ทีมนักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก IOActive ได้สาธิตการโจมตีระบบ In-Flight Entertainment System บนสายการบินชั้นนำ และเข้าควบคุมระบบแสดงข้อมูล, ระบบประกาศข่าวสาร และยังขโมยข้อมูลบัตรเครดิตของผู้โดยสารคนอื่นๆ ได้ รวมถึงยังอาจมีสิทธิ์เข้าควบคุมระบบจัดการการบินได้อีกด้วย
การทดสอบโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นกับเครื่องบินที่ใช้ระบบ In-Flight Entertainment System จาก Panasonic Avionics In-Flight Entertainment (IFE) ที่มีการใช้งานบนสายการบินชั้นนำถึง 13 แห่งใหญ่ๆ ด้วยกัน ได้แก่ American Airlines, United, Virgin, Emirates, Etihad, Qatar, FinnAir, KLM, Iberia, Scandinavian, Air France, Singapore, and Aerolineas Argentinas ซึ่งระบบนี้มีช่องโหว่จำนวนมากและสามารถนำมาใช้ในการโจมตีได้ต่อเนื่องหลากหลาย (แต่ในข่าวไม่ได้ระบุว่ายังมีสายการบินอื่นที่ใช้ระบบนี้อีกหรือไม่)
ทางนักวิจัยของ IOActive ได้ออกมาเล่าถึงผลกระทบจากช่องโหว่เหล่านี้ ว่าการโจมตีเหล่านี้สามารถใช้ควบคุมการแสดงผลบนหน้าจอของระบบ IFE, การเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่จะทำการแสดงผลแก่ผู้โดยสารคนอื่นๆ, การเข้าควบคุมระบบประกาศข่าวสารบนเครื่องบิน, การ Bypass การตรวจสอบบัตรเครดิต ไปจนถึงการขโมยข้อมูลบัตรเครดิตของผู้โดยสารคนอื่นๆ ที่ทำการสั่งซื้อสินค้าและจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตได้
สำหรับความเป็นไปได้ที่ช่องโหว่นี้จะนำไปสู่การโจมตีระบบจัดการการบินได้หรือไม่นั้น ทาง IOActive ได้ออกมาอธิบายว่าโดยทั่วไปแล้วระบบของเครื่องบินนั้นจะแยกส่วนของการควบคุมการบินออกจากระบบการจัดการความบันเทิงบนเครื่องบิน แต่ก็ไม่ใช่ทุกสายการบินที่จะแยกสองระบบนี้ออกจากกันอย่างเด็ดขาด ดังนั้นก็ยังอาจมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดอันตรายจากประเด็นนี้
ช่องโหว่เหล่านี้ถูกรายงานไปยัง Panasonic Avionics ตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2015 แล้วจนทาง IOActive เชื่อว่าเหล่าสายการบินน่าจะมีเวลาจัดการ Patch ช่องโหว่เหล่านี้หมดแล้ว แต่ทาง IOActive เองก็ไม่ได้รับรายงานใดๆ จึงได้ออกมาเปิดเผยช่องโหว่เหล่านี้ เพราะจริงๆ ก็พูดยากเหมือนกันว่าตกลงสายการบินเหล่านั้นได้จัดการ Patch ช่องโหว่ไปหมดหรือยัง แต่อย่างน้อยสายการบิน Emirates ก็ได้ออกมายืนยันแล้วว่าได้ทำงานร่วมกับทาง Panosonic และหมั่นอัปเดตระบบเหล่านี้ให้ปลอดภัยอยู่เสมอ
ที่มา: http://thehackernews.com/2016/12/hacking-in-flight-system.html , http://blog.ioactive.com/2016/12/in-flight-hacking-system.html