“ความยั่งยืน” คือหนึ่งในเทรนด์และประเด็นสำคัญที่ต้องร่วมมือกันอย่างเร่งด่วนในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะเรื่องการปล่อยคาร์บอน และก๊าซเรือนกระจกที่ต้องลดลงไปให้ได้มากที่สุด รวมทั้งการใช้พลังงานที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
จากการเปิดตัวโซลูชัน Climate Technology Platform ของ True Digital Group ร่วมกับ Alibaba Cloud ทีมงานได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณ William Xiong รองประธาน Alibaba Cloud Intelligence และผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจระหว่างประเทศด้านโซลูชันอุตสาหกรรม ที่นอกจากมาเปิดตัว “Energy Expert” อย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ว ยังได้มาแบ่งปันวิสัยทัศน์ในเรื่องความยั่งยืนของ Alibaba Cloud ที่ต้องการให้เทคโนโลยีความยั่งยืนอยู่ทุกหนทุกแห่งอีกด้วย
ผลิตภัณฑ์ Energy Expert คืออะไร อะไรคือแนวทางที่ Alibaba Cloud จะเดินหน้าต่อไปเพื่อทำให้วิสัยทัศน์นั้นเป็นจริง และอะไรคือกุญแจสำคัญที่คุณ William มองว่าจะทำให้ความยั่งยืนสามารถเกิดขึ้นได้ในองค์กร ติดตามได้ในบทความนี้
รู้จัก Alibaba Cloud Energy Expert คืออะไร
Energy Expert เป็นหนึ่งในโซลูชันด้านความยั่งยืน (Sustainability) ของทาง Alibaba Cloud ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถวิเคราะห์วัดผลการใช้พลังงานและการปล่อยคาร์บอน (Carbon Emission) ที่เกิดขึ้นภายในกิจกรรมทางธุรกิจหรือกระบวนการสร้างผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
Credit : Alibaba News
โดยเบื้องหลังของ Energy Expert คือ “เทคโนโลยี AI” ที่มีการประมวลผลข้อมูลองค์กรที่จัดเก็บมาจากสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เพื่อมาสร้างแผนภาพสรุปให้เห็น เช่น การใช้พลังงาน การปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gases หรือ GHG) หรือคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) ว่าเป็นอย่างไร มีความคืบหน้าหรือเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่
จุดเด่นที่สำคัญของโซลูชันนี้คือทำให้องค์กรมองเห็น “สถานะปัจจุบัน” ในด้านความยั่งยืนผ่านตัวเลขกับแผนภาพที่เข้าใจได้ง่ายว่าตอนนี้เป็นอย่างไร อยู่ในระดับใดแล้วได้อย่างสะดวกรวดเร็ว เพื่อให้องค์กรจะสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์กระบวนการใช้พลังงานได้อย่างมีระบบ วางแผนการลดการปล่อยคาร์บอนให้ได้น้อยลงตามเป้าหมายที่ต้องการ และในท้ายที่สุดคือการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนได้ดังที่ตั้งใจหรือปฏิญาณไว้ได้
2 ส่วนหลักภายใต้ Alibaba Cloud Energy Expert ที่ขับเคลื่อนด้วย AI
ภายใต้โซลูชัน Energy Expert ของ Alibaba Cloud นั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อสนับสนุนให้องค์กรมีความยั่งยืนได้มากยิ่งขึ้น ได้แก่
