OpenAI ทำรายได้ประจำต่อปีแตะระดับ 10 พันล้านดอลลาร์ ถือเป็นหมุดหมายใหม่ของบริษัทด้านปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ ในขณะที่ความนิยมของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ตามรายงานของ CNBC ตัวเลขดังกล่าวรวมถึงยอดขายจากผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคของบริษัท ผลิตภัณฑ์ ChatGPT สำหรับธุรกิจ และ API โดยไม่รวมรายได้จากการให้สิทธิ์ใช้งานแก่ Microsoft และดีลขนาดใหญ่แบบเป็นครั้ง ๆ ไป
การเติบโตนี้ถือว่าน่าทึ่งมากเมื่อเทียบกับเพียง 18 เดือนก่อนที่ OpenAI มีรายได้ประจำต่อปีเพียง 1.6 พันล้านดอลลาร์ และเพิ่งผ่านมาเพียงสองปีนับตั้งแต่เปิดตัว ChatGPT Plus ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการชำระเงินตัวแรกของบริษัท ทั้งนี้ รายได้ประจำต่อปีที่ 10 พันล้านดอลลาร์ยังมีขนาดเกือบสองเท่าของรายได้ประจำต่อปี 5.5 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้วอีกด้วย
การเติบโตอย่างรวดเร็วนี้เกิดขึ้นจากหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ผู้คนจำนวนมากเริ่มหันมาใช้ AI มากขึ้น โดยในเดือนเมษายน ChatGPT มีผู้ใช้งานอยู่ระหว่าง 800 ล้านถึง 1 พันล้านราย ซึ่งคาดว่ายอดดังกล่าวจะสูงขึ้นอีกในปัจจุบัน เพิ่มขึ้นจาก 400 ล้านรายในเดือนกุมภาพันธ์ การเข้าสู่กระแสหลักถือเป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์การเติบโตของบริษัท และในเดือนเมษายนพบว่าการเติบโตส่วนใหญ่ในปีนี้มาจากการอัปเกรดเป็น ChatGPT-4o ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถสร้างภาพการ์ตูน รวมถึงภาพที่เลียนแบบสไตล์อนิเมะญี่ปุ่นอย่าง Project Ghibli ได้
นอกจากนี้ CNBC ยังรายงานว่า OpenAI มีเป้าหมายจะทำรายได้ถึง 125 พันล้านดอลลาร์ในปี 2029 โดยอ้างอิงจากแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อ
การเติบโตครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ OpenAI ระดมทุนได้ 40 พันล้านดอลลาร์เมื่อปลายเดือนมีนาคม โดยมีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 300 พันล้านดอลลาร์ ทำให้ OpenAI กลายเป็นบริษัทเอกชนที่มีมูลค่ามากเป็นอันดับสองของโลกเทียบเท่ากับ ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok และเป็นรองเพียง SpaceX ของ Elon Musk
OpenAI ไม่เพียงแต่นำเงินทุนที่ระดมมาได้ ซึ่งรวมแล้วอยู่ที่ประมาณ 57.9 พันล้านดอลลาร์ มาใช้ในการขยายธุรกิจและออกแบบโมเดล AI ใหม่ ๆ เท่านั้น แต่ยังใช้เงินทุนดังกล่าวในการเข้าทำข้อตกลงเพื่อเข้าซื้อกิจการต่าง ๆ เพื่อขยายขอบเขตของผลิตภัณฑ์อีกด้วย
ในเดือนพฤษภาคม OpenAI ได้ลงนามในข้อตกลงสองรายการ รายการแรกคือการเข้าซื้อ Windsurf ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยเขียนโค้ดด้วย AI ที่เคยรู้จักกันในชื่อ Codeium มูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นความพยายามในการเสริมความแข็งแกร่งของ OpenAI ด้านผู้ช่วยเขียนโค้ด เนื่องจากการเขียนโค้ดกลายเป็นหนึ่งในการใช้งานหลักของเทคโนโลยี AI เชิงสร้างสรรค์
ต่อมาในเดือนเดียวกัน OpenAI ประกาศเข้าซื้อ io Products ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคที่ก่อตั้งโดย Jony Ive อดีต Chief Design Officer ของ Apple มูลค่า 6.5 พันล้านดอลลาร์ โดย Ive ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์สำคัญของ Apple อย่าง iPhone, iMac และ Apple Watch จะมานำการพัฒนาอุปกรณ์ผู้บริโภคตัวใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ร่วมกับ OpenAI ซึ่งการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ถือเป็นก้าวแรกอย่างจริงจังของ OpenAI ในด้านฮาร์ดแวร์ บ่งชี้ถึงแผนการที่จะผสานปัญญาประดิษฐ์เข้ากับประสบการณ์การใช้งานในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคอย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
ที่มา: https://siliconangle.com/2025/06/09/openai-reaches-10b-annual-recurring-revenue-chatgpt-adoption-accelerates/