NTT DATA ผนึก Palo Alto Networks นำเสนอระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ Cloud-to-Edge พลัง AI สำหรับองค์กรทั่วโลก [PR]

บริการ Managed Detection & Response ใหม่ของ NTT DATA ที่ขับเคลื่อนโดย Cortex XSIAM ของ Palo Alto Networks จะบูรณาการการวิเคราะห์ความปลอดภัยที่คล่องตัว เข้ากับข้อมูลเชิงลึกของภัยคุกคามขั้นสูง เพื่อยกระดับความสามารถในการรับมือทางไซเบอร์ให้กับองค์กร

กรุงเทพ31 ตุลาคม 2024 – NTT DATA (เอ็นทีที ดาต้า) ผู้นำระดับโลกด้านธุรกิจดิจิทัลและบริการไอที ประกาศขยายความร่วมมือกับ Palo Alto Networks (พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส) ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของโลกด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ความร่วมมือนี้มุ่งหวังที่จะเสริมสร้างการป้องกันการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์สำหรับองค์กรทั่วโลก โดยมอบการปกป้องที่แข็งแกร่งทั่วทั้งโครงสร้างดิจิทัล ตั้งแต่สภาพแวดล้อมคลาวด์ไปจนถึงเอดจ์ เพื่อให้เครือข่ายองค์กรไม่ได้รับผลกระทบจากภัยไซเบอร์ที่ขยายตัวไม่หยุด

ภายใต้ความร่วมมือนี้ NTT DATA พร้อมเปิดตัวบริการ Managed Extended Detection Response Service (MXDR) เพื่อมอบความสามารถในการตรวจสอบภัยคุกคาม รวมถึงตรวจจับและตอบสนองอย่างรวดเร็วครอบคลุม บริการนี้ใช้ประโยชน์จากพลังของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) จึงทำให้องค์กรมองเห็นได้ทั่วทั้งเครือข่าย, เอดจ์ และสภาพแวดล้อมคลาวด์ที่หลากหลายแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ทุกองค์กรสามารถก้าวนำหน้าภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่พัฒนาอยู่ตลอดเวลา

บริการ MXDR ใหม่นี้ขับเคลื่อนโดย Cortex XSIAM ของ Palo Alto Networks ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มศูนย์ปฏิบัติการด้านความปลอดภัย (SOC) ชั้นนำของอุตสาหกรรม โดย Cortex XSIAM จะใช้ประโยชน์จากระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อปรับการทำงานของ SOC ให้คล่องตัวขึ้น ทั้งการระบุและกำจัดภัยคุกคามในวงกว้าง รวมถึงเร่งการแก้ไขเหตุการณ์ต่างๆ อย่างทันท่วงที

บริการ MXDR ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้แบบเชิงรุก โดยการผสมผสานความเชี่ยวชาญด้านปฏิบัติการของ NTT DATA เข้ากับเทคโนโลยีขั้นสูงของ Palo Alto Networks ช่วยให้ทุกองค์กรตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามที่ซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว ได้รับประโยชน์จากมุมมองรอบด้านของข้อมูล และการดำเนินการด้านความปลอดภัยผ่านแพลตฟอร์มเดียว

ตามรายงานของ Gartner® “การใช้จ่ายด้านความปลอดภัยของข้อมูลของผู้ใช้ปลายทางหรือเอนด์ยูสเซอร์ทั่วโลก คาดว่าจะมีมูลค่ารวม 2.12 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2025 ซึ่งเพิ่มขึ้น 15.1% จากปี 2024”* ข้อมูลนี้สอดคล้องกับบริการ MXDR ใหม่ของ NTT DATA ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ลูกค้าปรับปรุงการปกป้องระบบดิจิทัลขององค์กรได้ ขณะเดียวกันก็เลี่ยงความซับซ้อน และลดต้นทุนของการมีระบบความปลอดภัยที่แยกส่วนกัน

ตามรายงานของ Gartner® “การใช้จ่ายด้านความปลอดภัยของข้อมูลของผู้ใช้ปลายทางหรือเอนด์ยูสเซอร์ทั่วโลก คาดว่าจะมีมูลค่ารวม 2.12 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2025 ซึ่งเพิ่มขึ้น 15.1% จากปี 2024”* ข้อมูลนี้สอดคล้องกับบริการ MXDR ใหม่ของ NTT DATA ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ลูกค้าปรับปรุงการปกป้องระบบดิจิทัลขององค์กรได้ ขณะเดียวกันก็เลี่ยงความซับซ้อน และลดต้นทุนของการมีระบบความปลอดภัยที่แยกส่วนกัน

คริสตี้ ฟรีดริชส์ (Kristy Friedrichs) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพันธมิตรของ Palo Alto Networks กล่าวเสริมว่า “ปัจจุบัน องค์กรมากมายต้องเผชิญกับภัยคุกคามที่ซับซ้อนในปริมาณมหาศาลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในแทบทุกการดำเนินการ ด้วยการทำงานร่วมกับ NTT DATA เราจึงสามารถเปลี่ยนแปลงและเพิ่มความสามารถของ SOC ผ่านแพลตฟอร์ม Cortex XSIAM และบริการจากผู้เชี่ยวชาญของเรา โดยนำเสนอโซลูชันที่ครอบคลุมให้กับลูกค้า ซึ่งช่วยให้ทุกฝ่ายปรับปรุงและรักษาความปลอดภัยให้กับสภาพแวดล้อมขององค์กรได้อย่างมั่นใจ”