- การประหยัดพลังงาน (Energy Saving) การวางแผนการใช้พลังงานภายในองค์กร ผ่านการวิเคราะห์และวางกลยุทธ์ในการใช้พลังงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และไม่ใช้พลังงานสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ เช่น การจัดการอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศตามจำนวนคนในแต่ละพื้นที่ เป็นต้น
- การบริหารจัดการคาร์บอน (Carbon Management) การบอกสถานะการปล่อยคาร์บอนขององค์กรหรือการคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในปัจจุบัน เพื่อให้องค์กรสามารถจัดการเรื่องการปล่อยคาร์บอนให้น้อยลง จัดการเรื่องคาร์บอนเครดิตเพื่อให้สอดคล้องและบรรจุเป้าหมายการเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ขององค์กรได้ต่อไป
เป้าหมาย “ทำให้เทคโนโลยีความยั่งยืนอยู่ทุกหนทุกแห่ง”
ปัจจุบัน Energy Expert ได้ถูกนำไปใช้ในวงกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากความยั่งยืนได้กลายเป็นประเด็นสำคัญ โดยคุณ William เผยว่าตอนนี้มีองค์กรมากกว่า 3,000 แห่งทั่วโลกแล้วที่ใช้งานโซลูชันจาก Alibaba Cloud อยู่ในปัจจุบัน รวมทั้ง Olympic Esports Week ในปี 2023 ที่จัดในสิงคโปร์เมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว และในงาน HangZhou Asian Games เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี คุณ William เผยว่าก่อนหน้านี้ โซลูชัน Energy Expert จะมีลักษณะเหมือนกล่องดำ (Black Box) ที่ไม่รู้ว่าด้านหลังระบบนั้นเกิดอะไรขึ้น จึงทำให้ Alibaba Cloud ต้องการปรับให้เทคโนโลยีความยั่งยืนมีความเปิดกว้าง (Open) มากขึ้นและขับเคลื่อนด้วย AI มากขึ้น เพื่อทำให้เทคโนโลยีความยั่งยืนสามารถไปอยู่ในทุกหนทุกแห่ง และสนับสนุนองค์กรได้มากขึ้นกว่าเดิม
“เป้าหมายสำคัญของพวกเรา คือการทำให้เทคโนโลยีความยั่งยืนอยู่ทุกหนทุกแห่ง (Make sustainability technology everywhere)” คุณ William กล่าว “ด้วยเหตุนี้ พวกเราจึงพยายามทำให้โซลูชันเปิดกว้างมากขึ้น และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI ร่วมกับความรู้ในอุตสาหกรรมความยั่งยืนเชิงลึก เพื่อทำให้แพลตฟอร์มดีขึ้นกว่าเดิม”
เปิด API และโมเดล AI เข้าถึง Energy Expert ได้ง่ายขึ้น
หลังจาก HangZhou Asian Game เมื่อปีที่แล้ว คุณ William อัปเดตว่าทาง Alibaba Cloud ได้เพิ่มขีดความสามารถเพื่อทำให้องค์กรทั่วโลกสามารถเข้าถึง Energy Expert ได้มากขึ้นกว่าเดิม โดยมี 2 ส่วนที่เพิ่มเติมเข้ามา ได้แก่
เปิด API เชื่อมโยงกับระบบหลังบ้านของตัวเองได้ทุกขั้นตอน
Alibaba Cloud ได้เปิด Energy Expert Sustainability Open API Microservice เพื่อให้องค์กรเชื่อมโยงระบบจากแกนหลักธุรกิจ (Core Business) ขององค์กรกับ Energy Expert ได้ทั้งส่วน Energy Saving และ Carbon Management ได้มากมาย โดยองค์กรสามารถฝัง API ดังกล่าวไว้ภายในกระบวนการแต่ละส่วนได้ทุกขั้นตอน ซึ่งจะทำให้องค์กรมีแนวทางการจัดการพลังงานด้วย Energy Expert ที่แม่นยำยิ่งขึ้น และมองเห็นการใช้พลังงานหรือการปล่อยคาร์บอนได้ในทุกขั้นตอน
