันด้านการนำ Smartphone หรือ Tablet สำหรับนำไปใช้งานกับธุรกิจ หรือระบบบริหารจัดการอุปกรณ์เหล่านี้ให้มีความมั่นคงปลอดภัยและกำหนดค่าการใช้งานต่างๆ ได้จากศูนย์กลาง สามารถติดต่อทีมงาน Samsung Business ได้ทันทีที่โทร 02-118-1000 หรืออีเมล์ b2b_thailand@samsung.com หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ Samsung Business ได้ที่ https://www.samsung.com/th/business/