บริการใหม่ MXDR ของ NTT DATA พร้อมนำเสนอการตรวจจับและตอบสนองภัยคุกคามตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน โดยได้รับการสนับสนุนจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลก ซึ่งจะทำงานประสานงานกับระบบตรวจจับข้อมูลภัยคุกคามอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI รวมถึงนักวิเคราะห์ข่าวกรองภัยคุกคาม ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์ดิจิทัล และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยที่ผ่านการรับรอง

บริการนี้ยังผสานรวมข้อมูลข่าวกรองภัยคุกคามแบบเรียลไทม์และใช้การเรียนรู้ของเครื่องเพื่อตรวจจับภัยคุกคามแบบเชิงรุกอย่างแม่นยำ ลดความซับซ้อนในการปฏิบัติงาน เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร และลดต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ (TCO)

ส่งเสริมภาคอุตสาหกรรม ปรับปรุงระบบให้ทันสมัยด้วยความมั่นใจ

ความร่วมมือระหว่าง NTT DATA และ Palo Alto Networks นี้มุ่งตอบสนองความต้องการของภาคอุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งพาสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเชื่อมโยงถึงกัน ทั้งอุตสาหกรรมการผลิต เคมี และเภสัชกรรม ซึ่งจะได้รับประโยชน์หลักหลายด้าน ได้แก่:

  • ความปลอดภัยแบบ Edge-to-Cloud ที่ครอบคลุม: มอบการมองเห็นชัดเจนที่ครอบคลุมทุกเครือข่ายและทุกอุปกรณ์ ช่วยให้เกิดการป้องกันแบบครบวงจรเต็มประสิทธิภาพ
  • การตรวจจับภัยคุกคามด้วยพลัง AI: ตรวจจับและตอบสนองภัยไซเบอร์ผ่านระบบที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยให้บรรเทาภัยคุกคามได้ในความเร็วระดับเครื่องจักร
  • ลดความซับซ้อนและ TCO ที่ต่ำลง: จัดการง่ายขึ้นและเร่งเวลาตอบสนองต่อภัยที่อาจเกิดขึ้นได้บนแพลตฟอร์มเดียว ซึ่งมีอินเทอร์เฟซและระบบ agent หนึ่งเดียวที่รวมฟังก์ชันความปลอดภัยหลายรายการเข้าด้วยกัน
  • ลดดาวน์ไทม์ รับมือกับเวลาหยุดทำงานได้: มั่นใจได้ว่าการดำเนินธุรกิจจะต่อเนื่อง ด้วยโซลูชันแบบบูรณาการและอัตโนมัติของ NTT DATA ซึ่งจะช่วยให้องค์กรเข้าถึงนวัตกรรมระดับโลก

การประกาศครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญครั้งใหม่ในการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ระหว่าง NTT DATA และ Palo Alto Networks โดยเสริมให้ทั้ง 2 บริษัทมีจุดยืนเป็นผู้นำด้านการส่งมอบสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเชื่อมต่อกันสำหรับองค์กรทั่วโลก ทั้งนี้ NTT DATA มีการดำเนินงานในกว่า 50 ประเทศ โดยผสมผสานความเชี่ยวชาญในพื้นที่เข้ากับโซลูชันด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลก ผ่านการสนับสนุนจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์มากกว่า 7,500 คน ที่ถือใบรับรองทางเทคนิคมากกว่า 260 รายการ ปัจจุบัน NTT DATA ผ่านการมีส่วนร่วมด้านความปลอดภัยไซเบอร์มากกว่า 15,000 รายการ และมีประสบการณ์แก้ปัญหาภัยคุกคามไซเบอร์มากกว่า 2 พันล้านรายการต่อปี

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่าง NTT DATA และ Palo Alto Networks โปรดคลิก ที่นี่

* Gartner, Inc. (28 สิงหาคม 2024). “Gartner คาดการณ์ว่าค่าใช้จ่ายด้านความปลอดภัยข้อมูลทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 15% ในปี 2025” [Gartner Forecasts Global Information Security Spending to Grow 15% in 2025]. ข่าวประชาสัมพันธ์.
GARTNER เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนและเครื่องหมายบริการของ Gartner, Inc. และ/หรือบริษัทในเครือที่สหรัฐอเมริกาและทั่วโลก ถูกอ้างถึงในเอกสารนี้โดยได้รับอนุญาต (สงวนลิขสิทธิ์)

About Pawarit Sornin

- จบการศึกษา ปริญญาตรี สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต - เคยทำงานด้าน Business Development / Project Manager / Product Sales ดูแลผลิตภัณฑ์ด้าน Wireless Networking และ Mobility Enterprise ในประเทศ - ปัจจุบันเป็นนักเขียน Full-time ที่ TechTalkThai

Check Also

Neat ผู้บุกเบิกด้านการทำงานร่วมกันผ่านวิดีโอ ตั้งเป้าตลาดสำคัญในเอเชียท่ามกลางกระแสการทำงานแบบไฮบริดที่เฟื่องฟู [Guest Post]

Neat บริษัทด้านเทคโนโลยีวิดีโอชั้นนำของนอร์เวย์ กำลังให้ความสำคัญกับตลาดสำคัญในเอเชียมากขึ้น เนื่องจากความต้องการโซลูชันการทำงานแบบไฮบริดที่เรียบง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้เพิ่มสูงขึ้น จากการเติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาคนี้ Neat จึงเพิ่มการปรากฏตัวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นสองเท่า เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับตำแหน่งผู้นำในการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ทำงานสมัยใหม่

AWS เปิดตัวบริการ Security Incident Response เสริมความแข็งแกร่งด้านความปลอดภัย

AWS ประกาศเปิดตัวบริการใหม่ AWS Security Incident Response สำหรับตรวจจับและแก้ไขการโจมตีทางไซเบอร์ พร้อมให้บริการในงาน AWS re:Invent 2024