“เพื่อให้ธุรกิจต่าง ๆ มีความยั่งยืนมากขึ้น พวกเราจึงเลือกที่จะเปิด Open API และ Microservice เพื่อให้พาร์ตเนอร์หรือลูกค้าของพวกเราสามารถฝังขีดความสามารถเหล่านี้เข้าไปในระบบของตัวเองได้ เพื่อให้องค์กรสามารถวางแผนการใช้พลังงาน และปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ง่ายขึ้น” คุณ William กล่าว
เปิดโมเดล AI เสริมขีดความสามารถด้วย LLM
แม้ว่าเบื้องหลัง Energy Expert จะเป็น AI อยู่แล้วทั้งการแนะนำหรือปรับปรุงการใช้พลังงานหรือปล่อยคาร์บอน หากแต่ Alibaba Cloud ยังเพิ่มขีดความสามารถของ AI อย่างต่อเนื่อง และล่าสุดนี้คือการเพิ่มความสามารถของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model หรือ LLM) เพื่อให้ช่วยสร้างรายงานบางส่วนหรือคำนวณข้อมูลบางอย่างเพื่อประกอบรายงานให้เร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม
“พาร์ตเนอร์และลูกค้าจะสามารถเข้าถึงข้อมูลพื้นฐานและโมเดลฐานต่าง ๆ ได้ พร้อมกับสามารถประยุกต์ใช้เทคนิค RAG เพื่อเสริมให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยเรื่องความมั่นคงปลอดภัย (Security) ในข้อมูลได้มากขึ้นด้วย” คุณ William กล่าวเสริม
ร่วมมือกับ True Digital Group เริ่มบริการลูกค้ารายแรกในไทย
จากความร่วมมือกับ True Digital Group (TDG) เปิดตัว Climate Technology Platform ที่มีการเชื่อมโยงกับโซลูชัน Energy Expert ของ Alibaba Cloud สิ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการทำให้เทคโนโลยีความยั่งยืนอยู่ทุกหนทุกแห่งได้ง่ายขึ้น และผลลัพธ์ก็เป็นดังที่ต้องการ เพราะโรงพยาบาลกรุงเทพคือลูกค้าองค์กรรายแรกในไทยที่เริ่มใช้งานตั้งแต่ช่วงปลายปี 2023 แล้ว
โดยในเฟสเริ่มต้นคือการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของโรงพยาบาลนั่นคือ “ระบบทำความเย็น” ด้วยการใส่อุปกรณ์เซ็นเซอร์ AIoT เพื่อให้มีข้อมูลส่งต่อไปยังโซลูชันบน Cloud ที่ทำให้เห็นสถานะการใช้พลังงานในปัจจุบันได้สำเร็จ จากนั้นจึงใช้ AI เพื่อช่วยบริหารจัดการให้ดีขึ้น เช่น ปรับอุณหภูมิแอร์ให้เหมาะสมตามพื้นที่และช่วงเวลา เป็นต้น
หลังจากโรงพยาบาลได้ใช้งาน Climate Technology Platform ไปราว 4 เดือน สิ่งที่เกิดขึ้น ได้ทำให้โรงพยาบาลสามารถประหยัดพลังงานของระบบทำความเย็นได้เฉลี่ยราว 20% แล้วจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 15% เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย
อุตสาหกรรมไทยมีศักยภาพอย่างมาก หลากหลาย Use Case ยั่งยืนได้มากขึ้นอีก
หลังจากได้เห็นผลลัพธ์ของ Climate Technology Platform กับลูกค้ารายแรกในไทยแล้ว ก็ได้ทำให้ Alibaba Cloud เห็นโอกาสอีกมากขององค์กรไทย เพราะโรงพยาบาลกรุงเทพได้เริ่มทดลองนำร่องใช้งานโซลูชันเพียงแค่ส่วนเดียวเท่านั้น ซึ่งยังมีอีกหลากหลายระบบงานหรือโรงพยาบาลในเครือแห่งอื่น ๆ รวมทั้งในกลุ่ม TDG ที่จะสามารถนำแพลตฟอร์มไปปรับใช้ได้อีกด้วย
