CDIC 2023

[Guest Post] ไมโครชิพเปิดตัว Ethernet PHY 1.6T ขนาดกะทัดรัดที่สุดในอุตสาหกรรมเชื่อมต่อสูงถึง 800 GbE ไปยังศูนย์ข้อมูลคลาวด์ด้วย 5G และ AI

META-DX2L ช่วยให้ เราเตอร์ สวิตช์ และไลน์การ์ดเพิ่มแบนด์วิดธ์เป็นสองเท่าโดยเปลี่ยนการทำงานด้วยอัตราอินเทอร์ เฟซ 112G PAM4

การรับส่งข้อมูลไปยังศูนย์ข้อมูลที่เพิ่มสูงขึ้นผ่านระบบ 5G บริการคลาวด์รวมถึงแอปพลิเคชัน ที่ใช้งาน Artificial Intelligence (AI) และ  Machine Learning (ML) นั้น ส่งผลทำให้อุปกรณ์เราเตอร์ สวิตช์ และไลน์การ์ด (line cards) ต้องใช้แบนด์วิดธ์ที่สูงขึ้น รวมถึงความถี่ของพอร์ตและการเชื่อมต่อสูงถึง 800 Gigabit Ethernet (GbE) เช่นกัน แต่การเปลี่ยนแปลงที่จะทำให้แบนด์วิดธ์สูงขึ้นได้ จำเป็นต้องอาศัยการออกแบบอุปกรณ์ที่สามารถตอบสนองต่อความท้าทายเรื่องเสถียรภาพของการรับส่งสัญญาณ ดังนั้นการเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่มีในอุตสาหกรรมปัจจุบันจึงต้องถูกปรับให้เชื่อมต่อกับ PAM4 Serializer/Deserializer (SerDes) แบบ 112G (กิกะบิตต่อวินาที) ซึ่งสามารถรองรับออปติกแบบเสียบ (pluggable optics) แบ็คเพลน (backplanes) ของระบบ และแพ็กเก็ต โปรเซสเซอร์แบบล่าสุดได้ ความท้าทายเหล่านี้สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการใช้  PHY (physical layer) พลังงานต่ำ 1.6T (เทราบิตต่อวินาที) ที่มีขนาดกะทัดรัดที่สุดในอุตสาหกรรมจาก Microchip Technology Inc. (Nasdaq: MCHP) อุปกรณ์  PM6200 META-DX2L ที่ลดพลังงานต่อพอร์ตลงร้อยละ 35 เมื่อเทียบกับรุ่น 56G PAM4 ที่ออกมาก่อนหน้านี้ ดังนั้น META-DX1 จึงถือเป็นโซลูชัน PHY ระดับเทราบิตชิ้นแรกของอุตสาหกรรม

“อุตสาหกรรมกำลังเปลี่ยนไปใช้ระบบแบบ 112G PAM4 สำหรับการสลับสัญญาณที่มีความถี่สูง การประมวลผลแพ็กเก็ต และ optics” นอกจากนี้ Bob Wheeler นักวิเคราะห์หลักด้านเครือข่ายที่ The Linley Group ยังได้กล่าวอีกว่า “META-DX2L ของไมโครชิพได้รับการปรับปรุงให้ตอบสนองความต้องการเหล่านี้ โดยเชื่อมการทำงานกับ line cards เพื่อสลับแฟบริก (fabrics) และ multi-rate optics สำหรับการเชื่อมต่อแบบ 100 GbE 400 GbE และ 800 GbE”

ด้วยความถี่ของแบนด์วิดธ์ที่เพิ่มสูงขึ้นเป็น 1.6T ประหยัดพื้นที่ ใช้งานกับเทคโนโลยี 112G PAM4 SerDes และรองรับอัตราการส่งสัญญาณของ Ethernet ตั้งแต่ 1 ถึง 800 GbE ทำให้อุปกรณ์ META-DX2L Ethernet PHY ของไมโครชิพถือเป็นเครื่องมือระดับอุตสาหกรรมที่มีความสามารถ ในการเชื่อมต่อที่หลากหลายนำไปประยุกต์ในการออกแบบเพื่อนำอุปกรณ์ต่างๆกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น รีไทม์เมอร์ กระปุกเกียร์ หรือกระปุกเกียร์ถอยหลัง ไปจนถึง multiplexor (mux) 2: 1 ที่ไม่ทำงาน เป็นต้น จากตัวอย่างที่กล่าวไปข้างต้น คุณลักษณะของครอสพอยท์และกระปุกเกียร์ที่กำหนดค่าได้สูงขึ้น ส่งผลทำให้อุปกรณ์ใช้งานแบนด์วิดท์ I/O ของสวิตช์ได้อย่างเต็มกำลัง จนทำให้สามารถเปิดใช้งานการเชื่อมต่อที่ยืดหยุ่นซึ่งจำเป็นสำหรับการทำงานของ multi-rate cards ที่รองรับ pluggable optics ได้หลากหลายรูปแบบ

