หัวหน้าแผนก Cloud Services แห่ง Lonely Planet จะมาร่วมแปลกเปลี่ยนประสบการณ์ในฐานะของวิทยากรในงาน DCD>Thailand ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2017 ที่จะถึงนี้

ธุรกิจผลิตหนังสือนำเที่ยวและสื่อท่องเที่ยวชั้นนำอย่าง Lonely Planet ได้เคยเป็นข่าวครั้งใหญ่ในปี 2014 เมื่อทาง Lonely Planet ได้ทำการย้ายระบบทั้งหมดขึ้นไปยัง Cloud ของ Amazon Web Services เพื่อเตรียมรองรับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของบริษัทที่ย้ายไปเป็นรูปแบบ Digital เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น และนับจากนั้นมา Lonely Planet ก็ได้กลายเป็นกรณีตัวอย่างของการทำ Cloud Migration ที่โด่งดังไป โดยคุณ Darragh Kennedy ผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าแผนก Cloud Services แห่ง Lonely Planet และเป็นผู้นำในการดำเนินการย้ายระบบครั้งนั้นก็จะมาร่วมเป็นวิทยากรในงาน DCD>Thailand 2017 เพื่อเล่าถึงประสบการณ์ของทีมงาน Lonely Planet ในครั้งนั้น
คุณ Darragh Kenney จะมาเป็นวิทยากรในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ณ งาน DCD>Thailnad ในหัวข้อ “Case study: Lonely Planet’s journey to Cloud/SaaS” ซึ่งเนื้อหาจะครอบคลุมถึง 3 ขั้นตอนใหญ่ในการย้ายระบบขึ้นไปยัง Cloud, บทเรียนที่น่าสนใจในประสบการณ์ครั้งนั้น และประโยชน์ที่ธุรกิจจะได้รับจากการย้ายไปใช้ Cloud
เมื่อถามถึงเหตุการณ์การย้ายระบบของ Lonely Planet ขึ้นไปยัง Cloud คุณ Darragh ก็ได้ให้ความเห็นว่า “เราได้เริ่มย้ายระบบเป็นเจ้าแรกๆ โดยเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2012 และในสมัยนั้นการย้ายระบบทั้งหมดขึ้นไปยัง Public Cloud นั้นก็ถือเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ไม่บ่อยนักในธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้น และหลังจากย้ายระบบเสร็จ ความเสถียรของระบบก็สูงขึ้นเป็นอย่างมาก อีกทั้งผู้ให้บริการ Public Cloud เองก็ยังมีการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ อย่างรวดเร็วต่อเนื่อง ทำให้มีบริการใหม่ๆ ที่เราใช้เพิ่มขึ้นมามากมาย ส่วนในอนาคตนั้น เราได้เริ่มใช้งานบริการ Serverless บางส่วนแล้ว ซึ่งก็ทำให้เราสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้นไปอีก”
ประเทศไทยนั้นถือเป็นประเทศที่โดดเด่นเมื่อเปรียบเทียบกับตลาด IT ในหมู่ประเทศแถบอินโดจีนด้วยกัน เนื่องจากสามารถนำเสนอบริการระบบ IT ที่มีความเสถียรสูงและประหยัดค่าใช้จ่ายแก่เหล่าองค์กรได้ ด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และการย้ายระบบต่างๆ ขึ้นมายัง Cloud การแบ่งปันประสบการณ์ของคุณ Kennedy ครั้งนี้ก็ถือว่าประจวบเหมาะกับเวลาในตลาดเมืองไทย ซึ่งพร้อมที่จะรับฟังแนวคิดและประสบการณ์ในการย้ายระบบขึ้นไปยัง Cloud พอดี
“งาน DCD นี้ถือเป็นโอกาสอันดีมาโดยตลอดในการได้ทำความรู้จักกับชุมชนชาว IT โดยเหล่าผู้เล่นรายใหญ่ในแต่ละภูมิภาคนั้นจะมาร่วมงานอยู่เสมอ ทำให้เหมือนกับเป็นงานรวมญาติก็ว่าได้ ซึ่งผมเองก็รอคอยที่จะได้แบ่งปันความคิดเห็นและบทเรียนที่ผมได้รับให้กับวงการนี้ในช่วงการบรรยายของผม ประเทศไทยนั้นถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพที่จะเติบโตในอีกไม่กี่ปีถัดจากนี้ ดังนั้นจึงถือเป็นสถานที่ที่เหมาะในการจัดงานครั้งนี้เป็นอย่างมาก” คุณ Darragh เสริม ทั้งนี้คุณ Darragh นั้นถือเป็นหนึ่งในวิทยากรระดับนานาชาติซึ่งจะมีด้วยกันทั้งสิ้น 20 ราย ที่จะมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ในวงการ IT และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับเทคโนโลยีล่าสุดรวมถึงนวัตกรรมใหม่ๆ ภายใน Cloud Data Center ในงาน DCD>Thailand 2017 ที่กำลังจะจัดขึ้นนี้
ผู้ที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนด สามารถสมัครเข้าร่วมงานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
DCD ได้เปลี่ยนมาใช้ระบบการจัดงานเป็นแบบการเชิญผู้ที่สนใจให้สามารถเข้าร่วมงานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับเหล่าผู้บริหาร, ผู้จัดการ และผู้เชี่ยวชาญทางด้าน IT, Data Center และ Cloud Infrastructure แทนระบบเดิม ดังนั้นหากธุรกิจของคุณนั้นมี Data Center เป็นของตัวเองทั้งภายในและภายนอกองค์กร หรือเป็นองค์กรที่มีการใช้งาน Data Center และบริการ Cloud และทำงานอยู่ในส่วนของการวางแผน, จัดซื้อ, ติดตั้ง หรือดูแลรักษาระบบ IT คุณก็มีสิทธิ์สมัครเพื่อทำการคัดเลือกในการเข้าร่วมงานนี้ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเช่นกัน
และตอนนี้ DCD ก็ได้มีการเปิดบัตร “Professional Advisory Pass” สำหรับที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญทางด้าน IT ที่มีบทบาททางด้านการบริหาร ก็สามารถเข้าร่วมงานได้โดยจำกัดสิทธิ์ที่ 1 คนต่อ 1 องค์กรเท่านั้น
ผู้ที่สนใจสามารถสมัครได้ทันทีที่ http://www.dcdconverged.com/conferences/thailand-2017#tickets