“เราคิดว่าเรายังทำได้มากกว่านี้อีก และจะทำให้ลูกค้าสำหรับตลาดไทยเข้าถึงได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม” คุณ William กล่าว “เราเริ่มมีองค์กรไทยมากมายสนใจติดต่อใช้งานโซลูชัน Energy Expert แล้ว ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมสาธารณสุข บริหารจัดการสินทรัพย์ หรือมหาวิทยาลัย เพราะสิ่งนี้สร้างมูลค่าให้กับลูกค้า และพวกเราจะสามารถช่วยประหยัดพลังงานได้มากถึง 15% อย่างรวดเร็ว”
นอกจากโรงพยาบาลแล้ว คุณ William ยังมองเห็นศักยภาพในอีกหลากหลายอุตสาหกรรมในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรมการผลิต ยานยนต์ และพลังงาน ที่เชื่อว่าโซลูชัน Energy Expert จะสามารถช่วยทำให้ประหยัดพลังงานและจัดการคาร์บอนได้ดีขึ้นอีกอย่างมีนัยสำคัญ
“ภาคการผลิต ยานยนต์ และพลังงาน คืออุตสาหกรรมที่มีความสำคัญและมีศักยภาพอย่างมาก เพราะองค์กรในอุตสาหกรรมเหล่านี้คือผู้ใช้พลังงานทั้งสิ้น ซึ่งองค์กรเหล่านั้นจะต้องใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี เพื่อช่วยลดและปรับปรุงการผลิตและการใช้พลังงานให้ดีขึ้น เพื่อให้สอดรับกับกฎระเบียบที่ต้องปฏิบัติตาม (Compliance) ต่าง ๆ ได้” คุณ William กล่าว
โดยคุณ William ได้ยกตัวอย่างว่าในอนาคตเรื่องความยั่งยืนนั้นจะส่งผลต่อการตลาดด้วย เพราะในอนาคตผู้บริโภคจะสนใจทั้งห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) เช่น ในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ผู้ซื้อจะเริ่มสนใจรถยนต์ที่ออกจำหน่ายออกมานั้นผ่านกระบวนการผลิตหรือเลือกใช้ชิ้นส่วนที่ปล่อยคาร์บอนต่ำแล้วหรือไม่ เป็นต้น
ผ่านใบรับรอง SGS หรือ TÜV Rheinland เร็วสุดภายใน 7 วัน
หากองค์กรใดที่ต้องการขอใบรับรอง SGS หรือ TÜV Rheinland ในเรื่องความยั่งยืน คุณ William ได้บอกเล่าให้ฟังว่าผลิตภัณฑ์ Energy Expert ของ Alibaba Cloud สามารถช่วยให้การผ่านมาตรฐานเหล่านั้นง่ายและเร็วขึ้นได้อย่างมาก
โดยคุณ William เล่าให้ฟังว่ามี Use Case หนึ่งที่ Energy Expert สามารถทำให้องค์กรขอใบรับรองให้กับชิ้นส่วนอุปกรณ์หนึ่งจาก SGS ได้เร็วสุด ๆ หลังใช้งานโซลูชันไปเพียงแค่ 7 วันเท่านั้น
“Energy Expert สามารถสร้างรายงาน ESG ให้กับองค์กรได้อย่างรวดเร็ว จากก่อนหน้านี้ที่ต้องทำเป็นหลักเดือน ตอนนี้สามารถทำให้สำเร็จได้เร็วขึ้น ในระดับที่สามารถขอใบรับรองจาก SGS ได้เร็วสุดคือ 7 วันมาแล้ว” คุณ William กล่าว
สิ่งที่ทำให้สามารถขอใบรับรองผ่านได้อย่างรวดเร็วนั้นเป็นเพราะภายในโซลูชัน Energy Expert นี้มี “ค่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการผลิต (Emission Factor) ให้เลือกใช้งานได้เลยมากกว่า 200,000 แบบ” จากฐานข้อมูลอย่างเป็นทางการที่มีการอัปเดตอย่างสม่ำเสมอ
โดยสิ่งนี้จะช่วยทำให้การคำนวณเพื่อขอใบรับรองนั้นเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและเป็นมาตรฐาน ซึ่งหากยังไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ภายในโซลูชันจะช่วยแนะนำให้ว่าหากปรับเปลี่ยนวัสดุบางส่วนก็จะเปลี่ยนค่า Emission Factor ไป ซึ่งจะช่วยลดค่าการปล่อยคาร์บอนลงไปได้ เป็นต้น และเมื่อผ่านเกณฑ์แล้วก็สามารถขอใบรับรองผ่านโซลูชันได้ทันทีอีกด้วย
