งานวิจัยนี้อาจทำให้อุปกรณ์และระบบเครือข่ายขององค์กร มีความยืดหยุ่นได้ในระดับเดียวกับ Data Center ของ Google และ Facebook
ทีมนักวิจัยจาก MIT และองค์กรอื่นๆ อีก 5 แห่ง ได้ร่วมกันพัฒนา Programmable Packet Forwarding Chip ได้สำเร็จ ทำให้อุปกรณ์ Router และ Switch ในอนาคตสามารถทำการอัปเกรดหรือปรับแต่งการทำงานในระดับอัลกอริธึมของ Packet Forwarding Chip ได้ และอาจพลิกโฉมระบบเครือข่ายขององค์กรให้มีความยืดหยุ่นได้เท่า Data Center ขนาดใหญ่อย่าง Google หรือ Facebook ที่ทำการพัฒนาระบบ Packet Forwarding ของตนเองได้เลยทีเดียว
ที่ผ่านมาอัลกอริธึมในการทำ Packet Forwarding นั้นถูก Hard-Coded เอาไว้บนตัว Packet Forwarding Chip เลย ทำให้พฤติกรรมการทำงานของอุปกรณ์เครือข่ายแต่ละชุดในเชิงลึกๆ มีความตายตัว และไม่สามารถอัปเกรดได้
แรงบันดาลใจของงานวิจัยในครั้งนี้เกิดขึ้นมาจากความต้องการที่จะทำให้การทำ DevOps นั้นสามารถลงลึกได้ถึงระบบของระบบเครือข่ายภายใน Data Center เฉกเช่นกับที่สามารถทำได้กับฝั่ง Server และ Application โดยผลสำเร็จของงานวิจัยนี้ก็จะทำให้การทำ Software Defined Networking (SDN) สามารถรองรับการปรับแต่งการทำ Packet Forwarding ได้ลึกยิ่งขึ้นกว่าเพียงแค่ระดับ Data Plane เพื่อรองรับ Application ในรูปแบบที่แตกต่างกันได้ตามต้องการโดยไม่สูญเสียประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์ลงไป
ทางทีมวิจัยได้ให้ความเห็นเอาไว้ว่า การทำให้ Packet Forwarding Chip นี้รองรับการโปรแกรมโค้ดการทำงานลงไปใหม่ได้นั้น จะใช้พื้นที่ประมวลผลบนชิปเพียงราวๆ 4% เท่านั้น และไม่น่าจะทำให้ราคาของอุปกรณ์เหล่านี้สูงกขึ้นมากนัก ในขณะที่เหล่าองค์กรเองก็จะได้ประโยชน์จากความยืดหยุ่นที่เพิ่มขึ้น และเหล่าผู้ผลิตเองก็สามารถนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ แก่ลูกค้าองค์กรในลักษณะของการอัปเดต Software ได้