Oracle ผู้ให้บริการโซลูชันฐานข้อมูลและแอพพลิเคชันเชิงธุรกิจบนระบบ Cloud ชื่อดัง ออก Critical Patch Update ประจำไตรมาสแรกของปี 2017 อุดช่องโหว่บนผลิตภัณฑ์ทั้งหมดรวม 270 รายการ ซึ่งมากกว่า 100 รายการเป็นช่องโหว่ที่ช่วยให้แฮ็คเกอร์สามารถทำอันตรายระบบจากระยะไกลโดยไม่ต้องพิสูจน์ตัวตนได้
สรุปรายการช่องโหว่ที่น่าสนใจ
- ช่องโหว่บน Oracle Java SE มีทั้งหมด 17 รายการ 16 รายการเป็นช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตีจากระยะไกลโดยที่แฮ็คเกอร์ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ตัวตน
- ช่องโหว่บน MySQL มี 27 รายการ 5 รายการเป็นช่องโหว่ที่อาจถูกเจาะจากระยะไกลได้ ในขณะที่ Oracle Database มีช่องโหว่รวม 2 รายการ
- Sun Solaris และ Virtual Box มีช่องโหว่อย่างละ 4 รายการ และ 1 รายการนั้นเป็นช่องโหว่บน Kernel ของ Solaris และช่องโหว่บน GUI ที่ใช้โปรโตคอล HTTP ของ Virutal Box ซึ่งช่วยให้แฮ็คเกอร์โจมตีจากระยะไกลได้
- ช่องโหว่ส่วนใหญ่ที่ค้นพบปรากฏบน Oracle Application, Fusion Middleware, Financial Applications และ Retail Applications ซึ่งช่องโหว่เหล่านี้สามารถโจมตีได้ผ่านโปรโตคอล HTTP โดยที่แฮ็คเกอร์ไม่ต้องพิสูจน์ตัวตนแต่อย่างใด
แนะนำผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Oracle วางแผนอัปเดตแพทช์เพื่ออุดช่องโหว่โดยเร็ว