ชี้ 3 กุญแจสำคัญในการทรานส์ฟอร์มให้กลายเป็น “องค์กรแห่งความยั่งยืน”
แม้คำแนะนำของคุณ William จะดูพื้นฐาน แต่ก็ถือว่าเป็นขั้นตอนที่ทำได้ทันทีสำหรับองค์กรที่ต้องการเริ่มต้นการเป็น “องค์กรแห่งความยั่งยืน” โดย 3 กุญแจสำคัญ ได้แก่
- ค้นหา Pain Point ให้เจอ ต้องเข้าใจปัญหาขององค์กรก่อนว่าตอนนี้กำลังพบเจอกับปัญหาอะไร ต้องการแก้ไขปัญหาอะไร เช่น ใช้พลังงานในส่วนใดมากเกินไป ปล่อยคาร์บอนมากเกินไป เป็นต้น
- ตั้งเป้าหมายที่ต้องการจะไปให้ถึง หลังจากหา Pain Point เจอแล้ว ต่อไปคือการกำหนดเป้าหมายที่ต้องการจะบรรลุให้ถึงอย่างชัดเจนและวัดผลได้ เช่น ต้องการลดการใช้พลังงานจากการดำเนินการในส่วนดังกล่าวให้ได้ 10% หรืออยากจะเป็นองค์กร Net Zero Emission ให้ได้ภายใน 10 ปี เป็นต้น
- ปรับใช้เทคโนโลยีติดตามวัดผลที่ถูกต้อง ด้วยเครื่องมือที่มีความพร้อมแบบครบวงจร ที่สามารถบอกสถานะปัจจุบันที่วัดค่าได้ว่าองค์กรยังคงดำเนินไปในแนวทางที่สอดคล้องกับเป้าหมายที่วางไว้อยู่หรือไม่ และถ้าหากไม่ ควรจะดำเนินการอย่างไร เพื่อจะได้ปรับเปลี่ยนกระบวนการได้ทันท่วงที
โซลูชันด้านความยั่งยืนอื่น ๆ เตรียมมาให้บริการตลาดไทยในอนาคต
นอกจาก Energy Expert โซลูชันแบบ SaaS ที่เหมาะกับองค์กรทั่วไปแล้ว ทาง Alibaba Cloud ยังมีอีก 2 โซลูชันที่จะช่วยเสริมเรื่องความมยั่งยืนที่ทางบริษัท ได้แก่
- Carbon Vision แพลตฟอร์มบริหารจัดการการปล่อยคาร์บอนสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ ที่จะช่วยให้องค์กรสามารถตรวจสอบการจัดการคาร์บอนได้แบบ Real Time
- Low Carbon Community แอปพลิเคชันสำหรับชุมชน เพื่อสนับสนุนความรู้ในเรื่องความยั่งยืน และเสริมกิจกรรมหรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้มีการปล่อยคาร์บอนต่ำ
หากองค์กรไทยสนใจใช้งานโซลูชัน Energy Expert ติดต่อ Alibaba Cloud ได้ทันที
เนื่องจากประเทศไทยได้ประกาศเป้าหมายที่จะบรรลุการเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี 2065 ในเวทีการประชุม COP27 ที่ผ่านมา ดังนั้น ทุกภาคส่วนจึงต้องร่วมด้วยช่วยกัน ซึ่งนอกจากจะทำเพื่อเป้าหมายดังกล่าวให้เป็นจริงได้แล้ว ยังเป็นการช่วยกันทำให้ปัญหาสภาพภูมิอากาศของโลกไม่เลวร้ายไปกว่าเดิมอีกด้วย
ดังนั้น Energy Expert จาก Alibaba Cloud ที่ได้เชื่อมโยงกับ Climate Technology Platform ของ TDG เรียบร้อยแล้ว คืออีกหนึ่งแนวทางในการสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กรได้แบบครบวงจร ที่จะทำให้มองเห็นสถานะการปล่อยคาร์บอนและการใช้พลังงานขององค์กรได้ดีขึ้น รวมทั้งยังสามารถบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย
และหากองค์กรใดสนใจผลิตภัณฑ์ Energy Expert หรือ Climate Technology Platform สามารถติดต่อพันธมิตรเชิงกลยุทธ์อย่าง True Digital Group หรือติดต่อ Alibaba Cloud ประเทศไทยเพื่อคุยรายละเอียดโซลูชันต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ทันที