นอกจากนี้ PAM4 SerDes ที่ใช้พลังงานต่ำของ PHY ยังช่วยให้อุปกรณ์สามารถรองรับอัตราอินเทอร์เฟซสำหรับโครงสร้างพื้นฐานของ cloud data center คลัสเตอร์ประมวลผล AI/ML และ 5G ในอนาคตได้อีกด้วย รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานของผู้ให้บริการโทรคมนาคม ไม่ว่าจะใช้สายเคเบิล ทองแดงแบบเชื่อมต่อโดยตรงระยะไกล (Direct Attach Copper) backplanes หรือการเชื่อมต่อกับ pluggable optics

“สำหรับรุ่น 56G เราได้เปิดตัว PHY เทราบิตรุ่นแรกของอุตสาหกรรมในชื่อว่า META-DX1 และตอนนี้เราได้ขยายขอบเขตไปพัฒนาคุณสมบัติของ 112G ซึ่งตอบโจทย์นักพัฒนาระบบในการใช้แก้ปัญหาความท้าทายใหม่ ๆ ที่เกิดจาก cloud data centers เครือข่าย 5G และ การขยายขนาดการประมวลผลของ AI/ML” นอกจากนนี้ Babak Samimi รองประธานหน่วยธุรกิจการสื่อสารของไมครชิพได้ขยายความเพิ่มว่า “ถึงแม้ว่าจะรับส่งสัญญาณผ่านแบนด์วิดธ์ด้วยความถี่สูงถึง 1.6T โครงสร้างภายของอุปกรณ์จะใช้พลังงานต่ำและมีขนาดที่เล็กที่สุด อุปกรณ์ META-DX2L PHY จะเพิ่มแบนด์วิดธ์เป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับอุปกรณ์อื่นๆที่ออกมาก่อนหน้านี้ในท้องตลาด ที่สำคัญอุปกรณ์ตัวนี้จะสร้างมาตรฐานใหม่ สำหรับประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงาน”

META-DX2L ถูกผลิตมาในขนาดบรรจุภัณฑ์ที่เล็กที่สุดในอุตสาหกรรม 23 x 30 มม. (มม.) ซึ่งช่วยให้ประหยัดพื้นที่ ซึ่งมีความจำเป็นในการสร้าง ความหนาแน่นของพอร์ต line card สำหรับไฮเปอร์สเกลเลอร์และนักพัฒนาระบบ ไฮไลท์ของผลิตภัณฑ์ มีดังนี้

  • อุปกรณ์คู่ 800 GbE, Quad 400 GbE และ 16x 100/50/25/10/1 GbE PHY
  • รองรับอัตราการรับส่งข้อมูลผ่าน Ethernet OTN และ Fibre Channel
  • รองรับอัตราการรับส่งข้อมูลสำหรับแอปพลิเคชันที่ใช้ AI/ML
  • มี mux hitless แบบ 2:1 ในตัว โครงสร้างภายในมีความพร้อมใช้งาน/การป้องกันสูง
  • ครอสพอยท์ที่กำหนดค่าได้สูงรองรับบริการหลายอัตราบนพอร์ตอื่น ๆ
  • ระยะแฝงคงที่ เปิดใช้งาน IEEE 1588 Class C/D PTP ที่ระดับการตั้งค่ามาตรฐานของระบบ
  • การยกเลิก การตรวจสอบ และการแปลง FEC ระหว่างอัตราอินเทอร์เฟซต่าง ๆ
  • 32 long-reach (LR) 112G PAM4 SerDes พร้อมความสามารถในการตั้งโปรแกรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานเทียบกับประสิทธิภาพการทำงาน
  • รองรับสาย DAC รวมถึงการเจรจาอัตโนมัติ (auto-negotiation) และการฝึกเชื่อมโยง (link training)
  • ใช้งานได้กับค่าอุณหภูมิของอุตสาหกรรม ทำให้ปรับใช้ในสภาพแวดล้อมกลางแจ้งได้
  • Complete Software Development Kit (SDK) ที่สมบูรณ์พร้อมความสามารถในการอัปเกรดแบบสม่ำเสมอและ warm restart นอกจากนี้ยังเข้ากันได้กับ META-DX1 SDK ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในภาคสนาม

ไมโครชิพนำเสนอชุดการออกแบบหลักที่ทำงานร่วมกันแบบอ้างอิงสำหรับการออกแบบและแผงประเมินผล เพื่อช่วยลูกค้าในการสร้างระบบ ด้วยอุปกรณ์ META-DX2L นอกจากเทคโนโลยี Ethernet PHY แล้วไมโครชิพยังมีเครื่องมือ เช่น  PolarFire® FPGAs PLL ประสิทธิภาพสูง ZL30632 ออสซิลเลเตอร์ ตัวควบคุมแรงดันไฟฟ้า และส่วนประกอบอื่น ๆ ที่ได้รับการตรวจสอบแล้วว่าสามารถทำงานร่วมกับ META-DX2L ได้ เพื่อช่วยให้ผู้ออกแบบระบบสามารถนำการออกแบบไปผลิตได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ความพร้อมของผลิตภัณฑ์

ในระยะแรกเราคาดว่าอุปกรณ์ META-DX2L จะถูกสุ่มตัวอย่างในช่วงไตรมาสที่สี่ของปี 2564 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่หน้าเว็บ PM6200 META-DX2L หรือติดต่อตัวแทนฝ่ายขายของไมโครชิพ

แหล่งที่มา

ภาพการใช้งานความละเอียดสูงสำหรับสื่อเพื่อเผยแพร่: www.flickr.com/photos/microchiptechnology/51374945989/sizes/l/ 

เกี่ยวกับ ไมโครชิพ เทคโนโลยี

บริษัท ไมโครชิพ เทคโนโลยี จำกัด เป็นผู้นำด้านการจัดหาเซมิคอนดักเตอร์สำหรับโซลูชั่นควบคุมแบบฝังที่เป็นอัจฉริยะ เชื่อมต่อ และปลอดภัย เครื่องมือพัฒนาที่ใช้งานง่าย ตลอดจนกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุม ช่วยให้ลูกค้าสามารถสร้างสรรค์งานออกแบบได้อย่างเหมาะสม ซึ่งช่วยลดความเสี่ยง ลดต้นทุนโดยรวมของทั้งระบบ และยังช่วยลดระยะเวลาในการนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด โซลูชั่นของบริษัทให้บริการลูกค้ามากกว่า 120,000 รายในตลาดอุตสาหกรรม ยานยนต์ ผู้บริโภค อวกาศและการป้องกันประเทศ การสื่อสารและการประมวลผล สำนักงานใหญ่ของไมโครชิพตั้งอยู่ที่เมืองแชนด์เลอร์ รัฐแอริโซนา บริษัทนำเสนอการสนับสนุนด้านเทคนิคที่เป็นเลิศ พร้อมกับการขนส่งและคุณภาพที่เชื่อถือได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของไมโครชิพที่ www.microchip.com

 


About Maylada

Check Also

Supermicro เปิดตัว Server ใหม่รองรับ AMD EPYC 8004 Series

Supermicro เปิดตัว Server ใหม่รองรับหน่วยประมวลผล AMD EPYC 8004 Series รุ่นล่าสุดจาก AMD ตอบโจทย์งาน Edge Computing

CloudCampus 10 Gbps คุณภาพสูงของหัวเว่ยเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่โลกอัจฉริยะในอุตสาหกรรมต่าง ๆ [Guest Post]

ในระหว่างงานหัวเว่ย คอนเนกต์ (Huawei Connect) ประจำปี 2566 หัวเว่ยได้เปิดตัวโซลูชัน CloudCampus 10 Gbps คุณภาพสูงเวอร์ชันอัปเกรดใหม่ที่มาพร้อมกับ 4 ฟีเจอร์สุดพิเศษ ได้แก่ การเข้าถึงความเร็วสูง, สถาปัตยกรรมแบบเรียบง่าย, สุดยอดประสบการณ์ และการดำเนินงานและการบำรุงรักษาแบบเรียบง่าย (O&M) โดยโซลูชันดังกล่าวพร้อมรองรับอนาคต มีความเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับองค์กรทั่วโลกในการสร้างเครือข่ายแคมปัสคุณภาพสูง “ความเร็ว 10 Gbps สำหรับสำนักงาน, 10 Gbps สำหรับการผลิต และ 10 Gbps สำหรับสาขา” เพื่อเร่งความเร็วในการเดินทางเปลี่ยนผ่านจากยุคดิจิทัลไปสู่ยุคระบบอัจฉริยะ